พ.ร.บ.ผู้ประสบภัยรถ

พ.ร.บ.ผู้ประสบภัยรถ

พรบ.อุบัติเหตุไม่ต้องสำรองจ่ายใช้สิทธิที่รพ.บางโพ แค่มี พ.ร.บ. สามารถใช้สิทธิ์รักษาพยาบาลได้ที่รพบางโพไม่ต้องสำรองจ่าย คุ้มครองไม่เกิน 30,000 บาท (คุ้มครองสูงสุดถึง 80,000 บาท) ตลอด 24 ชั่วโมง ให้ความคุ้มครองแก่ผู้ประสบภัยจากรถ ทุกคนที่ประสบภัยจากรถมอเตอร์ไซค์ รถยนต์คันที่ขับขี่หรือนั่งซ้อนท้ายมา รวมถึงคนเดินถนนที่ไม่ได้ขับขี่ ซ้อนท้ายหรือโดยสารในรถคันอื่นๆ โดยไม่ต้องรอสรุปผลทางคดี (หมายความว่าถ้าเกิดอุบัติเหตุทำให้มีผู้บาดเจ็บ เสียชีวิต หรือสูญเสียอวัยวะ พ.ร.บ. จะคุ้มครองผู้ประสบภัยทุกคน ทันที)

เอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับใช้สิทธิ์ พ.ร.บ.
  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน, ใบขับขี่, สำเนาทะเบียนบ้าน
  • สำเนาตารางกรมธรรม์รถ (พ.ร.บ.) หรือ สำเนาทะเบียนรถ
  • รายการจดทะเบียนรถ
  • รายการเสียภาษี หรือ สติ๊กเกอร์ต่อภาษี
  • เลขเคลมจากบริษัทประกันภัย หรือ ใบติดต่อ
  • บันทึกประจำวันตำรวจ ระบุวัน, เวลา, สถานที่เกิดเหตุ, ชื่อผู้บาดเจ็บ และ ทะเบียนรถคันเกิดเหตุให้ชัดเจนเอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับผู้โดยสาร หรือ บุคคลนอกรถ
เอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับเด็ก
  • สูติบัตร, สำเนาทะเบียนบ้าน
  • สำเนาบัตรประชาชนบิดา, มารดา

ค่าเสียหายต่อชีวิต - ร่างกายของผู้ประสบภัยอันเนื่องจากการใช้รถที่บริษัทประกันภัยต้องจ่ายโดยไม่ต้องรอพิสูจน์ความรับผิดชอบและให้ถือเป็นส่วนหนึ่งของสินไหมทดแทน

ค่าเสียหายเบื้องต้น
  • ค่ารักษาพยาบาลไม่เกิน
  • ค่าทุพพลภาพ / สูญเสียอวัยวะหรือค่าปลงศพ
  • ค่าสินไหมทดแทนสูงสุด (รวมค่าเสียหายเบื้องต้น) วงเงินสูงสุด
  • กรณีบาดเจ็บไม่เกิน
  • กรณีเสียชีวิต หรือ ทุพพลภาพถาวร
  • 30,000 บาท
  • 35,000 บาท
  • 304,000 บาท /คน
  • 80,000 บาท
  • 300,000 บาท
กรณีสูญเสียอวัยวะ
  • นิ้วขาด 1 ข้อขึ้นไป
  • สูญเสียอวัยวะ 1 ส่วน
  • สูญเสียอวัยวะ 2 ส่วน
  • ค่าชดเชยการรักษาตัว (ผู้ป่วยใน) 200 บาท/วัน ไม่เกิน 20 วัน
  • 200,000 บาท
  • 250,000 บาท
  • 300,000 บาท
  • 4,000 บาท

เงื่อนไขการเข้ารับบริการ

  • ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้น กรณีประสบอุบัติเหตุจากรถไม่ต้องสำรองจ่ายในวงเงินไม่เกิน 30,000 บาท ทุกกรณี
  • พ.ร.บ. ต้องไม่หมดอายุ หรือ พ.ร.บ. ไม่ขาด กรณีหากเอกสารไม่ครบ นำบัตรประชาชนก็สามารถเบิกได้

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
แผนกประสานสิทธิ์
โทรศัพท์ 0-2587-0144 ต่อ 1227

โปรแกรมเหมาจ่าย ผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า

โปรแกรมเหมาจ่าย ผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า

Knee replacement surgery Program

โปรแกรมเหมาจ่าย ผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า : 185,000.-


Knee replacement surgery Program
โรคข้อเข่าเสื่อม หมายถึง โรคที่เกิดจากความเสื่อมของกระดูกอ่อนผิวข้อทั้งทางด้านรูปร่าง โครงสร้าง การทำงานของกระดูกข้อต่อและกระดูกบริเวณใกล้ข้อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นไม่สามารถกลับสู่สภาพเดิมและอาจมีความเสื่อมรุนแรงขึ้นตามลำดับ

ผ่าตัดข้อเข่าเทียม

ข้อเข่ามีลักษณะคล้ายบานพับประกอบด้วยกระดูกต้นขาและกระดูกหน้าแข้งซึ่งเชื่อมต่อกันด้วยเส้นเอ็นที่แข็งแรงทำหน้าที่ค้ำจุนและให้ความแข็งแรงมั่นคงแก่ข้อเข่าทั้งด้านข้างและภายในข้อเข่าอยู่สี่เส้นขอบบนลูกสะบ้ามีกล้ามเนื้อต้นขาส่วนหน้ามาเกาะและส่วนปลายของลูกสะบ้ามีเอ็นเกาะติดกับส่วนบนของกระดูกหน้าแข้ง
โรคข้อเข่าเสื่อม หมายถึง โรคที่เกิดจากความเสื่อมของกระดูกอ่อนผิวข้อทั้งทางด้านรูปร่าง โครงสร้าง การทำงานของกระดูกข้อต่อและกระดูกบริเวณใกล้ข้อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นไม่สามารถกลับสู่สภาพเดิมและอาจมีความเสื่อมรุนแรงขึ้นตามลำดับ
ควรผ่าตัดข้อเข่าเมื่อใด
  1. มีอาการปวด บวม ตึงข้อเข่า ซึ่งส่งผลต่อการทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันของผู้ป่วย
  2. แก้ไขความผิดรูปหรือความพิการของข้อเข่า
  3. เพื่อป้องการการเสื่อมของข้ออื่นๆ ตามมา
  4. รักษาด้วยวิธีอนุรักษ์นิยม (การใช้ยา กายภาพบำบัด) มาแล้วไม่ดีขึ้น

โปรแกรมเหมาจ่าย ผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า

185,000.-

Knee replacement surgery Program

ราคาดังกล่าว รวมค่าบริการ ดังนี้
  1. ห้องพักเดี่ยว 5 วัน 4 คืน รวมค่าอาหาร ค่าบริการโรงพยาบาล ,ค่าบริการพยาบาล
  2. ห้องผ่าตัด 2 ชั่วโมง
  3. แพทย์ผ่าตัดเฉพาะทางด้านผ่าตัดข้อเข่าเทียม วิสัญญีแพทย์ และพยาบาลช่วยผ่าตัด
  4. ค่ายาและเวชภัณฑ์ในห้องผ่าตัดและกลับบ้าน
  5. ตรวจประเมินความพร้อมก่อนการผ่าตัด (ตรวจเลือดทางห้องปฏิบัติการ 11 รายการ, X-Ray ปอดและ X-Ray เข่า, ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ EKG และ ตรวจประเมินสภาวะหัวใจ Screening Echo
  6. ข้อเข่าเทียมมาตรฐานสหรัฐอเมริกา ตามที่ รพ.กำหนด หากเลือกข้อเข่าเทียมชนิดอื่น มีค่าใช้จ่ายส่วนเกิน
  7. การใช้เครื่อง Pneumatic compression เพื่อป้องกันภาวะหลอดเลือดอุดตัน
  8. การจองเลือดแบบ Type screen
ราคาดังกล่าว ไม่รวม ค่าใช้จ่าย ดังนี้
  1. ค่ายาและการรักษาอื่น หากผู้ป่วยมีโรคประจำตัวหรือโรคแทรกซ้อน ขณะหรือหลังผ่าตัด
  2. ไม่รวมค่าใช้จ่ายในส่วนที่เกิดภาวะไม่พึงประสงค์ รวมภาวะแทรกซ้อน ซึ่งส่งผลทำให้เกิดการผ่าตัดซ้ำ
  3. ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด เช่น ค่าอาหารและเครื่องดื่มกรณีสั่งเพิ่มเติม ค่าโทรศัพท์
  4. ไม่สามารถใช้ร่วมกับส่วนลดต่างๆ จากบริษัทคู่สัญญาและบัตรส่วนลดต่างๆ
วันนี้ -31 กรกฎาคม 2568
เงื่อนไขการเข้ารับบริการ
  • แพ็กเกจดังกล่าวไม่สามารถใช้ร่วมกับสิทธิ์และส่วนลดอื่นๆ ได้
  • ผู้เข้ารับบริการชำระค่าใช้จ่าย ณ โรงพยาบาล ในวันที่เข้ารับบริการ
  • โรงพยาบาลขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

โปรแกรมและแพ็คเกจ

คัดกรองมะเร็งเต้านม

มะเร็งเต้านม ภัยร้าย […]

เปิดเทอมกับชีวิตวิถีใหม่

เปิดเทอมกับชีวิตวิถีใหม

Back to School new normal style

ใกล้เปิดเทอมแล้วจ้า แต่เปิดเทอมรอบนี้ไม่ธรรมดา เพราะเป็นปีที่มีโรคระบาดใหม่อย่าง COVID-19 ระบาดตั้งแต่ช่วงต้นปี แม้ว่าสถานการณ์ในประเทศไทยจะควบคุมได้ดีแต่ก็ต้องไม่ประมาท ใช้ชีวิตตามวิถีปกติใหม่ เด็กๆก็ต้องปรับตัวเช่นกัน คุณพ่อคุณแม่ ผู้ปกครองจะต้องเตรียมตัวลูกๆอย่างไรบ้าง เราไปดูกันเลย

  1. เกาะติดสถานการณ์ : คอยติดตามสถานการณ์การระบาดของโรค COVID-19 อยู่เสมอ จะได้ทราบมาตรการจากทางการ และสอนให้ลูกรู้จักโรค COVID-19 อย่างถูกต้อง
  2. คัดกรอง : สังเกตอาการป่วยของลูก ถ้ามีอาการไข้ ไอ น้ำมูก เจ็บคอ หายใจลำบาก เหนื่อยหอบ ไม่รู้รสหรือกลิ่น ให้รีบแจ้งทางโรงเรียนทันทีและให้หยุดเรียนไว้ก่อน (ปัจจุบันขาดเรียนหรือกักตัวเด็กก็สามารถตามบทเรียนได้หลายช่องทาง ไม่ต้องกลัวตามเพื่อนไม่ทัน)
  3. หน้ากากอนามัยและของใช้ส่วนตัว : สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธี และเตรียมของใช้ส่วนตัวไปใช้ที่โรงเรียนแทนการใช้ของส่วนกลาง เช่น ช้อนส้อม แก้วน้ำ แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ผ้าเช็ดหน้าหรือผ้าเช็ดมือ เป็นต้น
  4. ล้างมือบ่อยๆ : สอนลูกให้หลีกเลี่ยงการเอามือไปสัมผัสใบหน้า ขยี้ตา หรือแคะจมูก ซึ่งเป็นพฤติกรรมเสี่ยง
    ที่ทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย และให้ล้างมือทุกครั้งที่จับบริเวณที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ลูกบิดประตู ราวบันได และก่อนรับประทานอาหาร โดยล้างมือด้วยน้ำกับสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ที่มีความเข้มข้น 70% ขึ้นไปอย่างน้อยนาน 20 วินาที (ร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ 2 รอบ) และหลังกลับจากโรงเรียนให้รีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที
  5. เว้นระยะห่าง : หลีกเลี่ยงสถานที่แออัดและเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อย 1-2 เมตร ในการทำกิจกรรมระหว่างเรียน ช่วงพัก และหลังเลิกเรียน เช่น นั่งกินอาหาร ออกกำลังกาย เข้าแถวต่อคิว เป็นต้น
  6. ทำความสะอาด : ปลูกฝังให้หมั่นทำความสะอาดบริเวณที่สัมผัสบ่อยๆ และบริเวณที่ใช้ทำกิจกรรม รวมถึงอุปกรณ์การเรียน เช่น กระเป๋านักเรียน ผู้ปกครองอาจเตรียมแอลกอฮอล์สเปรย์สำหรับทำความสะอาดติดตัวไปโรงเรียนด้วยถ้าทำได้
  7. ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง : เตรียมร่างกายลูกให้แข็งแรง กินอาหารครบ 5 หมู่ ที่สุก สะอาด ออกกำลังกายสม่ำเสมอ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่าลืมเพิ่มพลังด้วยอาหารมื้อเช้าก่อนเข้าเรียน (แนะนำให้รับประทานอาหารเช้าจากบ้าน หากจำเป็นต้องรับประทานที่โรงเรียนแนะนำให้จัดเตรียมเป็น Box set จากบ้านแทนการซื้อที่โรงเรียน)
  8. ความเจ็บป่วยไม่ใช่เรื่องน่าอับอาย : สอนลูกเสมอว่าไม่มีใครอยากป่วย ไม่ควรล้อเลียนความผิดปกติหรืออาการไม่สบายของเพื่อน เนื่องจากอาจจะทำให้เกิดความหวาดกลัวเกินเหตุ หรือเกิดการแบ่งแยก กีดกัน หรือตีตราในหมู่นักเรียน ควรแสดงความเห็นอกเห็นใจ
    ถ้าทำได้ตามนี้ ลูกๆก็จะมีเกราะป้องกันโรค COVID-19 พร้อมสำหรับเปิดเทอม เชื่อว่าไม่ยากเกินไปสำหรับทุกครอบครัว และอย่าลืมป้องกันโรคอื่นๆที่ขอให้ทุกท่านสุขภาพดี
พญ.ขวัญจันทร์ ขัมพานนท์

กุมารแพทย์ทั่วไป โรงพยาบาลบางโพ

โปรแกรมและแพ็คเกจ

โรคอุจจาระร่วงในเด็ก จากเชื้อไวรัสโรต้า

โรคอุจจาระร่วงในเด็ก จากเชื้อไวรัสโรต้า

Rotarix : หยอด 2 ครั้ง : 2,390.-

Rotateq : หยอด 3 ครั้ง : 2,590.-


ลูกคือคนสำคัญของพ่อ แม่
เราจึงเลือกการป้องกันที่แท้จริง
และครอบคลุม

โรคท้องเสียหรืออุจจาระร่วงหรือท้องเดินเป็นปัญหาความเจ็บป่วยที่พบได้บ่อยที่สุดในเด็กโดยเฉพาะช่วงอากาศเย็นๆแบบนี้จะมีเด็กป่วยท้องเสียกันเป็นจำนวนมากทำให้เด็กป่วยเสียคุณภาพชีวิต พ่อแม่เสียเวลาต้องมาเฝ้าดูแล และยังระบาดไปถึงคนในครอบครัวรวมทั้งผู้ใหญ่ด้วย สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทยจึงขอเสนอสาระความรู้เกี่ยวกับเรื่องท้องเสียมาให้รู้จักกันเพื่อปฏิบัติได้ถูกต้อง
โรคท้องเสียเกิดจากอะไร
โรคท้องเสียที่พบในเด็กมีสาเหตุหลักมาจากการติดเชื้อไวรัสรองลงมาคือการติดเชื้อแบคทีเรียและเชื้ออื่นๆ เช่น เชื้อปรสิตอาหารเป็นพิษจากสารพิษในสิ่งแวดล้อมที่ปนเปื้อนในอาหารหรือสารพิษที่สร้างขึ้นจากเชื้อแบคทีเรีย นอกจากนี้แล้วท้องเสียยังอาจเกิดจากการได้รับยาบางชนิด ชาวบ้านอาจบอกว่า เด็กท้องเสียเพราะเด็กยืดตัว แต่แท้จริงแล้วไม่ใช่
ไวรัสโรต้า สำคัญอย่างไร
จากข้อมูลทางระบาดวิทยาของประเทศไทยและทั่วโลกพบว่ามากกว่าร้อยละ 90 ของโรคท้องเสียในเด็กเกิดจากเชื้อไวรัสเช่นไวรัสโรต้า เอ็นเตอโรไวรัสโนโรไวรัสอะดีโนไวรัสรวมทั้งไวรัสอื่นๆ ที่ทำให้เกิดโรคหวัดก็อาจก่อให้เกิดอาการท้องเสียได้ทั้งหมดนี้ไวรัสตัวที่สำคัญคือไวรัสโรต้า เนื่องจากเป็นไวรัสที่ทำให้เกิดอาการท้องเสียได้รุนแรงมากที่สุด ทำให้ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลมากกว่าไวรัสตัวอื่นๆ โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กเล็กจะรุนแรงมากกว่าเด็กโตประมาณครึ่งหนึ่งของเด็กที่ท้องเสียรุนแรงจนต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเกิดจากการติดเชื้อไวรัสโรต้า เด็กที่เคยท้องเสียจากไวรัสโรต้า อาจเป็นซ้ำได้เพราะไวรัสโรต้านี้มีหลายสายพันธุ์ แต่อาการมักไม่หนักเท่ากับการเป็นครั้งแรก นอกจากนี้ ไวรัสโรต้ายังสามารถแพร่กระจายเชื้อได้เร็วกว่าเพราะอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานกว่า เป็นเวลาหลายชั่วโมงโดยเฉพาะช่วงที่อากาศเย็น และผู้ป่วยเหล่านี้สามารถขับถ่ายเชื้อได้ในปริมาณมากหลายล้านตัว เป็นเวลานานเป็นสัปดาห์แต่เชื้อเพียง 10 ตัวก็ก่อนโรคได้แล้ว แม้ว่าไวรัสโรต้ามักเกิดปัญหาในเด็กแต่ก็อาจก่อปัญหาในผู้ใหญ่และผู้สูงอายุได้และอาจมีอาการรุนแรงได้เช่นกัน
  • ไวรัสโรต้าเป็นเชื้อไวรัส ทำให้เกิดโรคอุจจาระร่วงที่รุนแรงในเด็กทารกและเด็กเล็ก
  • ไวรัสนี้ระบาดได้ตลอดทั้งปีและพบมากขึ้นในช่วงอากาศเย็น ฤดูหนาว
  • ไวรัสโรต้าติดต่อกันได้ง่ายเข้าสู่ปากโดยการรับประทานอาหารและน้ำ หรือปนเปื้อนมากับมือ จากการสัมผัสสิ่งของ เครื่องใช้ หรือของเล่นต่างๆ
  • ไวรัสนี้สามารถมีชีวิตอยู่บนมือและสิ่งแวดล้อมได้นานจึงเกิดการแพร่กระจายและระบาดได้ง่าย
  • ปัจจุบันมีวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโรต้าชนิดรับประทานมีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงเด็กเล็กควรได้รับการหยอดวัคซีนก่อนอายุ 4 เดือน

โรต้า 1 สายพันธุ์

หยอด 2 ครั้ง : 2,390.-

อายุ 2 และ 4 เดือน
ไม่รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาล

โรต้า 5 สายพันธุ์

หยอด 3 ครั้ง 2,590.-

อายุ 2,4 และ 6 เดือน
ไม่รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาล
วัคซีนทั้งสองชนิด สามารถเริ่มให้ครั้งแรกได้เมื่ออายุ 6-15 สัปดาห์ และครั้งสุดท้ายอายุไม่เกิน 8 สัปดาห์
ขนาดและวิธีใช้
  1. ให้กิน ถ้าเป็น Rotarix ให้ 2 ครั้ง แนะนำตอนอายุ 2, 4 เดือน สำหรับ Rotateq ให้ 3 ครั้ง แนะนำให้ตอนอายุ 2, 4, 6 เดือน (วัคซีนทั้ง 2 ชนิดสามารถเริ่มให้ครั้งแรกได้เมื่ออายุ  6-15 สัปดาห์ และครั้งสุดท้ายอายุไม่เกิน 8 เดือน แต่ละครั้งห่างกันไม่น้อยกว่า 4 สัปดาห์)
  2. ควรให้วัคซีนชนิดเดียวกันจนครบ หากจำเป็นต้องใช้วัคซีนต่างชนิดกันในแต่ละครั้ง หรือไม่ทราบชนิดของวัคซีนที่ได้รับในครั้งก่อน ต้องให้วัคซีนทั้งหมด 3 ครั้ง
  3. สามารถให้วัคซีนโรต้าร่วมกับวัคซีนโปลิโอชนิดกินได้
  4. ห้ามใช้วัคซีนนี้ในผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง Severv combined immune deficiency (SCID) และในเด็กที่มีประวัติลำไส้กลืนกัน
วันนี้ - 31 ธันวาคม 2568

โปรแกรมและแพ็คเกจ

โปรแกรมตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน/มีบุตร

โปรแกรมตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน/มีบุตร

"เริ่มต้นชีวิตคู่ เริ่มพร้อมสุขภาพดี"


การแต่งงานหรือการมีชีวิตคู่นั้นเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนและสำคัญต่อชีวิตของคู่หญิง-ชายมาก เพราะก่อนแต่งงานต่างฝ่ายต่างเคยใช้ชีวิตตามวิถีที่ตนพอใจมาโดยตลอด และการที่คนสองคนตัดสินใจเลือกใครคนหนึ่งให้เข้ามาในชีวิต สิ่งที่สำคัญที่สุดคือทั้งสองพร้อมที่จะอยู่ข้างๆ กัน ช่วยเหลือเติมเต็มซึ่งกันและกัน การเริ่มต้นด้วยสุขภาพดี ช่วยให้การใช้ชีวิต และสร้างครอบครัวอย่างมีสุขภาพดี

เตรียมความพร้อมด้วยแพ็คเกจสุดคุ้ม

การแต่งงาน คือการเริ่มต้นใช้ชีวิตคู่ของคนสองคน การที่คนสองคนตัดสินใจเลือกใครคนหนึ่งให้เข้ามาในชีวิต ซึ่งมีความแตกต่างในชาติกำเนิด เศรษฐกิจ วัฒนธรรมของแต่ละครอบครัว นิสัยส่วนตัว พันธุกรรม รวมถึงโรคประจำตัว จึงจำเป็นต้องทำความเข้าใจกันก่อนแต่งงาน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือทั้งสองคน พร้อมที่จะอยู่ข้างๆ กัน ช่วยเหลือเติมเต็มซึ่งกันและกัน
การเช็คสุขภาพของทั้งคู่ จึงจำเป็นเพื่อป้องกันโรคติดต่อกันได้จากคู่สมรส เช่น ซิฟิลิส ไวรัสตับอักเสบบี เอดส์ และยังเป็นการป้องกันการแพร่เชื้อไปสู่ลูกน้อย พราะบางคนอาจเป็นพาหะโดยไม่รู้ตัว และการแต่งงานตอนอายุมากแล้ว คุณแม่ที่ตั้งครรภ์เมื่ออายุ 35 ขึ้นไปจะมีความเสี่ยงเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์ได้ หรือบางคนอาจมีโรคประจำตัวก็ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเพื่อความปลอดภัยที่จะตั้งครรภ์
รายการตรวจ โปรแกรม
ชาย หญิง
ตรวจร่างกายโดยแพทย์
Physical Examination
ตรวจความสมบูรณ์ของเลือด
CBC
ตรวจหมู่เลือด
Blood group ABO, Rh
ตรวจหาเชื้อกามโรคซิฟิลิส
VDRL
ตรวจหาเชื้อไวรัสเอดส์
Anti HIV
ตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดบีและภูมิคุ้มกัน
HbsAg, HBsAb, Anti-HBc (IgG)
ตรวจหาพาหะโรคธาลัสซีเมีย
HB Typing
ตรวจภูมิคุ้มกันหัดเยอรมัน
Rubella
ราคาปกติ 3,880.- 4,480.-

ราคาแพ็คคู่

5,000.-

รายละเอียดเพิ่มเติม
  • สูตินรีแพทย์จะเป็นผู้อธิบายผลการตรวจร่างกาย และให้คำแนะนำการปฏิบัติตัววางแผนก่อนแต่งงาน และการมีบุตร
  • ไม่ต้องงดน้ำและอาหารก่อนการตรวจร่างกาย
  • นัดฟังผล 1 สัปดาห์ (ผลทางห้องปฏิบัติการ LAB)
วันนี้ - 31 ธันวาคม 2568

โปรแกรมและแพ็คเกจ

Baby Delivery Package

Normal Delivery Pack […]

PACKAGE ฝังยาคุมกำเนิด

แพ็กเกจฝังยาคุมกำเนิ […]

ปกป้องลูกน้อยให้ห่างไกล โรคปอดบวม ด้วยวัคซีน IPD 13 สายพันธุ์

วัคซีนป้องกันปอดบวม IPD

IPD baby A (4 เข็ม) : 9,900.-

IPD baby B (3 เข็ม) : 7,800.-

IPD baby C (2 เข็ม) : 5,300.-


ลูกคือคนสำคัญของพ่อ แม่
เราจึงเลือกการป้องกันที่แท้จริง
และครอบคลุม

นิวโมคอลคัส (Streptococcus pneumoniae)
เชื้อนิวโมคอลคัสมีชื่อเต็มว่า Streptococcus pneumoniae
ซึ่งเป็นแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่มีมากกว่า 90 สายพันธุ์ เป็นสาเหตุสำคัญของ
โรคไอพีดี หรือโรคติดเชื้อนิวโมคอคคัสชนิดรุนแรง และรุกราน
ได้แก่โรคติดเชื้อในกระแสเลือด โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ โรคปอดบวม
รวมทั้งสามารถทำให้เกิดโรคติดเชื้อนิวโมคอคคัสชนิดไม่รุนแรง เช่นหูชั้นกลางอักเสบ

IPD baby A

4 เข็ม 9,900.-

เริ่มต้นที่อายุ 2-6 เดือน

IPD baby B

3 เข็ม 7,800.-

เริ่มต้นที่อายุ 7-11 เดือน

IPD baby C

2 เข็ม 5,300.-

เริ่มต้นที่อายุ 12-23 เดือน
วันนี้ - 31 ธันวาคม 2568

โปรแกรมและแพ็คเกจ

วัคซีนป้องกันโรคร้าย วัย 50+

วัคซีนป้องกันโรคร้าย วัย 50+

เตรียมความพร้อม สู่ "สังคมสูงวัย อย่างมีสุขภาพดี"


การได้รับฉีดวัคซีนในวัยเด็กเป็นสิ่งที่สำคัญที่จะช่วยป้องกันการเกิดโรคได้ แต่เมื่ออายุมากขึ้นปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคก็เพิ่มมากขึ้น  ภูมิต้านทานจากการฉีดวัคซีนอาจลดลงเมื่อเวลาผ่านไปจึงจำเป็นต้องฉีดกระตุ้นใหม่ หรือเมื่ออายุมากขึ้นความไวของเชื้อในการก่อโรคมากขึ้น เช่น ไข้หวัดใหญ่ และโรคปอดบวม1 ดังนั้นในผู้สูงอายุก็มีความจำเป็นที่ต้องฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันโรคเช่นเดียวกัน

ผู้ใหญ่อายุ 50 ปี ขึ้นไปทุกคน แพทย์แนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรค การฉีดวัคซีนป้องกัน ช่วยให้บรรเทาอาการของโรคและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง นอกจากนี้ยังลดโอกาสเสี่ยงการแพร่กระจายเชื้อไปสู่คนอื่น ในวัยผู้ใหญ่ภูมิคุ้มกันจะลดลงตามอายุที่มากขึ้น จึงต้องมีการกระตุ้นด้วยการฉีดวัคซีน หรืออาจจะเป็นเพราะเชื้อโรคนั้นมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง หรือสายพันธุ์ใหม่จนระบบภูมิคุ้มกันเดิมร่างกายไม่รู้จักเชื้อนั้น เช่น ไข้หวัดใหญ่

รายการตรวจ ราคา(บาท)
วัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์
ควรฉีดป้องกันปีละ 1 ครั้ง
849.-
(รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาล)
วัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ High Dose สำหรับผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป
ควรฉีดป้องกันปีละ 1 ครั้ง
2,500.-
(รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาล)
วัคซีนสุกใส (1 เข็ม)
ควรฉีดในผู้ที่ไม่เคยได้รับวัคซีนหรือไม่เคยเป็นอีสุกอีใสมาก่อน
1,700.-
(ไม่รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาล)
วัคซีนตับอักเสบ บี (1 เข็ม)
โดยฉีด 3 ครั้งห่างกัน 4-8 สัปดาห์
660.-
(ไม่รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาล)
วัคซีนตับอักเสบ บี (3 เข็ม)
ฉีด 3 เข็มป้องกันตลอดชีวิต
1,980.-
(ไม่รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาล)
วัคซีนตับอักเสบ เอ (1 เข็ม)
ฉีด 1 เข็มป้องกันตลอดชีวิต
1,200.-
(ไม่รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาล)
วัคซีนตับอักเสบ เอ (1 เข็ม) + บี (3 เข็ม)
ฉีด 4 เข็มป้องกันตลอดชีวิต
3,190.-
(รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาล)
วัคซีนบาดทะยัก (1 เข็ม)
360-420.-
(ไม่รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาล)
วัคซีนป้องกันโรคปอดบวม 13 สายพันธุ์
ฉีด 1 เข็มป้องกันตลอดชีวิต
3,250.-
(ไม่รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาล)
วัคซีนงูสวัด (RZV) 1 เข็ม
(ฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 2 – 6 เดือน)
5,990.-
(รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาล)
วัคซีนงูสวัด (RZV) 2 เข็ม
(ฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 2 – 6 เดือน)
11,900.-
(รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาล)
วันนี้ - 31 ธันวาคม 2567

โปรแกรมและแพ็คเกจ

Bangpo Home Health Care

Bangpo Home Health Care

เพราะห่วงใย ให้คุณอุ่นใจ

Bangpo Home Health Care

ให้บางโพ ดูแลถึงบ้านคุณ


พร้อมบริการที่หลากหลายจากทีมพยาบาลวิชาชีพและอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานเหมือนอยู่ในโรงพยาบาล เพื่อดูแลคุณอย่างต่อเนื่อง หมดกังวลเรื่องการเดินทางฝ่ารถติด การรอคิวนาน หรือความเสี่ยงในการรับเชื้อ!

Bangpo Home Health Care

เพราะห่วงใย ให้คุณอุ่นใจ

พร้อมบริการที่หลากหลายจากทีมพยาบาลวิชาชีพและอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานเหมือนอยู่ในโรงพยาบาล เพื่อดูแลคุณอย่างต่อเนื่อง หมดกังวลเรื่องการเดินทางฝ่ารถติด การรอคิวนาน หรือความเสี่ยงในการรับเชื้อ!

ให้บริการ

  • ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่
  • การทำความสะอาดและดูแลแผลเรื้อรัง / แผลหลังผ่าตัด
  • เจาะเลือด เพื่อส่งตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ
  • ให้อาหารทางสายยางทางจมูก หรือหน้าท้อง
  • เปลี่ยนสายสวนปัสสาวะ
  • บริการดูดเสมหะ
  • การรับ-ส่ง ใช้บริการที่โรงพยาบาลบางโพ
  • ให้การพยาบาลอื่นๆ เช่น เฝ้าไข้ ให้ยาฆ่าเชื้อ (เฉพาะผู้ป่วย โรงพยาบาลบางโพ)

เพียงแค่ 3 ขั้นตอนง่ายๆ เราจะไปหาท่าน

1

ลงทะเบียนรับบริการได้ที่: ฟอร์มลงทะเบียน

โทรศัพท์: 02-587-0144 ต่อ 20

กรอกข้อมูลเพื่อลงทะเบียนรับบริการ

2

เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ

เจ้าหน้าที่จะติดต่อเพื่อยืนยันและนัดหมายเวลา

3

รอรับบริการที่บ้าน

เจ้าหน้าที่เข้าไปให้บริการถึงบ้านตามนัดหมาย

ค่าบริการ

ค่าบริการหัตถการ
ราคาเริ่มต้นที่
วัคซีนไข้หวัดใหญ่ (รวมวัคซีน)
849.-
ทำแผล (ไม่รวมค่าแพทย์)
965.-
เจาะเลือด (ไม่รวมรายการ LAB)
806.-
ให้อาหารทางสายยางกระเพาะอาหาร
580.-
ใส่สายสวนปัสสาวะ Retained foley cath
1,070.-
ดูดเสมหะ
650.-
ให้ยาฆ่าเชื้อ (เฉพาะผู้ป่วย โรงพยาบาลบางโพ)
996.-
ราคาดังกล่าวเป็นราคาเริ่มต้น เฉพาะค่าบริการ
ค่าบริการรถพยาบาล
ราคาเริ่มต้นที่
ไม่เกิน 5 กิโลเมตร
500.-
8-16 กิโลเมตร
700.-
16-18 กิโลเมตร
1,500.-
น้อยกว่า 25-45 กิโลเมตร
2,000.-
น้อยกว่า 45-70 กิโลเมตร
2,500.-
สนใจบริการ : ลงทะเบียน
หรือ โทร. 02-587-0144 ต่อ 20