ตรวจหาสารกัญชาในปัสสาวะ

ตรวจหาสารกัญชา ในปัสสาวะ


ทุกวันนี้ เราสามารถพบกัญชา เป็นส่วนผสมของอาหาร ในหลายประเภท แต่เราจะทราบได้อย่างไร หากทางร้านไม่ได้แจ้ง หรือไม่มีป้ายบอก  สังเกตุอาการ หลังรับประทานอาหารผสมกัญชา หากมีอาการไม่พึงประสงค์ ควรรีบพบแพทย์

ตรวจหาสารกัญชา ในปัสสาวะ

หากมีอาการ หลังรับประทานอาหารผสมกัญชา
ในปัจจุบันข่าวสารเกี่ยวกับกัญชาในสื่อต่างๆ มีอยู่มากมาย  เราจึงควรเลือกแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้รู้เท่าทันที่จะใช้ประโยชน์จากกัญชา  และทราบวิธีการปกป้องตนเองและคนที่เรารักจากอันตรายของกัญชา   
กัญชามีประโยชน์ก็จริง แต่ก็จัดเป็นพืชที่มีสารเสพติดเป็นอันตรายต่อสุขภาพเช่น  ทุกวันนี้ เราสามารถพบกัญชา เป็นส่วนผสมของอาหาร ในหลายประเภท แต่เราจะทราบได้อย่างไร หากทางร้านไม่ได้แจ้ง หรือไม่มีป้ายบอก  สังเกตุอาการ หลังรับประทานอาหารผสมกัญชา หลังหยุดกัญชา   หากมีอาการไม่พึงประสงค์  ควรรีบพบแพทย์  
 
เมากัญชา ทำอย่างไร
  1. อาการเมากัญชา ตาแดง เดินเซ การตอบสนองช้าลง ปากแห้ง เพิ่มความอยากอาหาร อารมณ์เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว หัวใจเต้นเร็ว ความดันเพิ่มขึ้น เมื่อใช้ปริมาณมากจะมีอาการหลอน เกิดภาพลวงตา ควบคุมตัวเองไม่ได้ ให้รีบส่งโรงพยาบาล
  2. ระยะเวลาที่มีอาการ หลังใช้ 2-3 ชม. และอาจอยู่ในร่างกายนานหลายวันถึงเป็นเดือน ขึ้นอยู่กับปริมาณที่ใช้
  3. อาการถอนยา อาการปวดศีรษะ นอนไม่หลับ คลื่นไส้อาเจียน เบื่ออาหาร ท้องเสีย ปวดท้อง สั่น เหงื่อออก ไข้ สั่น หลังหยุดกัญชา มักมีอาการ 24-48 ชม. อาการมากสุด วันที่ 4-6 อาการจะคงอยู่ 1-3 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับปริมาณที่ได้รับ สมุนไพรที่อาจจะลดอาการเมากัญชา ได้ น้ำมะนาว หรือรับประทานรากว่านน้ำ
  4. ถ่้ามีอาการทางจิต เช่น มีภาวะซึมเศร้า กระสับกระส่ายอย่างรุนแรง เห็นภาพหลอน มีความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย ให้รีบส่งโรงพยาบาล
สำหรับผู้ใช้กัญชา
  1. หากท่านอายุน้อยกว่า 20 ปี ขอให้พิจารณาเลิกใช้กัญชาทันที
  2. ถ้าเป็นไปได้ เลือกใช้กัญชาจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ เพื่อหลีกเสี่ยงการปนเปื้อนของโลหะหนัก และสารกำจัดศัตรูพืช
  3. หลีกเลี่ยงการใช้ช่อดอกกัญชา เพราะเป็นส่วนที่มีสารแคนนาบินอยด์สูง ซึ่งจะก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพได้มาก
  4. ขอให้สูบกัญชาในบริเวณที่ห่างไกลจากคนอื่น โดยเฉพาะเด็ก เยาวชนและสตรีมีครรภ์ เพราะบุคคลเหล่านี้อาจจะเป็นผู้สูบมือสองได้ และได้ผลกระทบจากควันกัญชาได้
  5. ไม่ขับรถหรือทำงานกับเครื่องจักรต่างๆ ภายใน 6 ชั่วโมงหลังได้รับกัญชา เพราะจะเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
  6. ถ้าได้รับกัญชาแล้ว มีอาการผิดปกติ ให้รีบไปพบแพทย์ และแจ้งให้แพทย์ทราบเรื่องการได้รับกัญชา เพื่อที่จะได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้องทันท่วงที
  7. หากรู้สึกว่าต้องเพิ่มขนาดความถี่ของการใช้กัญชา หรือไม่สามารถหยุดใช้กัญชาได้โดยง่าย แสดงว่าติดกัญชาแล้ว
    ขอให้รีบพบแพทย์เพื่อการรักษาภาวะติดกัญชา
  8. หากท่านปลูกกัญชาในบ้าน ขอให้หาวิธีไม่ให้เด็กและเยาวชนเข้าถึงได้โดยง่าย
  9. กรณีท่านเป็นผู้ผลิตอาหารที่ใส่กัญชา ขอให้อย่าใช้ช่อดอก และต้องแจ้งให้ผู้บริโภคทราบเสมอว่ามีการใส่กัญชาในอาหารหรือไม่
วันนี้ - 31 ธันวาคม 2568

โปรแกรมและแพ็คเกจ

โปรแกรมตรวจสุขภาพ Songkran Summer

โปรแกรมตรวจสุขภาพ SO […]

โปรแกรมคัดกรองมะเร็งปอด ด้วย CT SCAN LOW DOSE

โปรแกรมคัดกรองมะเร็งปอด ด้วย CT SCAN LOW DOSE

"มะเร็งปอด รู้เร็ว รักษาได้

ตรวจคัดกรองมะเร็งปอดด้วย CT SCAN LOW DOSE: 3,333.- (จากปกติ 7,500.-)


การตรวจคัดกรองมะเร็งปอด
การตรวจคัดกรองจะช่วยให้แพทย์สามารถตรวจพบและรักษามะเร็งได้ตั้งแต่เนิ่นๆ แต่ในปัจจุบันยังไม่มีวิธีการตรวจสอบมะเร็งปอดแบบง่ายหรือด้วยตนเองดังเช่น มะเร็งเต้านม อย่างไรก็ตามมีการตรวจสอบใหม่ที่เป็น การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์แบบใช้ปริมาณรังสีต่ำ (low-dose helical computerized tomography) ซึ่งสามารถนำมาใช้ในการตรวจคัดกรองและวินิจฉัยได้

โปรแกรมตรวจคัดกรองมะเร็งปอด ด้วย CT LOW DOSE

มะเร็งปอดเป็นโรคที่พบได้มากในประเทศไทย และเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของทั้งเพศชายและเพศหญิง อย่างไรก็ดี มะเร็งปอดสามารถรักษาให้หายได้หากตรวจพบตั้งแต่ในระยะต้น มะเร็งปอด เกิดจากการเจริญเติบโตของเซลล์ที่ผิดปกติอย่างรวดเร็วและ ไม่สามารถควบคุมได้ ทำให้เกิดเป็นกลุ่มก้อนของเซลล์ที่ผิดปกติ ซึ่งจะตรวจพบได้เมื่อมีขนาดใหญ่ มีจำนวนมาก และแพร่ไปตามบริเวณต่างๆ ของร่างกาย มะเร็งปอดจะทำลายชีวิตของผู้ป่วยได้รวดเร็วแค่ไหน ขึ้นอยู่กับชนิดของมะเร็ง
ใครควรเข้ารับการตรวจมะเร็งปอด
บุหรี่และสารพิษ มลภาวะในสิ่งแวดล้อมเป็นปัจจัยที่อาจเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งปอด สำหรับผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงควรตรวจคัดกรองปีละครั้ง
  • ผู้มีอายุ 50-80 ปี  มีพฤติกรรมสูบบุหรี่ 1 ซอง/วัน เป็นเวลา 30 ปี หรือ 2 ซอง/วัน เป็นเวลา 15 ปี
  • เลิกบุหรี่ไปแล้ว  ระยะเวลาไม่เกิน 15 ปี
  • ผู้ที่ใกล้ชิดกับผู้สูบบุหรี่ 
  • มีประวัติคนในครอบครัวเป็นมะเร็งปอด ผู้ที่มีพ่อแม่พี่น้องเป็นโรคมะเร็งปอด มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งปอดแม้จะไม่ได้สูบบุหรี่
  • การได้รับสารพิษและมลภาวะในสิ่งแวดล้อม เช่น ควันบุหรี่  แอสเบสตอส (asbestos) ก๊าซเรดอน (radon)  สารหนู รังสี และสารเคมีอื่นๆ  รวมถึงฝุ่นและไอระเหยจากนิกเกิล โครเมียม และโลหะอื่นๆ
  • ผู้มีอาการไอเรื้อรังโดยไม่ทราบสาเหตุ  ความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งปอดเพิ่มขึ้นตามอายุ โดยทั่วไป  ความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นหลังอายุ 40 ปี แต่ก็สามารถพบได้ในคนอายุน้อยกว่า 40 ปี
การตรวจคัดกรองมะเร็งปอด
การตรวจคัดกรองจะช่วยให้แพทย์สามารถตรวจพบและรักษามะเร็งได้ตั้งแต่เนิ่นๆ แต่ในปัจจุบันยังไม่มีวิธีการตรวจสอบมะเร็งปอดแบบง่ายหรือด้วยตนเองดังเช่น มะเร็งเต้านม อย่างไรก็ตามมีการตรวจสอบใหม่ที่เป็น การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์แบบใช้ปริมาณรังสีต่ำ (low-dose helical computerized tomography) ซึ่งสามารถนำมาใช้ในการตรวจคัดกรองและวินิจฉัยได้
การตรวจวินิจฉัยด้วยรังสี
  • การตรวจด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT scan)
  • การตรวจโดยใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) เป็นวิธีที่ช่วยให้แพทย์หาตำแหน่งและขนาดของก้อนเนื้อที่ผิดปกติในบริเวณปอดได้
  • การตรวจด้วยเครื่อง PET scan (positron emission tomography scan) เป็นการฉีดโมเลกุลของสารกัมมันตภาพรังสีที่รวมกับน้ำตาลเข้าทางเส้นเลือด เซลล์มะเร็งปอดจะดูดซึมเอาน้ำตาลชนิดนี้ไว้อย่างรวดเร็วและมากกว่าเซลล์ปกติ ทำให้เกิดความแตกต่างของการเรืองแสงเฉพาะเซลล์มะเร็ง
คัดกรองมะเร็งปอด
รายการ
ค่าบริการ
หมายเหตุ
โปรแกรมคัดกรองมะเร็งปอด ด้วย CT SCAN LOW DOSE 3,333.- รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาลแล้ว
วันนี้ - 31 ธันวาคม 2568

โปรแกรมและแพ็คเกจ

ปลดล็อค อาการปวด ด้วยเครื่องกระตุ้นสนามแม่เหล็ก PMS

ปลดล็อค อาการ ปวด จากโรคระบบประสาท ด้วยเครื่องกระตุ้นสนามแม่เหล็ก

Peripheral Magnetic Stimulation (PMS)

ปลดล็อค อาการปวดจากโรคระบบประสาท ด้วยเครื่องกระตุ้นสนามแม่เหล็ก


บำบัดรักษาอาการ เช่น ปวดกล้ามเนื้อ โรคเอ็นอักเสบ โรคปวดข้อต่อ อาการชาจากเส้นประสาทได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ทำให้เกิดการบาดเจ็บต่ออวัยวะโดยรอบ รู้สึกผ่อนคลายในขณะรักษา

ปลดล็อคอาการปวดทางเส้นประสาท ด้วยเครื่องกระตุ้นสนามแม่เหล็ก

Peripherl Magnetic Stimulation (PMS)
เทคโนโลยี PMS หรือ Peripheral Magnetic Stimulation คือ เครื่องกระตุ้นระบบประสาทด้วยการใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ทางการแพทย์ที่เรียกว่า Electromagnetic เพื่อบำบัดรักษาอาการปวด เช่น อาการปวดกล้ามเนื้อ โรคเอ็นอักเสบ โรคปวดข้อต่อ และอาการชาจากเส้นประสาทได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยคลื่นไฟฟ้าจะสามารถกระตุ้นทะลุผ่านเสื้อผ้าโดยไม่ต้องสัมผัสผิว ลงไปถึงเนื้อเยื่อและกระดูกได้ลึกประมาณ 10 ซม. คลื่นจาก PMS จะส่งคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ไปกระตุ้นที่เส้นประสาทโดยตรง ทำให้เกิดกระบวนการ Depolarization กระตุ้นเนื้อเยื่อบริเวณที่ปวดทำให้เกิดการไหลเวียนของโลหิตบริเวณกล้ามเนื้อดียิ่งขึ้น ไม่ทำให้เกิดการบาดเจ็บต่ออวัยวะโดยรอบ รู้สึกผ่อนคลายในขณะรักษา รวมถึงส่งสัญญาณคลื่นแม่เหล็กกระตุ้นแขน ขา บริเวณที่เคลื่อนไหวไม่ได้ ให้ส่งสัญญาณไปที่สมอง และให้สมองส่วนที่ยังทำงานได้มีการฟื้นตัว แล้วส่งสัญญาณกลับลงมาทำให้แขนขาขยับได้มากขึ้น ในส่วนของการบำบัดรักษาอาการเจ็บปวด การกระตุ้นเส้นประสาทจะทำให้เกิดการส่งสัญญาณที่ช่วยยับยั้งอาการปวดได้ สามารถรักษาได้ทั้งปวดเฉียบพลันและเรื้อรัง และยังเป็นการกระตุ้นให้มีการซ่อมเสริมของเนื้อเยื่อด้วย
กลุ่มโรคที่รักษาด้วยเครื่อง PMS
  1. กลุ่มอัมพฤกษ์ อัมพาต ซึ่งเกิดจากหลอดเลือดสมองตีบหรือแตก (Stroke), เกิดจากการบาดเจ็บในสมอง (Traumatic Brain Injury), เกิดจากการบาดเจ็บของไขสันหลัง (Spinal Cord Injury) หน้าเบี้ยวครึ่งซีก (Bell'spalsy) กลุ่มนี้จะเป็นลุ่มใหญ่ที่จะสามารถใช้เครื่องกระตุ้นแม่เหล็กมาบำบัดรักษาจะช่วย ลดอาการเกร็งในผู้ป่วย อัมพฤกษ์ อัมพาต ทำให้อาการฟื้นตัวของอาการอัมพฤกษ์ อัมพาตดีขึ้น
  2. กลุ่มโรคกระดูกสันหลัง หมอนรองกระดูกสันหลัง คือกลุ่มโรคที่เกี่ยวกับแนวไขสันหลังโดยตรง การเสื่อมของกระดูกสันหลัง และหมอนรองกระดูก หรือการเคลื่อนตัวของหมอนรองกระดูก ที่มีผลต่อเส้นประสาทจากไขสันหลังหรือการบาดเจ็บที่ไขสันหลัง การรักษาด้วยคลื่นแม่เหล็กจะสามารถรักษากลุ่มปวดนี้ได้มีประสิทธิภาพดีกว่าเครื่องมืออื่น เนื่องจากการกระตุ้นด้วยแม่เหล็กจะสามารถกระตุ้นลึกลงไปจนถึงรากประสาทได้
  3. กลุ่มปวดต่าง ๆ หรือ ออฟฟิศซินโดรม การบำบัดอาการปวด อาการเคล็ดคัดยอก การบาดเจ็บหรืออาการปวดเรื้อรังจากกล้ามเนื้อ เอ็น พังผืดหรืออาจเกิดจากการบาดเจ็บของตัวเส้นประสาทโดยตรง เช่น อาการปวดบริเวณคอ บ่า ข้อศอก แขน มือ เอว หลัง สะโพก ขา เข่า หรือข้อเท้า และหากทำอย่างต่อเนื่องตามแพทย์แนะนำจะทำให้อาการปวดค่อยๆ ดีขึ้นและหายไปในที่สุด
  4. กลุ่มอาการชา หรือ ผู้ที่มีอาการชาจากปลายประสาทหรือการกดทับเส้นประสาท คือกลุ่มปลายประสาทอักเสบ โดยส่วนใหญ่พบได้ในกลุ่มผู้ป่วยเบาหวาน พบว่าอาการชามือ ชาเท้าจะดีขึ้น 50-100% ในแต่ละครั้งที่รักษา
  5. ช่วยบำบัดรักษาฟื้นฟูอาการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา นักกีฬาที่ได้รับบาดเจ็บจากการฝึกซ้อม หรือระหว่างแข่งขัน

การบำบัด ด้วยเครื่องกระตุ้นสนามแม่เหล็ก รักษาอาการทางประสาท

 
อัตราค่าบริการ 
ไม่รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาล
ระยะเวลา
ราคา
10 นาที 800.-
15 นาที 1,000.-
20 นาที 1,200.-
25 นาที 1,400.-
30 นาที 1,600.-
หมายเหตุ
  • โปรแกรมการรักษาขึ้นกับการตรวจประเมินของแพทย์และนักกายภาพบำบัด
  • ราคาแพ็กเกจไม่รวมค่าตรวจวินิจฉัยทางการแพทย์ ในการเข้ารับบริการครั้งแรก
  • โปรโมชั่นพิเศษ ต้องชำระเงินล่วงหน้า 7 ครั้ง เพื่อรับสิทธิ์ฟรี 1 ครั้ง
  • ใช้สิทธิได้ภายใน 3 เดือนหลังชำระเงิน
  • เพื่อประสิทธิผลของการรักษา โปรดมารักษาอย่างต่อเนื่อง
  • แพ็คเกจดังกล่าวไม่สามารถใช้ร่วมกับสิทธิ์และส่วนลดอื่นๆ ได้
  • สำหรับกลุ่มประกัน ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของบริษัทประกัน และการประเมินของแพทย์
  • โรงพยาบาลขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
วันนี้ - 31 พฤษภาคม 2568

โปรแกรมและแพ็คเกจ

ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่

วัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์

วัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์


849.- ตั้งแต่ 1 - 3 ท่าน : (ต่อท่าน)
700.- ตั้งแต่ 4 ท่านขึ้นไป : (ต่อท่าน ฉีดวันเดียวกันในโรงพยาบาล)
700.- ตั้งแต่ 10 ท่านขึ้นไป : (ต่อท่าน ฉีดนอกสถานที่ บ้านหรือบริษัท ระยะทางไม่เกิน 10 กม.)

ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์

การฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ควรฉีดทุกปี ก่อนฤดูที่มีการระบาด (ฤดูฝน และฤดูหนาว) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง  การฉีดวัคซีนทุกปีเป็นการกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันอยู่ในระดับสูง ทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในแต่ละปี วัคซีนชนิด 4 สายพันธุ์แนะนำให้ฉีดได้ตั้งแต่เด็กอายุ 6 เดือน จนถึงผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ รวมถึงหญิงตั้งครรภ์และหญิงให้นมบุตรก็สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ได้เช่นกัน
ค่าบริการวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ภายในโรงพยาบาล
รายการ
ราคา(ต่อท่าน)
1 - 3 ท่าน 849.-
4 ท่านขึ้นไป 700.-

ค่าบริการวัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่บ้าน ระยะทางไม่เกิน 10 กม.
รายการ
ราคา(ต่อท่าน)
10 ท่านขึ้นไป 700.-
ฉีดวัคซีนอื่น ๆ ที่โรงพยาบาล หรือ ที่บ้าน
รายการ
ราคา(เข็ม)
วัคซีนปอดอักเสบ 13 สายพันธฺุ์ (สำหรับผู้ที่ไม่เคยได้รับวัคซีน) 3,250.-
วัคซีนปอดอักเสบ 23 สายพันธุ์ (สำหรับผู้ที่เคยได้รับวัคซีน) 1,700.-
วัคซีนอีสุกอีใส 1,700.-
เงื่อนไขการรับสิทธิ์
ราคารวมค่าบริการทุกอย่างแล้ว
  1. ไม่สามารถซื้อสิทธิ์เก็บไว้ได้
  2. ราคาพิเศษ ตั้งแต่ 4 ท่านขึ้นไปและใช้บริการภายในวันเดียวกันทุกท่าน (พร้อมกัน) ในโรงพยาบาล
  3. สามารถใช้ได้ตั้งแต่วันนี้ - 31 ธันวาคม 2568
  4. ให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 - 17.00 น.
  5. ฉีดนอกสถานที่ไม่เกิน 10 กม.ราคาพิเศษ ตั้งแต่ 10 ท่านขึ้นไป
  6. ขอสงวนสิทธิ์การคืนเงิน ยกเลิกทุกกรณี แต่สามารถเปลี่ยนแปลงวันรับบริการได้
วันนี้ - 30 มิถุนายน 2568

โปรแกรมและแพ็คเกจ

ตรวจสุขภาพ

ตรวจสุขภาพ

ใคร ๆ ก็ตรวจได้

ตรวจ 4 รายการ : 999.-

รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาล(พร้อมใบรับรองแพทย์)

ตรวจ 6 รายการ : 1,299.-

รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาล(พร้อมใบรับรองแพทย์)


ใคร ๆ ก็ตรวจได้

ปัจจุบันการดำเนินชีวิตของคนในสังคม ต้องทำงานแข่งกับเวลาอย่างเร่งรีบ และอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีมลภาวะเป็นพิษ จึงมีพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อสุขภาพ เช่น การขาดการออกกำลังกาย การไม่ตระหนักในการรับประทานอาหาร รวมถึงมลภาวะทางจิตใจ ขาดความสมดุลของชีวิต ทำให้เกิดความเคยชิน จนกลายเป็นภัยคุกคามสุขภาพได้
การตรวจสุขภาพจึงมีความจำเป็น เพื่อสำรวจว่าระบบต่างๆ ในร่างกายเรามีความผิดปกติ หรือมีความบกพร่องที่อัวยวะใด เพื่อจะได้รักษา ป้องกัน หรือ ผ่อนหนักให้เป็นเบา หากมีการดูแลอย่างดี ตรวจสอบหาข้อบกพร่อง และแก้ไขแต่ระยะต้นๆ ร่างกายก็จะอยู่กับเราได้นานขึ้น และมีคุณภาพชีวิตที่ดี
รายการตรวจ
ตรวจ 4 รายการ
ตรวจ 6 รายการ
ตรวจร่างกายโดยแพทย์
(Physical Examination)
ตรวจเอกซเรย์ปอดดิจิตอล
(X-ray)
ตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะ
(Amphetamine)
ตรวจวัดสายตาทั่วไป/ตาบอดสี
ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด
(CBC)
ตรวจความสมบูรณ์ของปัสสาวะ
(UA)
ราคา
รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาล(พร้อมใบรับรองแพทย์)
999.-
1,299.-
วันนี้ - 31 ธันวาคม 2568

โปรแกรมและแพ็คเกจ

วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก

แพคเกจวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก (HPV Vaccine)

สร้างภูมิคุ้มกัน เพื่อหยุดมะเร็งปากมดลูก

วัคซีน HPV 4 สายพันธุ์

วัคซีน HPV 9 สายพันธุ์


วัคซีนป้องกันไวรัส HPV สามารถฉีดได้ทั้งเด็กหญิงและเด็กชาย ตั้งแต่อายุ 9 ปีขึ้นไป
ประสิทธิภาพจะดีที่สุดในผู้ที่ยังไม่ติดเชื้อ HPV ดังนั้นการป้องกันที่ดีที่สุด คือ การเริ่มให้วัคซีนตั้งแต่ช่วงก่อนเข้าวัยรุ่นถึงวัยรุ่น

มะเร็งปากมดลูกจากไวรัส HPV

มะเร็งปากมดลูกไม่ได้มีสาเหตุจากพันธุกรรม แต่เกิดจากไวรัส HPV ซึ่งติดต่อทางเพศสัมพันธ์เป็นหลัก และรวมถึงสัมผัส ใกล้ชิดจากภายนอก และเชื้อนี้ยังสามารถก่อให้เกิดโรคอื่นๆ ได้อีกหลายชนิด ปัจจุบันมีหลักฐานยืนยันชัดเจนว่าการติดเชื้อ ไวรัสที่ชื่อว่า Human Papilloma Virus (HPV) เป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูกการฉีด HPV Vaccine เพื่อการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต่อต้านเชื้อ HPV เป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยป้องกันปากมดลูกจากการติดเชื้อ HPV ได้
ประสิทธิภาพของ HPV Vaccine จะสูงที่สุดในสตรีที่ยังไม่ติดเชื้อ HPV ดังนั้นจึงควรฉีดวัคซีนก่อนถึงวัยที่จะมีเพศสัมพันธุ์ โดยปัจจุบันแนะนำให้ฉีด ในทั้งเด็กหญิงและเด็กชาย ที่มีอายุ 9 ปี ช่วงดังกล่าวเด็กจะสามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้อย่างเต็มที่นอกจากนั้นยังแนะนำว่าผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 13-26 ปี ที่ไม่เคยฉีดวัคซีน หรือฉีดไม่ครบควรได้รับการฉีดทุกคน
  • มะเร็งปากมดลูกมีสาเหตุจากเชื้อ HPV ถึง 99.7%
  • เป็นมะเร็งที่ตรวจพบมากเป็นอับดับ 2 ในหญิงไทย
  • ผู้ชายก็สามารถติดเชื้อ HPV ได้เพราะเชื้อไวรัส HPV เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดหูดหงอนไก่ และมะเร็งทวารหนัก
มะเร็งจากไวรัส HPV ป้องกันได้

แนะนำให้ฉีดในผู้หญิงและผู้ชายอายุ 9 -26 ปีทุกคน และ ผู้หญิงที่มีอายุ 26-45 ปี หรือแม้แต่ผู้ที่เคยมีผล pap smear หรือ HPV testing ผิดปกติ โดยวัคซีนจะฉีดเข้าที่กล้ามเนื้อต้นแขนหรือกล้ามเนื้อสะโพก
  • สำหรับเด็กอายุ 9 -<15 ปี ฉีด 2 เข็มคือ ที่ 0 เดือนและ 6 เดือน
  • สำหรับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 15-26 ปี ฉีด 3 เข็มคือ ที่ 0 เดือน 2 เดือนและ 6 เดือน
วัคซีน HPV 4 สายพันธุ์

  • สายพันธุ์ที่ 16, 18 สาเหตุของ มะเร็งปากมดลูก มะเร็งปากช่องคลอด มะเร็งช่องคลอด มะเร็งทวารหนัก หูดหงอนไก่ ภาวะก่อนมะเร็ง (precancerous) หรือภาวะเซลล์ผิดปกติชนิด dysplasia
  • สายพันธุ์ที่ 6, 11 สาเหตุของ มะเร็งทวารหนัก หูดหงอนไก่ ภาวะก่อนมะเร็ง (precancerous) หรือภาวะเซลล์ผิดปกติชนิด dysplasia
วัคซีน HPV 9 สายพันธุ์

  • สายพันธุ์ที่ 16, 18, 31, 33, 45, 52, 58 สาเหตุของ มะเร็งปากมดลูก มะเร็งปากช่องคลอด มะเร็งช่องคลอด มะเร็งทวารหนัก มะเร็งคอหอยหลังช่องปาก และมะเร็งทางศีรษะเเละลำคอ หูดหงอนไก่ ภาวะก่อนมะเร็ง (precancerous) หรือภาวะเซลล์ผิดปกติชนิด dysplasia
  • สายพันธุ์ที่ 6, 11 สาเหตุของ มะเร็งทางทวารหนัก มะเร็งคอหอยหลังช่องปาก และมะเร็งทางศีรษะเเละลำคอ หูดหงอนไก่ ภาวะก่อนมะเร็ง (precancerous) หรือภาวะเซลล์ผิดปกติชนิด dysplasia
ผลข้างเคียงของการฉีด HPV Vaccine

โดยทั่วไปการฉีด HPV Vaccine มีความปลอดภัยสูงไม่พบอาการข้างเคียงชนิดรุนแรง อาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่
  1. อาการข้างเคียงบริเวณที่ฉีดวัคซีน เช่น ปวด บวม แดง และคัน ส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง เป็นอยู่ชั่วคราวและหายไปเอง
  2. อาการทั่วไปเช่น ไข้ พบประมาณร้อยละ 10 ส่วนใหญ่ไม่รุนแรงและหายได้เอง อาการอื่นๆ ที่อาจพบได้ เช่น ปวดศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน อ่อนเพลีย และผื่นคันตามตัว อาการเหล่านี้ไม่รุนแรงและหายได้เอง

สร้างภูมิคุ้มกัน เพื่อหยุดมะเร็งปากมดลูก

รายการ
วัคซีน HPV 4 สายพันธุ์
วัคซีน HPV 9 สายพันธุ์
2 เข็ม
สำหรับเด็กอายุ 9-14 ปี
5,900.-
(รวมค่าแพทย์และค่าบริการ รพ.)
12,500.-
(รวมค่าแพทย์และค่าบริการ รพ.)
3 เข็ม
สำหรับผู้ที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
7,800.-
(รวมค่าแพทย์และค่าบริการ รพ.)
18,500.-
(รวมค่าแพทย์และค่าบริการ รพ.)
วันนี้ - 31 มีนาคม 2568

โปรแกรมและแพ็คเกจ

Baby Delivery Package

Normal Delivery Pack […]

PACKAGE ฝังยาคุมกำเนิด

แพ็กเกจฝังยาคุมกำเนิ […]

วัคซีนป้องกันโรคร้าย วัย 50+

วัคซีนป้องกันโรคร้าย วัย 50+

เตรียมความพร้อม สู่ "สังคมสูงวัย อย่างมีสุขภาพดี"


การได้รับฉีดวัคซีนในวัยเด็กเป็นสิ่งที่สำคัญที่จะช่วยป้องกันการเกิดโรคได้ แต่เมื่ออายุมากขึ้นปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคก็เพิ่มมากขึ้น  ภูมิต้านทานจากการฉีดวัคซีนอาจลดลงเมื่อเวลาผ่านไปจึงจำเป็นต้องฉีดกระตุ้นใหม่ หรือเมื่ออายุมากขึ้นความไวของเชื้อในการก่อโรคมากขึ้น เช่น ไข้หวัดใหญ่ และโรคปอดบวม1 ดังนั้นในผู้สูงอายุก็มีความจำเป็นที่ต้องฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันโรคเช่นเดียวกัน

ผู้ใหญ่อายุ 50 ปี ขึ้นไปทุกคน แพทย์แนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรค การฉีดวัคซีนป้องกัน ช่วยให้บรรเทาอาการของโรคและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง นอกจากนี้ยังลดโอกาสเสี่ยงการแพร่กระจายเชื้อไปสู่คนอื่น ในวัยผู้ใหญ่ภูมิคุ้มกันจะลดลงตามอายุที่มากขึ้น จึงต้องมีการกระตุ้นด้วยการฉีดวัคซีน หรืออาจจะเป็นเพราะเชื้อโรคนั้นมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง หรือสายพันธุ์ใหม่จนระบบภูมิคุ้มกันเดิมร่างกายไม่รู้จักเชื้อนั้น เช่น ไข้หวัดใหญ่

รายการตรวจ ราคา(บาท)
วัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์
ควรฉีดป้องกันปีละ 1 ครั้ง
849.-
(รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาล)
วัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ High Dose สำหรับผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป
ควรฉีดป้องกันปีละ 1 ครั้ง
2,500.-
(รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาล)
วัคซีนสุกใส (1 เข็ม)
ควรฉีดในผู้ที่ไม่เคยได้รับวัคซีนหรือไม่เคยเป็นอีสุกอีใสมาก่อน
1,700.-
(ไม่รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาล)
วัคซีนตับอักเสบ บี (1 เข็ม)
โดยฉีด 3 ครั้งห่างกัน 4-8 สัปดาห์
660.-
(ไม่รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาล)
วัคซีนตับอักเสบ บี (3 เข็ม)
ฉีด 3 เข็มป้องกันตลอดชีวิต
1,980.-
(ไม่รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาล)
วัคซีนตับอักเสบ เอ (1 เข็ม)
ฉีด 1 เข็มป้องกันตลอดชีวิต
1,200.-
(ไม่รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาล)
วัคซีนตับอักเสบ เอ (1 เข็ม) + บี (3 เข็ม)
ฉีด 4 เข็มป้องกันตลอดชีวิต
3,190.-
(รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาล)
วัคซีนบาดทะยัก (1 เข็ม)
360-420.-
(ไม่รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาล)
วัคซีนป้องกันโรคปอดบวม 13 สายพันธุ์
ฉีด 1 เข็มป้องกันตลอดชีวิต
3,250.-
(ไม่รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาล)
วัคซีนงูสวัด (RZV) 1 เข็ม
(ฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 2 – 6 เดือน)
5,990.-
(รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาล)
วัคซีนงูสวัด (RZV) 2 เข็ม
(ฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 2 – 6 เดือน)
11,900.-
(รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาล)
วันนี้ - 31 ธันวาคม 2567

โปรแกรมและแพ็คเกจ

Bangpo Home Health Care

Bangpo Home Health Care

เพราะห่วงใย ให้คุณอุ่นใจ

Bangpo Home Health Care

ให้บางโพ ดูแลถึงบ้านคุณ


พร้อมบริการที่หลากหลายจากทีมพยาบาลวิชาชีพและอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานเหมือนอยุ่ในโรงพยาบาล อาทิ ฉีดวัคซีน ทำแผล เจาะเลือด ให้บริการเปลี่ยนสายสวนปัสสาวะ และการให้การพยาบาลที่บ้าน

เพราะห่วงใย ให้คุณอุ่นใจ
ให้บางโพดูแลถึงบ้านคุณ

ด้วยบริการ

Bangpo Home Health Care

พร้อมบริการที่หลากหลาย จากทีมพยาบาลวิชาชีพและอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน เหมือนอยุ่ในโรงพยาบาล
เช่น ฉีดวัคซีน ทำแผล เจาะเลือด ให้บริการเปลี่ยนสายสวนปัสสาวะ และการให้การพยาบาลที่บ้าน

เพียงแค่ 3 ขั้นตอนง่ายๆ เราจะไปหาท่าน

ขั้นตอนที่ 1

กรอกข้อมูล ที่: ลงทะเบียน
โทรศัพท์: 02-587-0144

ขั้นตอนที่ 2

เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ

ขั้นตอนที่ 3

รอรับบริการที่บ้าน

Bangpo Home Health Care

พร้อมบริการที่หลากหลายจากทีมพยาบาลวิชาชีพและอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานเหมือนอยุ่ในโรงพยาบาล อาทิ
เงื่อนไขบริการ
  • ไม่เกิน 5 กิโลเมตร ราคา 500 บาท
  • ไม่เกิน 10 กิโลเมตร ราคา 700 บาท
  • ไม่เกิน 15 กิโลเมตร ราคา 1,000 บาท
  • ไม่เกิน 25 กิโลเมตร ราคา 1,500 บาท
  • ไม่เกิน 45 กิโลเมตร ราคา 2,000 บาท
สนใจบริการ : ลงทะเบียน
หรือ โทร. 02-587-0144