โรคไข้เลือดออก

โรคไข้เลือดออกเดงกี

DENGUE FEVER
โรคไข้เลือดออกเดงกี เป็นโรคติดเชื้อไวรัสเดงกีที่มียุงลายเป็นพาหนะนำโรค พบได้ตลอดปีแต่จะพบมากขึ้นในฤดูฝน ส่วนใหญ่จะพบในเด็ก แต่ผู้ใหญ่ก็พบได้ เชื้อไวรัสเดงกี่ มี 4 สายพันธุ์ คือ เดงกี่ 1 เดงกี่ 2 เดงกี่ 3 และเดงกี่ 4 ด้วยสาเหตุนี้ทำให้เราติดเชื้อได้หลายครั้ง ระยะฟักตัวในยุงลายประมาณ 8-10 วัน โรคไข้เลือดออกเดงกี่เกิดจากยุงลายตัวเมียกัดและดูดเลือดผู้ป่วยที่อยู่ในระยะไข้ ซึ่งเป็นระยะที่มีไวรัสอยู่ในกระแสเลือดมาก เมื่อยุงลายที่มีเชื้อไวรัสเดงกี่ไปกัดก็ทำให้ผู้ที่ถูกกัดป่วยได้ ส่วนใหญ่จะเริ่มมีอาการ 5-8 วัน
 
อาการ
  • มีไข้สูง 2-7 วัน ร่วมกับอาการอาเจียน ปวดหัว
  • อาการหวัดไม่เด่นชัด มักไม่มีอาการไอ หรือน้ำมูกไหล
  • ส่วนใหญ่ มีหน้าแดง ปวดศีรษะ
  • อาจมีเลือดออกตามผิวหนัง หรือตามอวัยวะต่างๆ โดยเฉพาะเลือดกำเดา
  • อาจมีอาการถ่ายอุจจาระ อาเจียนเป็นเลือด
  • บางรายมีภาวะช็อคเกิดขึ้นพร้อมๆ กับมีไข้ลดลง โดยมีอาการกระสับกระส่าย มือเท้าเย็น ปวดท้องรุนแรงขึ้น
  • ในรายที่รุนแรงมาก อาจถึงเสียชีวิตถ้าไม่ได้รับการรักษาทันท่วงที
 
โรคไข้เลือดออกเดงกี แบ่งได้เป็น 3 ระยะ คือ
  • ระยะไข้
    ผู้ป่วยจะมีไข้สูงเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน ส่วนใหญ่ไข้จะสูงเกิน 38.5 องศาเซลเซียส บางรายอาจมีอาการชักเกิดขึ้นโดยเฉพาะในเด็กที่เคยมีประวัติชักมาก่อน ผู้ป่วยมักจะมีหน้าแดง (flushed face) ส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะไม่มีอาการน้ำมูกไหลหรืออาการไอ เบื่ออาหาร อาเจียน และไข้จะสูงลอยอยู่ 2-7 วัน อาจพบมีผื่นแบบ erythema หรือ maculopapular ซึ่งมีลักษณะคล้ายผื่น rubella ได้ อาการเลือดออกที่พบบ่อยคือ ที่ผิวหนัง การทำ tourniquet test ให้ผลบวกได้ตั้งแต่ 2-3 วันแรกของโรค ร่วมกับมีจุดเลือดออกเล็กๆ กระจายตามแขน ขา ลำตัว รักแร้ อาจมีเลือดกำเดาหรือเลือดออกตามไรฟัน ในรายที่รุนแรงอาจมีอาเจียนและถ่ายอุจจาระเป็นเลือด ซึ่งมักจะเป็นสีดำ (melena) ส่วนใหญ่จะคลำตับ โต ได้ประมาณวันที่ 3-4 นับแต่เริ่มป่วย ในระยะที่ยังมีไข้อยู่ ตับจะนุ่มและกดเจ็บ
  • ระยะวิกฤติ/ช็อก
    ประมาณ 1 ใน 3 ของผู้ป่วยไข้เลือดออกเดงกี จะมีอาการรุนแรง มีภาวะไหลเวียนโลหิตล้มเหลวเกิดขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นพร้อมๆ กับที่มีไข้ลดลงอย่างรวดเร็ว เวลาที่เกิดช็อกจึงขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่มีไข้ อาจเกิดได้ตั้งแต่วันที่ 3 ของโรค (ถ้ามีไข้ 2 วัน) หรือเกิดวันที่ 8 ของโรค (ถ้ามีไข้ 7 วัน) ภาวะช็อกที่เกิดขึ้นนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ถ้าไม่ได้รับการรักษาผู้ป่วยจะมีอาการเลวลง และจะเสียชีวิตภายใน 12-24 ชั่วโมง หลังเริ่มมีภาวะช็อก
  • ระยะฟื้นตัว
    ระยะฟื้นตัวของผู้ป่วยค่อนข้างเร็ว ในผู้ป่วยที่ไม่ช็อกเมื่อไข้ลดส่วนใหญ่ก็จะดีขึ้น ส่วนผู้ป่วยช็อกถ้าได้รับการรักษาอย่างถูกต้องทันท่วงทีจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ระยะฟื้นตัวมีช่วงเวลาประมาณ 2-3 วัน ผู้ป่วยจะมีอาการดีขึ้นอย่างชัดเจน
กลุ่มเสี่ยงติดเชื้อโรคไข้เลือดออกและเสี่ยงต่อการเสียชีวิต
  • ผู้ใหญ่อายุมากกว่า 15 ปี
  • กลุ่มผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคเลือด โรคทางระบบประสาทและติดสุรา
ข้อควรปฏิบัติเมื่อสงสัยว่าเป็นไข้เลือดออก
  • ควรใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัวเพื่อลดไข้
  • หากจำเป็นต้องใช้ยาลดไข้ ควรใช้ยาพาราเซตามอล ห้ามใช้ยาแอสไพริน เพราะจะทำให้เลือดออกง่ายขึ้น
  • ดื่มน้ำผลไม้หรือน้ำตาลเกลือแร่บ่อยๆ
  • ควรพบแพทย์เมื่อไข้สูงเกิน 2 วัน เพื่อการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง
  • ปฏิบัติตามคำแนะนำแพทย์ กลับไปตรวจติดตามดูอาการและการเปลี่ยนแปลงเป็นระยะๆ
  • ระยะวิกฤต คือระยะไข้ลด ถ้ามีอาการเลวลง ซึม มือเท้าเย็น ปวดท้อง กระสับกระส่าย ต้องรีบนำส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด ด่วน!
การกำจัดลูกน้ำยุงลาย
การกำจัดลูกน้ำยุงลาย ตามมาตรการ “3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค” โรคไข้เลือดออก โรคติดเชื้อไวรัสซิกา และโรคไข้ปวดข้อยุงลายหรือโรคชิคุนกุนยา
  1. เก็บบ้านให้ปลอดโปร่ง ไม่มีบริเวณอับทึบให้ยุงลายเกาะพัก
  2. เก็บขยะที่อยู่บริเวณรอบบ้าน เก็บเศษภาชนะที่ไม่ต้องการทิ้งไว้ในถุงดำมัดปิดปากถุง และนำไปทิ้งลงถังขยะ เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง
  3. เก็บน้ำ ภาชนะที่ใส่น้ำเพื่ออุปโภคบริโภค ต้องปิดฝาให้มิดชิด ล้างคว่ำภาชนะไม่ใช้ และเปลี่ยนน้ำในกระถางหรือแจกันทุกสัปดาห์ ใส่ทรายกำจัดลูกน้ำหรือปล่อยปลากินลูกน้ำในภาชนะที่ปิดฝาไม่ได้ ป้องกันไม่ให้ยุงลายวางไข่ และเน้นการป้องกันไม่ให้ยุงกัด โดยทายากันยุง และนอนในมุ้ง

หลักสูตร ความรอบรู้ เรื่อกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขง โรคติดต่อนำโดยแมลงและการกำจัด 

โรคไข้เลือดออก

โรคไข้เลือดออก เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากเชื้อไวรัสแดงกี่ ซึ่งมียุงลายเป็นพาหะนำโรค

โปรแกรมและแพ็คเกจ

บุหรี่กับมะเร็งปอด

31 พฤษภาคม วันงดสูบบุหรี่โลก 2565

WHO WORLD NO TOBACCO DAY " บุหรี่ ทำลายสิ่่ิงแวดล้อม"
 
ประวัติวันงดสูบบุหรี่โลก
วันที่ 31 พฤษภาคม ของทุกปีเป็นวันงดสูบบุหรี่โลก (World No Tobacco Day) เริ่มมีการจัดงานตั้งแต่ปี ค.ศ.1988 โดยองค์การอนามัยโลก เนื่องจากเล็งเห็นอันตรายของบุหรี่ต่อสุขภาพ การสูบบุหรี่เป็นสาเหตุสำคัญของการป่วยและเสียชีวิตก่อนวัยอันควรที่สามารถป้องกันได้ จึงมีการกำหนดคำขวัญในการรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ในแต่ละปี ของผู้สูบบุหรี่และผู้ไม่สูบบุหรี่แต่ได้รับควันบุหรี่ การจัดงานวันงดสูบบุหรี่โลกก็เพื่อกระตุ้นให้ผู้สูบบุหรี่เลิกสูบ และให้รัฐบาลชุมชนและประชากรโลก ตระหนักถึงความสำคัญและเข้าร่วมกิจกรรม
 
โทษของบุหรี่
การสูบบุหรี่เป็นการทำลายสุขภาพ ทั้งต่อผู้สูบเองและผู้อยู่ใกล้ชิดที่สูดเอาอากาศที่มีควันบุหรี่เข้าไป เพราะควันบุหรี่ประกอบด้วยสารที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และมีสารก่อมะเร็ง ไม่ต่ำกว่า 42 ชนิด ซึ่งสารอันตรายที่สำคัญ เช่น
  1. คาร์บอนมอนอกไซด์ ทำให้เม็ดเลือดแดงไม่สามารถจับออกซิเจนได้เท่ากับเวลาปกติ หากได้รับจะเกิดการขาดออกซิเจน ทำให้มึนงง ตัดสินใจช้า เหนื่อยง่าย ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของโรคหัวใจ
  2. นิโคติน เป็นสารระเหยในควันบุหรี่ มีฤทธิ์กดประสาทส่วนกลาง มีผลต่อต่อมหมวกไต ทำให้เกิดการหลั่งอิพิเนฟริน ทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น หัวใจ เต้นเร็วกว่าปกติ และไม่เป็นจังหวะ หลอดเลือดที่แขนและขาหดตัว เพิ่มไขมันในเส้นเลือด (ก้นกรองไม่ได้ทำให้ปริมาณนิโคตินลดลงได้
  3. ทาร์ หรือน้ำมันดินเป็นคราบมันข้นเหนียว สีน้ำตาลแก่ เกิดจากการเผาไหม้ของกระดาษและใบยาสูบ และเป็นสารก่อมะเร็งต่างๆ เช่น มะเร็งปอด, กล่องเสียง, หลอดลม. หลอดอาหาร, ไต, กระเพาะปัสสาวะ และอื่นๆ ร้อยละ 50 ของน้ำมันดินจะไปจับที่ปอด เกิดระคายเคือง ทำให้ไอเรื้อรัง มีเสมหะ
  4. ผู้สูบบุหรี่มีโอกาสเป็นต้อกระจก เนื่องจากสารพิษในบุหรี่จะเข้าสู่เลนส์ตา ทำให้ตาขุ่นมัว ยิ่งสูบมากก็ยิ่งมีโอกาสมาก
  5. เป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด บุหรี่ส่งผลให้หลอดเลือดหัวใจหดตัว เกิดการตีบตัน หากมีการออกกำลังกายหนักๆ อาจมีโอกาสเกิดหัวใจวายเฉียบพลัน
  6. โรคปอด โดยเฉพาะโรคมะเร็งปอด สาเหตุส่วนใหญ่มาจากการสูบบุหรี่ โดยจากข้อมูลพบว่าเพียงแค่สูบบุหรี่วันละ 1 ซอง สามารถมีโอกาสเป็นโรคมะเร็งปอดมากกว่าคนปกติถึง 10 เท่า!

บุหรี่กับมะเร็งปอด

สูบบุหรี่วันละ 1 ซอง มีโอกาสเป็นโรคมะเร็งปอดมากกว่าคนปกติถึง 10 เท่า!
 
5 วิธีพร้อมเลิกบุหรี่ เลิกง่าย ทำได้อยู่แล้ว
  1. ค้นหาแรงจูงใจให้ตนเอง การเลิกบุหรี่จะทำให้ชีวิตตนเองดีขึ้นอย่างไรบ้าง จะเป็นผลดีต่อคนรอบข้างอย่างไรบ้างเมื่อตนเองเลิกได
  2. หาวันที่เหมาะสมในการเริ่มต้นอาจเป็นวันที่มีความหมายต่อตนเอง เช่น วันเกิด วันเกิดของลูก หรือฤกษ์ดีอื่นๆ เช่น วันพระ วันปีใหม่ วันสำคัญทางศาสนา
  3. หักดิบดีกว่าค่อยๆหยุด โดยทั่วไป การเลิกบุหรี่โดยการหักดิบจะมีรโอกาสเลิกได้สำเร็จ ในระยะยาวมากกว่าการค่อยๆหยุด
  4. หลีกเลี่ยงและกำจัดสิ่งกระตุ้นให้สูบบุหรี่ ใช้สเปรย์ดับกลิ่นบุหรี่ที่ยังตกค้างตามที่ต่างๆ ทิ้งไฟแช็คและที่เขี่ยบุหรี่ รวมถึงรู้จักปฏิเสธผู้ที่ชักชวนให้สูบ
  5. ใช้ยาช่วยเลิกในกรณีที่สูบ ตั้งแต่ 10 มวนต่อวัน ปัจจุบันมียาหลากหลายที่ให้ผลได้ดีมาก เช่น ยาวาเรนิคลิน (Varenicline) ยาบูโบรพิออน (Bupropion) และนิโคตินทดแทน

โปรแกรมและแพ็คเกจ

โปรแกรมคัดกรองมะเร็งปอด ด้วย CT SCAN LOW DOSE
Promotion ชุดตรวจสุขภาพ ลด 20%

ปลดล็อค อาการปวด ด้วยเครื่องกระตุ้นสนามแม่เหล็ก PMS

ปลดล็อค อาการ ปวด จากโรคระบบประสาท ด้วยเครื่องกระตุ้นสนามแม่เหล็ก

Peripheral Magnetic Stimulation (PMS)

ปลดล็อค อาการปวดจากโรคระบบประสาท ด้วยเครื่องกระตุ้นสนามแม่เหล็ก


บำบัดรักษาอาการ เช่น ปวดกล้ามเนื้อ โรคเอ็นอักเสบ โรคปวดข้อต่อ อาการชาจากเส้นประสาทได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ทำให้เกิดการบาดเจ็บต่ออวัยวะโดยรอบ รู้สึกผ่อนคลายในขณะรักษา

ปลดล็อคอาการปวดทางเส้นประสาท ด้วยเครื่องกระตุ้นสนามแม่เหล็ก

Peripherl Magnetic Stimulation (PMS)
เทคโนโลยี PMS หรือ Peripheral Magnetic Stimulation คือ เครื่องกระตุ้นระบบประสาทด้วยการใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ทางการแพทย์ที่เรียกว่า Electromagnetic เพื่อบำบัดรักษาอาการปวด เช่น อาการปวดกล้ามเนื้อ โรคเอ็นอักเสบ โรคปวดข้อต่อ และอาการชาจากเส้นประสาทได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยคลื่นไฟฟ้าจะสามารถกระตุ้นทะลุผ่านเสื้อผ้าโดยไม่ต้องสัมผัสผิว ลงไปถึงเนื้อเยื่อและกระดูกได้ลึกประมาณ 10 ซม. คลื่นจาก PMS จะส่งคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ไปกระตุ้นที่เส้นประสาทโดยตรง ทำให้เกิดกระบวนการ Depolarization กระตุ้นเนื้อเยื่อบริเวณที่ปวดทำให้เกิดการไหลเวียนของโลหิตบริเวณกล้ามเนื้อดียิ่งขึ้น ไม่ทำให้เกิดการบาดเจ็บต่ออวัยวะโดยรอบ รู้สึกผ่อนคลายในขณะรักษา รวมถึงส่งสัญญาณคลื่นแม่เหล็กกระตุ้นแขน ขา บริเวณที่เคลื่อนไหวไม่ได้ ให้ส่งสัญญาณไปที่สมอง และให้สมองส่วนที่ยังทำงานได้มีการฟื้นตัว แล้วส่งสัญญาณกลับลงมาทำให้แขนขาขยับได้มากขึ้น ในส่วนของการบำบัดรักษาอาการเจ็บปวด การกระตุ้นเส้นประสาทจะทำให้เกิดการส่งสัญญาณที่ช่วยยับยั้งอาการปวดได้ สามารถรักษาได้ทั้งปวดเฉียบพลันและเรื้อรัง และยังเป็นการกระตุ้นให้มีการซ่อมเสริมของเนื้อเยื่อด้วย
กลุ่มโรคที่รักษาด้วยเครื่อง PMS
  1. กลุ่มอัมพฤกษ์ อัมพาต ซึ่งเกิดจากหลอดเลือดสมองตีบหรือแตก (Stroke), เกิดจากการบาดเจ็บในสมอง (Traumatic Brain Injury), เกิดจากการบาดเจ็บของไขสันหลัง (Spinal Cord Injury) หน้าเบี้ยวครึ่งซีก (Bell'spalsy) กลุ่มนี้จะเป็นลุ่มใหญ่ที่จะสามารถใช้เครื่องกระตุ้นแม่เหล็กมาบำบัดรักษาจะช่วย ลดอาการเกร็งในผู้ป่วย อัมพฤกษ์ อัมพาต ทำให้อาการฟื้นตัวของอาการอัมพฤกษ์ อัมพาตดีขึ้น
  2. กลุ่มโรคกระดูกสันหลัง หมอนรองกระดูกสันหลัง คือกลุ่มโรคที่เกี่ยวกับแนวไขสันหลังโดยตรง การเสื่อมของกระดูกสันหลัง และหมอนรองกระดูก หรือการเคลื่อนตัวของหมอนรองกระดูก ที่มีผลต่อเส้นประสาทจากไขสันหลังหรือการบาดเจ็บที่ไขสันหลัง การรักษาด้วยคลื่นแม่เหล็กจะสามารถรักษากลุ่มปวดนี้ได้มีประสิทธิภาพดีกว่าเครื่องมืออื่น เนื่องจากการกระตุ้นด้วยแม่เหล็กจะสามารถกระตุ้นลึกลงไปจนถึงรากประสาทได้
  3. กลุ่มปวดต่าง ๆ หรือ ออฟฟิศซินโดรม การบำบัดอาการปวด อาการเคล็ดคัดยอก การบาดเจ็บหรืออาการปวดเรื้อรังจากกล้ามเนื้อ เอ็น พังผืดหรืออาจเกิดจากการบาดเจ็บของตัวเส้นประสาทโดยตรง เช่น อาการปวดบริเวณคอ บ่า ข้อศอก แขน มือ เอว หลัง สะโพก ขา เข่า หรือข้อเท้า และหากทำอย่างต่อเนื่องตามแพทย์แนะนำจะทำให้อาการปวดค่อยๆ ดีขึ้นและหายไปในที่สุด
  4. กลุ่มอาการชา หรือ ผู้ที่มีอาการชาจากปลายประสาทหรือการกดทับเส้นประสาท คือกลุ่มปลายประสาทอักเสบ โดยส่วนใหญ่พบได้ในกลุ่มผู้ป่วยเบาหวาน พบว่าอาการชามือ ชาเท้าจะดีขึ้น 50-100% ในแต่ละครั้งที่รักษา
  5. ช่วยบำบัดรักษาฟื้นฟูอาการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา นักกีฬาที่ได้รับบาดเจ็บจากการฝึกซ้อม หรือระหว่างแข่งขัน

การบำบัด ด้วยเครื่องกระตุ้นสนามแม่เหล็ก รักษาอาการทางประสาท

 
อัตราค่าบริการ 
ไม่รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาล
ระยะเวลา
ราคา
10 นาที 800.-
15 นาที 1,000.-
20 นาที 1,200.-
25 นาที 1,400.-
30 นาที 1,600.-
หมายเหตุ
  • โปรแกรมการรักษาขึ้นกับการตรวจประเมินของแพทย์และนักกายภาพบำบัด
  • ราคาแพ็กเกจไม่รวมค่าตรวจวินิจฉัยทางการแพทย์ ในการเข้ารับบริการครั้งแรก
  • โปรโมชั่นพิเศษ ต้องชำระเงินล่วงหน้า 7 ครั้ง เพื่อรับสิทธิ์ฟรี 1 ครั้ง
  • ใช้สิทธิได้ภายใน 3 เดือนหลังชำระเงิน
  • เพื่อประสิทธิผลของการรักษา โปรดมารักษาอย่างต่อเนื่อง
  • แพ็คเกจดังกล่าวไม่สามารถใช้ร่วมกับสิทธิ์และส่วนลดอื่นๆ ได้
  • สำหรับกลุ่มประกัน ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของบริษัทประกัน และการประเมินของแพทย์
  • โรงพยาบาลขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
วันนี้ - 31 พฤษภาคม 2568

โปรแกรมและแพ็คเกจ

การผ่าตัดรักษาต่อมไทรอยด์

การผ่าตัดรักษาต่อมไทรอยด์

ต่อมไทรอยด์ (Thyroid gland) เป็นต่อมขนาดใหญ่ที่สุดในระบบต่อมไร้ท่อของร่างกาย มีรูปร่างคล้ายผีเสื้ออยู่ตรงส่วนหน้าของลำคอ บริเวณใต้ลูกกระเดือกลงมา หน้าที่ของต่อมไทรอยด์คือการหลั่งฮอร์โมนเข้าสู่กระแสเลือดเพื่อให้ร่างกายสามารถเผาผลาญพลังงานและส่งผลต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย ในบางครั้งอาจพบก้อนเนื้อเกิดขึ้นบนต่อมไทรอยด์ได้ ก้อนเหล่านี้ส่วนใหญ่มักเป็นเนื้องอกธรรมดาที่ไม่ใช่มะเร็ง แต่มีประมาณ 5% ที่เป็นมะเร็ง ซึ่งส่วนใหญ่มักจะพบได้ในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย
การวินิจฉัยก้อนที่ต่อมไทรอยด์
มักตรวจพบก้อนที่ต่อมไทรอยด์จากการตรวจร่างกายประจำปีหรือจากการตรวจทางรังสีวินิจฉัยที่ส่งทำจากปัญหาอื่นๆ หลังจากที่แพทย์ตรวจพบก้อนที่ต่อมไทรอยด์ แพทย์จะส่งตรวจเพิ่มเติมดังนี้
โดยส่วนใหญ่โรคไข้ชัก มักมีอาการชักแบบเกร็งกระตุกทั้งตัวภายใน 24 ชั่วโมงหลังมีไข้สูง ส่วนน้อยที่มีอาการชักก่อนการมีไข้ หรือหลังจากมีไข้แล้ว 24 ชั่วโมง การชักแต่ละครั้งมักเป็นอยู่ไม่กี่วินาที และชักเพียงครั้งเดียวในการเป็นไข้แต่ละครั้ง นอกจากนั้นหลังชักจะมีแขนขาอ่อนแรงตามมา
  1. ตรวจเลือดเพื่อดูระดับฮอร์โมนของต่อมไทรอยด์ เพื่อดูว่าต่อมไทรอยด์ทำงานปกติหรือไม่
  2. ตรวจต่อมไทรอยด์ด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง เพื่อให้เห็นภาพของต่อมไทรอยด์ ระบุตำแหน่งและขนาดของก้อน และดูลักษณะของก้อนว่าเป็นก้อนแข็งหรือมีสารน้ำอยู่ภายใน
  3. การใช้เข็มขนาดเล็กเจาะก้อนเพื่อส่งชิ้นเนื้อไปตรวจ
  4.  Thyroid scan เป็นการใช้สารไอโอดีนทึบรังสีเพื่อช่วยระบุว่าก้อนนั้นเป็นเนื้องอกธรรมดาหรือเป็นมะเร็ง จะตรวจเฉพาะผู้ป่วยบางรายเท่านั้น
ความผิดปกติของต่อมไทรอยด์จะมีได้หลายลักษณะ  สามารถจำแนกเป็น 2 กลุ่ม คือ

1) ต่อมไทรอยด์สร้างฮอร์โมนปริมาณผิดปกติ แต่อาจจะมีเนื้องอกหรือไม่มีก็ได้ ถ้ามีการสร้างฮอร์โมนผิดปกติ แพทย์จะรักษาด้วยการคุมฮอร์โมนของต่อมไทรอยด์ ซึ่งต้องใช้ยาหรือการกลืนแร่ไอโอดีน เพื่อทำให้ตัวต่อมไทรอยด์กลับมาทำงานปกติ ซึ่งไม่ได้ใช้การผ่าตัดรักษาเป็นหลัก แต่ถ้ารักษาด้วยยาไม่ได้ผลก็อาจจำเป็นต้องผ่าตัด

2) ต่อมไทรอยด์สร้างฮอร์โมนปริมาณปกติ แต่มีเนื้องอกเกิดขึ้น

  • กลุ่มที่เป็นเนื้องอกธรรมดา  กลุ่มนี้ไม่จำเป็นต้องผ่าตัดทุกราย แค่ทานยาเสริมฮอร์โมนเข้าไป เนื้องอกก็อาจจะเล็กลงได้ แต่ถ้าเนื้องอกขนาดใหญ่ทานยาแล้วขนาดก้อนไม่ยุบหรือเนื้องอกเบียดทางเดินหายใจ หรือมีปัจจัยเสียงที่จะเป็นมะเร็งมากขึ้น เช่น เคยได้รับรังสีบริเวณคอมาก่อน หรือมีประวัติเป็นมะเร็งต่อมไทรอยด์ในครอบครัว  แพทย์จะพิจารณาการรักษาโดยการผ่าตัด
  • กลุ่มที่เป็นมะเร็งต่อมไทรอยด์ กลุ่มนี้จำเป็นต้องรับการรักษาโดยการผ่าตัดทันที
การผ่าตัดไทรอยด์
  1. ผ่าตัดไทรอยด์แบบเปิด สามารถผ่าตัดก้อนที่ต่อมไทรอยด์ได้ทุกชนิดโดยเฉพาะมะเร็งต่อมไทรอยด์ การผ่าตัดวิธีนี้หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีแผลผ่าตัดบริเวณกลางลำคอ ทั้งนี้ในการผ่าตัดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะพยายามเปิดแผลผ่าตัดให้เล็กที่สุดตามรอยผิวหนังเพื่อให้เห็นรอยแผลผ่าตัดน้อยที่สุด โดยความยาวแผลผ่าตัดขึ้นอยู่กับขนาดของก้อนด้วย
  2. ผ่าตัดไทรอยด์แบบส่องกล้อง ข้อดีคือซ่อนแผลบริเวณกลางลำคอ โดยมีเพียงแผลขนาดเล็กบริเวณรักแร้ แต่มีข้อจำกัดคือผ่าตัดได้ฉพาะก้อนที่ขนาดไม่ใหญ่มาก และค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดสูงกว่าแบบเปิด

ผู้ป่วยที่ผ่าตัดแบบเปิดจะมีแผลที่ผิวหนังบริเวณด้านหน้าลำคอ มีผ้าก๊อซปิดแผล และท่อระบายออกจากแผลเพื่อป้องกันเลือดออกและคั่งอยู่ใต้แผล เมื่อเลือดและของเหลวใต้แผลที่ออกจากท่อระบายน้อยลง แพทย์ก็จะเอาท่อระบายออก  ผู้ป่วยจะได้รับยาที่จำเป็น เช่น ยาแก้ปวด ยาแก้อักเสบ ยาละลายเสมหะ

ภาวะแทรกซ้อน
    ภาวะแทรกซ้อน ที่อาจเกิดการผ่าตัด ได้แก่ แผลผ่าตัดติดเชื้อ สายเสียงไม่ทำงานทำให้มีเสียงแหบ พบได้ 1-5%  มีเลือดออกใต้แผลผ่าตัดซึ่งอาจทำให้เกิดการอุดกั้นในระบบทางเดินหายใจ แต่ภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้พบได้น้อยมาก ถ้าไม่มีภาวะแทรกซ้อนผู้ป่วยจะกลับบ้านได้หลังผ่าตัดประมาณ 3 วัน แพทย์จะนัดมาดูแผลผ่าตัดและตัดไหม รวมทั้งฟังผลชิ้นเนื้อ ประมาณ 1 สัปดาห์หลังผ่าตัด

ตัวอย่างแผลผ่าตัดวันที่ 3

ตัวอย่างแผลผ่าตัด 1 เดือน

ตัวอย่างแผลผ่าตัด 1 ปี

ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่

วัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์

วัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์


849.- ตั้งแต่ 1 - 3 ท่าน : (ต่อท่าน)
700.- ตั้งแต่ 4 ท่านขึ้นไป : (ต่อท่าน ฉีดวันเดียวกันในโรงพยาบาล)
700.- ตั้งแต่ 10 ท่านขึ้นไป : (ต่อท่าน ฉีดนอกสถานที่ บ้านหรือบริษัท ระยะทางไม่เกิน 10 กม.)

ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์

การฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ควรฉีดทุกปี ก่อนฤดูที่มีการระบาด (ฤดูฝน และฤดูหนาว) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง  การฉีดวัคซีนทุกปีเป็นการกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันอยู่ในระดับสูง ทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในแต่ละปี วัคซีนชนิด 4 สายพันธุ์แนะนำให้ฉีดได้ตั้งแต่เด็กอายุ 6 เดือน จนถึงผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ รวมถึงหญิงตั้งครรภ์และหญิงให้นมบุตรก็สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ได้เช่นกัน
ค่าบริการวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ภายในโรงพยาบาล
รายการ
ราคา(ต่อท่าน)
1 - 3 ท่าน 849.-
4 ท่านขึ้นไป 700.-

ค่าบริการวัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่บ้าน ระยะทางไม่เกิน 10 กม.
รายการ
ราคา(ต่อท่าน)
10 ท่านขึ้นไป 700.-
ฉีดวัคซีนอื่น ๆ ที่โรงพยาบาล หรือ ที่บ้าน
รายการ
ราคา(เข็ม)
วัคซีนปอดอักเสบ 13 สายพันธฺุ์ (สำหรับผู้ที่ไม่เคยได้รับวัคซีน) 3,250.-
วัคซีนปอดอักเสบ 23 สายพันธุ์ (สำหรับผู้ที่เคยได้รับวัคซีน) 1,700.-
วัคซีนอีสุกอีใส 1,700.-
เงื่อนไขการรับสิทธิ์
ราคารวมค่าบริการทุกอย่างแล้ว
  1. ไม่สามารถซื้อสิทธิ์เก็บไว้ได้
  2. ราคาพิเศษ ตั้งแต่ 4 ท่านขึ้นไปและใช้บริการภายในวันเดียวกันทุกท่าน (พร้อมกัน) ในโรงพยาบาล
  3. สามารถใช้ได้ตั้งแต่วันนี้ - 31 ธันวาคม 2567
  4. ให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 - 17.00 น.
  5. ฉีดนอกสถานที่ไม่เกิน 10 กม.ราคาพิเศษ ตั้งแต่ 10 ท่านขึ้นไป
  6. ขอสงวนสิทธิ์การคืนเงิน ยกเลิกทุกกรณี แต่สามารถเปลี่ยนแปลงวันรับบริการได้
วันนี้ - 30 มิถุนายน 2568

โปรแกรมและแพ็คเกจ

โปรแกรมคลอดเหมาจ่าย

โปรแกรมคลอดเหมาจ่าย

แพ็คเกจสำหรับคุณแม่

คลอดปกติ : 34,900.-

ผ่าตัดคลอด : 46,900.-


"คลอดเหมาจ่าย สบายใจ" สำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่และไม่ใหม่ จะเป็นลูกเดี่ยวหรือแฝดสอง แฝดสาม ที่จะคลอดน้องในปีนี้เลือกคลอดเหมาจ่ายแบบสบายใจที่โรงพยาบาลบางโพ ดูแลโดยทีมสหวิชาชีพ (สูติแพทย์ พยาบาลวิชาชีพ นักโภชนาการ นักกายภาพบำบัด และเจ้าหน้าที่แผนกต่างๆ)

บริการที่จะได้รับ เมื่อฝากครรภ์และคลอดที่ ร.พ บางโพ
จากทีมสหวิชาชีพ (สูติแพทย์ พยาบาลวิชาชีพ นักโภชนาการ นักกายภาพบำบัด)
  • การเตรียมตัวก่อนคลอด แนะนำการเลือกอาหาร และการออกกำลังกาย
  • การปฏิบัติตัวหลังคลอดสำหรับคุณแม่
  • แนะนำการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
  • แนะนำการดูแลทารกทั่วไป
  • แนะนำการอาบน้ำทารก
  • และบริการให้คำปรึกษาทางโทรศัพท์
  • การตรวจคัดกรองการได้ยินในทารกแรกเกิด ♥ New ♥
หมายเหตุ : การเข้าร่วมโปรแกรมคลอดแบบเหมาจ่ายขึ้นอยู่กับ สภาวะของมารดา ทารก และดุลยพินิจของแพทย์

คลอดปกติ

34,900.-

ห้องพักเดี่ยว พักฟื้น 3 วัน 2 คืน
  • ค่าแพทย์ สูติแพทย์ และ กุมารแพทย์
  • ห้องคลอดและอุปกรณ์ทางการแพทย์
  • ห้องทารกแรกเกิด บริบาลทารก รวม 3 วัน
  • ห้องพักพิเศษเดี่ยว อาหาร การบริการพยาบาลของมารดา รวม 3 วัน
  • ค่าตรวจทางห้องปฏิบัติการตามมาตรฐานสำหรับมารดา
  • ค่าเครื่องตรวจการทำงานของหัวใจทารกขณะอยู่ในครรภ์ก่อนคลอด
  • ตรวจคัดกรองในทารกแรกเกิด เพื่อป้องกันภาวะปัญญาอ่อนจากภาวะพร่องธัยรอยด์ (TSH) และโรคฟีนิลคีโตนูเรีย (Phenylketonuria) (PKU)
  • วัคซีนป้องกันวัณโรค (BCG) สำหรับทารก
  • วัคซีนป้องกันตับอักเสบ บี** เข็มแรก สำหรับทารก
  • วิตามิน เค ชนิดฉีด
  • ตรวจหาภาวะซีดและตัวเหลือง
  • ตรวจกรุ๊ปเลือด
  • ค่ายา และเวชภัณฑ์ที่จำเป็นขั้นพื้นฐานสำหรับมารดาและทารก
  • ชุดของขวัญสำหรับทารกแรกเกิด
  • บริการทำสูติบัตร
  • สมุดบันทึกสุขภาพ และตารางการรับวัคซีน
  • บัตรสมาชิกโรงพยาบาลบางโพ เพื่อใช้เป็นส่วนลดในการมารับบริการ
  • ภาพแรกของมารดาและทารก
  • หมอนรองให้นมบุตร
  • แนะนำเทคนิคการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างมีประสิทธิภาพ
  • การตรวจคัดกรองการได้ยินในทารกแรกเกิด
หมายเหตุ (คลอดปกติ)
  • ค่าใช้จ่ายดังกล่าวไม่รวมถึงการคลอดโดยใช้ยาระงับความเจ็บปวด
  • เข้าสันหลัง (Block) หรือ กรณีมีโรคแทรกซ้อนของมารดาและทารก
  • วัคซีนป้องกันตับอักเสบ บี ในโปรแกรม คือ ENGERIX-B (ANTIBODY)
  • กรณีต้องการพักห้องที่ราคาสูงกว่าที่กำหนด จะมีค่าห้องพักเพิ่ม

ผ่าตัดคลอด

46,900.-

ห้องพักเดี่ยว พักฟื้น 4 วัน 3 คืน
  • ค่าแพทย์ สูติแพทย์ กุมารแพทย์ และวิสัญญีแพทย์
  • ห้องคลอดและอุปกรณ์ทางการแพทย์
  • ห้องทารกแรกเกิด บริบาลทารก รวม 4 วัน
  • ห้องพักพิเศษเดี่ยว อาหาร การบริการพยาบาลของมารดา รวม 4 วัน
  • ค่าตรวจทางห้องปฏิบัติการตามมาตรฐานสำหรับมารดา
  • ค่าเครื่องตรวจการทำงานของหัวใจทารกขณะอยู่ในครรภ์ก่อนคลอด
  • ตรวจคัดกรองในทารกแรกเกิด เพื่อป้องกันภาวะปัญญาอ่อนจากภาวะพร่องธัยรอยด์ (TSH)   และโรคฟีนิลคีโตนูเรีย (Phenylketonuria) (PKU)
  • การระงับความรู้สึกทางไขสันหลัง (Spinal Block)
  • วัคซีนป้องกันวัณโรค (BCG) สำหรับทารก
  • วัคซีนป้องกันตับอักเสบ บี** เข็มแรก สำหรับทารก
  • วิตามิน เค ชนิดฉีด
  • ตรวจหาภาวะซีดและตัวเหลือง
  • ตรวจกรุ๊ปเลือด
  • ค่ายา และเวชภัณฑ์ที่จำเป็นขั้นพื้นฐานสำหรับมารดาและทารก
  • ชุดของขวัญสำหรับทารกแรกเกิด
  • บริการทำสูติบัตร
  • สมุดบันทึกสุขภาพ และตารางการรับวัคซีน
  • บัตรสมาชิกโรงพยาบาลบางโพ เพื่อใช้เป็นส่วนลดในการมารับบริการ
  • ภาพแรกของมารดาและทารก
  • หมอนรองให้นมบุตร
  • แนะนำเทคนิคการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ให้คำแนะนำการดูแลร่างกายหลังคลอด โดยนักกายภาพบำบัด
  • การตรวจคัดกรองการได้ยินในทารกแรกเกิด
หมายเหตุ (ผ่าตัดคลอด)
  • อัตรานี้ไม่รวมการทำหมัน การผ่าตัดไส้ติ่ง หรือกรณีมีโรคแทรกซ้อน
  • กรณีมีความประสงค์หรือความจำเป็นต้องใช้การระงับความรู้สึกด้วย
  • วิธีดมยาสลบ มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม 8,000 บาท
  • กรณีต้องการทำหมัน มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม 5,000 บาท
  • กรณีต้องการผ่าตัดไส้ติ่ง มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม 10,000 บาท
  • วัคซีนป้องกันตับอักเสบ บี ในโปรแกรม คือ ENGERIX-B (ANTIBODY)
  • กรณีต้องการพักห้องที่ราคาสูงกว่าที่กำหนด จะมีค่าห้องพักเพิ่ม
ห้องเดี่ยว
ตามแพ็คเกจคลอดเหมาจ่าย
เงื่อนไขการเข้ารับบริการ
  • ผู้เข้ารับบริการสามารถใช้แพ็กเกจได้หลังจากตรวจวินิจฉัยเรียบร้อยแล้ว โดยค่าใช้จ่ายในการวินิจฉัยจัดเป็นค่าใช้จ่ายนอกแพ็กเกจ
  • แพ็กเกจดังกล่าวไม่สามารถใช้ร่วมกับสิทธิ์และส่วนลดอื่นๆ ได้ เช่น ผู้ถือหุ้น บริษัทคู่สัญญา และบริษัทประกัน
  • ผู้เข้ารับบริการชำระค่าใช้จ่าย ณ โรงพยาบาล ในวันที่เข้ารับบริการ
  • โรงพยาบาลขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
วันนี้ - 31 มีนาคม 2568

โปรแกรมและแพ็คเกจ

Baby Delivery Package

Normal Delivery Pack […]

PACKAGE ฝังยาคุมกำเนิด

แพ็กเกจฝังยาคุมกำเนิ […]

ตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ STD

ตรวจโรคติดต่อทางเพศส […]

ขั้นตอนการรับวัคซีน

เข้ารับวัคซีน Moderna


เบ็ดเสร็จในจุดเดียว

เรียน ผู้จองวัคซีนโมเดอน่า

เนื่องจากวัคซีนโมเดอร์นาจะหมดอายุ รพ.บางโพ ขอความกรุณาท่านทำการนัดหมายผ่านระบบ ภายในวันที่ 15 ก.ค. 65
? โดยท่านจะได้รับ SMS แจ้งหมายเลขที่ยังไม่ทำการจองวัคซีนจาก รพ.บางโพ โปรดทำการนัดหมายตามวันเวลา ดังต่อไปนี้
– วันที่ 17, 18, 19 ก.ค 65
วันละ 2 รอบ เวลา 7.30-10.30 และ 10.30-13.30 น.

– วันที่ 24, 25, 26  ก.ค 65
– วันที่ 1, 2, 3, 4, 5, 6  ส.ค 65
– วันที่ 20  ส.ค. 65
วันละ 1 รอบ เวลา 10.00-12.00 น.

* กรณีไม่แจ้งความประสงค์ภายในระยะเวลาที่กำหนด จะถึอว่าท่านสละสิทธิ์
* การมาไม่ตรงนัดอาจมีผลต่อการสูญเสียวัคซีนของท่าน

 

ขั้นตอนการรับบริการวัคซีน Moderna

  • สถานที่ ห้องประชุมใหญ่ ชั้น 6 อาคาร 2 (อาคารศูนย์การแพทย์)
  • เวลา 07.30-13.30 น. ตามวันและเวลาที่จองในระบบ
    รอบที่ 1 07.30-10:30 น.
    รอบที่ 2 10:30-13.30 น.
  • สิ่งที่ต้องนำมา บัตรประจำตัวประชาชน หรือ หนังสือเดินทาง (Passport) และใบเสร็จรับเงิน
  • ตรวจสอบสิทธิ์ (เอกสารที่ต้องนำมาแสดงเพื่อยืนยันการได้รับสิทธิ์)

    • บัตรประจำตัวประชาชน/หนังสือเดินทาง
    • ใบเสร็จรับเงิน

  • เข้ารับวัคซีนและสังเกตอาการ

วันเวลาการให้บริการ

ประกาศเรื่อง “ซิโนฟาร์ม” สำหรับประชาชน

ประกาศเรื่อง

"ซิโนฟาร์ม"

สำหรับประชาชน

2 เข็ม เพียง 1,999 บาท


เรียน ท่านผู้สนใจวัคซีน Sinopharm

รพ.ขอปิดระบบการจองวัคซีน(ระยะที่ 1) วันที่ 31 ส.ค.64 เวลา 14.30 น.
หากโรงพยาบาลได้รับจัดสรรวัคซีนเพิ่มเติม จะแจ้งให้ท่านทราบ
โปรดติดตามข้อมูลข่าวสารได้ทาง website และ Facebook ของรพ.

ขอขอบคุณที่ไว้วางใจ เลือกใช้บริการที่ รพ.บางโพ

วัคซีนทางเลือก “ซิโนฟาร์ม” สำหรับประชาชน

โรงพยาบาลบางโพให้บริการวัคซีน

"ซิโนฟาร์ม"

สำหรับประชาชน


โรงพยาบาลบางโพให้บริการ วัคซีนซิโนฟาร์ม "สำหรับประชาชน" ผู้ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกันโควิด
ในราคา 1,999 บาท ต่อ สองเข็ม ฉีดห่างกัน 3 สัปดาห์

โรงพยาบาลบางโพให้บริการ วัคซีนซิโนฟาร์ม "สำหรับประชาชน" ผู้ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกันโควิด ในราคา 1,999 บาท ต่อ สองเข็ม ฉีดห่างกัน 3 สัปดาห์ สนใจกรอกข้อมูล : ลงทะเบียน

โรงพยาบาลบางโพขึ้นทะเบียนเป็นสถานพยาบาลให้บริการฉีดวัคซีนทางเลือก
“ซิโนฟาร์ม” กับ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์

บริษัท องค์กร หรือหน่วยงานใด มีความประสงค์ที่จะจองวัคซีนทางเลือก "ซิโนฟาร์ม" กับราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และต้องการให้โรงพยาบาลบางโพ เป็นสถานพยาบาลสำหรับฉีดวัคซีน สามารถจองผ่านระบบออนไลน์ได้ที่ : https://vaccine.cra.ac.th/VaccineContent/content/home แล้วกดเลือก “โรงพยาบาลบางโพ”

สลายต้อกระจก ด้วยคลื่นความถี่สูง

สลายต้อกระจก ด้วยคลื่นความถี่สูง

สลายต้อกระจก PHACOEMULSIFICATION: 45,000.-


แผลผ่าตัดขนาดเล็กประมาณ 2.4 มม. ไม่ต้องเย็บแผล ทำให้ไม่ระคายเคือง ไม่ต้องพักฟื้นที่โรงพยาบาล
มองเห็นได้หลังเปิดตาทำโดยจักษุแพทย์ที่ชำนาญด้านนี้โดยเฉพาะ

สลายต้อกระจก ด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง PHACOEMULSIFICATION

PHACOEMULSIFICATION

ต้อกระจก คือภาวะที่สายตาฝ้ามัวลง เนื่องจากเลนส์แก้วตา ซึ่งปกติมีลักษณะใส ทำหน้าที่รวมแสงให้ตกลงพอดีบนจอประสาทตาเกิดความขุ่นและไปบดบังแสง ทำให้ผู้ป่วยมองเห็นไม่ชัด การสลายต้อกระจกออกแล้วใส่เลนส์แก้วตาเทียมจึงจำเป็นเพื่อช่วยผู้ป่วยมองเห็นชัดเจนขึ้น

อาการของต้อกระจก

  • สายตามัวเหมือนมีฝ้าหรือหมอกมัว
  • เห็นภาพซ้อน สายตาพร่า สู้แสงไม่ได้
  • อ่านหนังสือไม่ชัด แม้จะใส่แว่นตาช่วย
  • หากทิ้งไว้นานไป อาจเกิดโรคต้อหินแทรกซ้อน ทำให้ปวดตา และตาบอดได้
วันนี้ - 30 มิถุนายน 2568
เงื่อนไขการเข้ารับบริการ
  • ราคาดังกล่าว รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาลแล้ว
  • แพ็กเกจดังกล่าวไม่สามารถใช้ร่วมกับสิทธิ์และส่วนลดอื่น ๆได้
  • ผู้เข้ารับบริการชำระค่าใช้จ่าย ณ โรงพยาบาล ในวันที่เข้ารับบริการ
  • โรงพยาบาลขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

โปรแกรมและแพ็คเกจ

ขณะนี้ปิดรับจองวัคซีนทางเลือก COVID-19

ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจจองวัคซีนทางเลือกกับโรงพยาบาลบางโพ


โรงพยาบาลได้ปรับลดราคาวัคซีนเป็น 1,650 บาท ต่อเข็ม ดังนั้นโรงพยาบาล จะโอนเงินคืนท่าน จำนวน 250 บาท ต่อเข็ม

ขณะนี้ปิดรับจองวัคซีนทางเลือก COVID-19
ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจจองวัคซีนทางเลือกกับโรงพยาบาลบางโพ
โรงพยาบาลได้ปรับลดราคาวัคซีนเป็น 1,650 บาท ต่อเข็ม ดังนั้นโรงพยาบาล จะโอนเงินคืนท่าน จำนวน 250 บาท ต่อเข็ม

โรงพยาบาลบางโพเตรียมให้บริการวัคซีนทางเลือกป้องกัน COVID-19 วัคซีน Moderna คาดการณ์ว่าจะได้รับการนำเข้าประเทศไทยในช่วงเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2564 และในช่วงมกราคม - มีนาคม 2565 ตามข่าว (วัคซีนสำหรับผู้มีอายุ 18 ปีขึ้นไป) จึงใคร่ขอให้ท่านยืนยันความต้องการเพื่อ โรงพยาบาลจะสั่งวัคซีน โดยมีค่าบริการ ในราคา 1 เข็ม 1,650 บาท และ 2 เข็ม 3,300 บาท ฉีดห่างกัน 4 สัปดาห์ (รพ.ขอสงวนสิทธิ์สำหรับผู้จองที่ชำระค่าวัคซีนแล้วเท่านั้น กรณีจำนวนไม่เพียงพอต่อความต้องการ ยินดีชำระเงินคืนเต็มจำนวน)

  • รัฐบาลได้จัดสรรวัคซีนโควิด 19 ให้กับประชาชนโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
  • ส่วนการจองวัคซีนโควิด 19 ของสถานพยาบาลเอกชนเป็นทางเลือกหนึ่งที่ประชาชนสามารถเลือกรับบริการได้ แต่ต้องชำระค่าใช้จ่ายเอง
ราคา 1 เข็ม 1,650.-
ราคา 2 เข็ม 3,300.-
หมายเหตุ :
  1. กรณีวัคซีนมาถึง โรงพยาบาลจะทำการนัดหมาย วัน เวลา ให้ท่านทราบล่วงหน้า
  2. เนื่องจากโรงพยาบาล มิได้เป็นผู้จัดหาวัคซีนโดยตรง กรณีที่โรงพยาบาลได้รับจัดสรรวัคซีนไม่เพียงพอต่อจำนวนสั่งจองหรือล่าช้ากว่ากำหนด โรงพยาบาลเสนอให้ท่านเลือกดังต่อไปนี้
    1. ขอรับเงินคืนเต็มจำนวน
    2. รอวัคซีนที่โรงพยาบาลจะได้รับจัดสรร Lot ต่อไป ซึ่งหากเกิดกรณีดังกล่าว โรงพยาบาลจะติดต่อท่านที่ไม่ได้รับวัคซีนที่สั่งจองต่อไป
  3. กรณีที่โรงพยาบาลได้จัดเตรียมวัคซีนให้ท่านแล้ว แต่ท่านแจ้งยกเลิก ไม่ว่าด้วยเหตุใด โรงพยาบาลขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่คืนเงิน โดยท่านสามารถเปลี่ยนสิทธิ์การฉีดวัคซีนให้ผู้อื่นได้ โดยแจ้งให้โรงพยาบาลทราบล่วงหน้า อย่างน้อย 1 วัน

เงื่อนไข :
  1. ฉีดได้ตั้งแต่อายุ 18 ปีขึ้นไป ผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือรับประทานยา และมีความกังวลควรปรึกษาแพทย์
  2. กรณีมีปัญหาในการสั่งจองวัคซีน และไม่สามารถฉีดวัคซีนให้ท่านได้ โรงพยาบาลยินดีคืนเงินให้เต็มจำนวน
  3. สามารถเปลี่ยนผู้ฉีดได้ กรณีที่ผู้ซื้อไม่สามารถฉีดได้
  4. ราคานี้รวมค่าวัคซีน ค่าอุปกรณ์ทางการแพทย์ และค่าบริการ โรงพยาบาลในวันฉีดวัคซีนเท่านั้น
  5. ค่าบริการข้างต้นไม่รวมค่าใบรับรองแพทย์และค่าบริการอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการบริการฉีดวัคซีน เช่น ตรวจสุขภาพ หรือพบแพทย์รักษาอาการเจ็บป่วยอื่นๆ
  6. ไม่สามารถเปลี่ยนแปลง หรือใช้ร่วมกับรายการส่งเสริมการขายอื่น ๆ ได้
  7. ราคาดังกล่าวขอสงวนสิทธิ์สำหรับชาวไทย และชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยเท่านั้น
  8. โรงพยาบาลสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงข้อกำหนด เงื่อนไขการให้บริการ และราคา โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

Q&A วัคซีนทางเลือก Moderna

เตรียมตัวอย่างไร ก่อนฉีดวัคซีนโควิด – 19

เตรียมตัวอย่างไรก่อนฉีดวัคซีนโควิด-19


เตรียมตัวอย่างไร ก่อนฉีดวัคซีนโควิด-19

  1. ผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือมียาประจำที่ต้องรับประทานทุกวัน ควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวก่อน
  2. ก่อนฉีดวัคซีนโควิด 2 วัน ควรงดการออกกำลังกายหนักๆ และพักผ่อนให้เพียงพอ
  3. หากมีอาการป่วย มีไข้ ไม่สบาย ให้เลื่อนการฉีดวัคซีนออกไปก่อน ประมาณ 1-2 สัปดาห์ หรือจนกว่าจะหายดี
  4. ก่อนฉีดวัคซีนควรดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ และงดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลม และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  5. รับประทานอาหาร และยารักษาโรคประจำตัวให้เรียบร้อย ก่อนเข้ารับการฉีดวัคซีน
    ผู้ที่มีโรคประจำตัว ดังนี้
    • โรคเบาหวาน
    • ความดันโลหิตสูง
    • หัวใจ
    • อัมพฤกษ์ และอัมพาต
    ไม่ควรหยุดยา เพื่อฉีดวัคซีน ยกเว้นกรณีที่แพทย์แนะนำให้หยุดยาชั่วคราว เพื่อให้ผลลัพธ์ของวัคซีนมีความแม่นยำ
  6. การฉีดวัคซีนป้องกันโควิดควรห่างกับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ อย่างน้อย 1 เดือน แนะนำให้ฉีดวัคซีนโควิดให้ครบโดสก่อน
  7. ผู้ที่เป็นโรคเลือดออกได้ง่าย ควรแจ้งแพทย์และเจ้าหน้าที่ทราบก่อนเข้ารับการฉีดวัคซีน เพราะอาจต้องใช้เวลากดแผลบริเวณที่ฉีดนานขึ้น
  8. ผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว หากมีอาการของโรคกำเริบ ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีนหรือไม่ก็ตาม ให้รีบปรึกษาแพทย์ผู้รักษาก่อน
ฉีดวัคซีน COVID-19
  • กรุณานำบัตรประชาชนมา ณ สถานที่ให้บริการ
  • สวมเสื้อแขนสั้น สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ล้างมือบ่อยๆ รักษาระยะห่าง
จุดให้บริการฉีดวัคซีน : ชั้น 2 โซนใหม่ ติดกับแผนกศัลยกรรม โรงพยาบาลบางโพ โปรดมาในช่วงเวลานัด เพื่อลดความแออัด ป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ
จุดรับส่ง (drop-off) : จุดส่งผู้มาฉีดวัคซีนโควิดใกล้ที่สุด คือ ทางขึ้นชั้น 2 อาคาร 1 หน้าแผนกฉุกเฉิน
ที่จอดรถ : จอดรถที่อาคารจอดรถของโรงพยาบาล และอาคารจอดรถ เกตเวย์ แอท บางซื่อ ชั้น 1C, 2C โดยแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนครั้งต่อไป ที่จุดประชาสัมพันธ์

ขั้นตอนการเข้ารับบริการ