บริการตรวจสุขภาพเคลื่อนที่

ศูนย์ตรวจสุขภาพเคลื่อนที่

Mobile Check Up

โรงพยาบาลบางโพ ให้บริการตรวจสุขภาพบุคคลทั่วไป หรือ กลุ่มคณะ สำหรับบริษัท หน่วยงาน สถาบันการศึกษา ทั้งเอกชน และส่วนราชการ ด้วยมาตรฐาน และการบริการ เช่นเดียวกับภายในโรงพยาบาล ประกอบด้วยแพทย์ พยาบาล นักเทคนิคการแพทย์ และทีมงานที่มีประสบการณ์ ผ่านการฝึกอบรมในการให้บริการห้องปฏิบัติการตรวจและวิเคราะห์เลือด ดำเนินการโดยห้องปฏิบัติการ (LAB) ของโรงพยาบาล ที่ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองมาตรฐาน Laboratory Accreditation (LA) จากสภาเทคนิคการแพทย์ จึงมั่นใจในคุณภาพ เพราะเราใช้มาตรฐานเดียวกันกับการรักษาคนไข้ในโรงพยาบาล

  เราให้คำปรึกษาในรายละเอียดรายการตรวจ ที่เหมาะสำหรับกลุ่มบริษัท โรงงงาน ซึ่งมีการผลิตที่แตกต่างกัน  เช่น การตรวจสมรรถภาพปอด  การตรวจสมรรถภาพการมองเห็น การตรวจสมรรถภาพการได้ยิน การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ และ การตรวจหาสารปรอท เป็นต้น  

การตรวจสุขภาพประจำปี

ให้บริการตรวจสุขภาพทั้งในโรงพยาบาล   และ ณ สถานที่ที่ลูกค้ากำหนด เช่น  บริษัท โรงงาน  สำนักงาน  ซึ่งท่านจะได้รับความสะดวกสบายในการรับบริการและไม่เสียเวลา ค่าใช้จ่าย ในการเดินทางมารับบริการที่โรงพยาบาล นอกจากนี้ ยังมีการให้บริการด้านอื่นอีก เช่น การฝึกอบรมปฐมพยาบาลเบื้องต้น และการให้ความรู้ด้านการฟื้นคืนชีพ  การอบรมให้ความรู้ต่างๆ ที่เป็นประโยชน์สำหรับกลุ่มพนักงาน เช่น  Office syndrome เป็นต้น

การตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน 

ให้บริการสำหรับองค์กร บริษัท ที่ต้องการตรวจสุขภาพพนักงานก่อนเข้าทำงาน  ในราคากลุ่ม โดยส่งตัวมารับการตรวจในโรงพยาบาล และจะส่งผลการตรวจให้กับแผนกบุคคลโดยตรง

ผลงานที่ผ่านมาของศูนย์ตรวจสุขภาพเคลื่อนที่  รพ. บางโพ 

  • บริษัท ไทยเคเจเค จำกัด  จ.ชลบุรี                         150  คน
  • บริษัท ปทุมธานีคอนกรีต จำกัด (PACO)                      600  คน
  • โรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค                                    600  คน
  • มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี                      5,000 คน
  • มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าฯ พระนครเหนือ            5,500  คน (ตรวจต่อเนื่อง 3 ปีซ้อน ปี 2556, 2557 และ 2558)
  • สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล 900 คน
  • บริษัท Mfec Public Company Limited Co.Ltd 300 คน
  • บริษัท ฉื่อจิ้นฮั้ว จำกัด 600 คน
  • บริษัท วิสแพค จำกัด 100 คน
  • บริษัท ปริ๊น คาเฟ่ จำกัด 100 คน
  • บริษัท เอสซีจี ยามาโตะ เอ็กซ์เพรส จำกัด 100 คน (ตรวจในโรงพยาบาล)
  • สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม 196 คน (ตรวจในโรงพยาบาล)
  • สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ(องค์การมหาชน) 300 คน (ตรวจในโรงพยาบาล)
  • บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด SAM 140 คน (ตรวจในโรงพยาบาล)
  • สถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (องค์การมหาชน) 40 คน (ตรวจในโรงพยาบาล)
  • บริษัท เบ็ญจมาศ จำกัด 300 คน (ตรวจในโรงพยาบาล)
 

ติดต่อสอบถามได้ที่

แผนกตรวจสุขภาพเคลื่อนที่ รพ.  บางโพ Tel. 02-587-0144 ต่อ 2110-3 มือถือ :   

 

บริษัทคู่สัญญา

บริษัทคู่สัญญา

Partner

โรงพยาบาลบางโพ ร่วมกับ องค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน  บริษัท ห้างร้าน โรงเรียน ธนาคาร และอื่นๆ เพื่อให้ผู้ใช้บริการได้รับความสะดวก สบาย  รวมถึงสิทธิประโยชน์กับกลุ่มบริษัทคู่สัญญา ทั้งนี้โรงพยาบาลตระหนัก ถึงสุขภาพเป็นสำคัญ

กลุ่มบริษัท

Corporation

กลุ่มธนาคาร

Bank

กลุ่มรัฐวิสาหกิจ

State Enterprise

กลุ่มมหาวิทยาลัย / โรงเรียน

School /University

คู่สัญญาบริษัทประกัน

บริษัทคู่สัญญา กลุ่มประกันสุขภาพ / ประกันชีวิต

Partner

โรงพยาบาลบางโพ พร้อมทุกความร่วมมือกับกลุ่มบริษัทประกันชีวิต ประกันสุขภาพ เพื่อให้ผู้ใช้บริการได้รับความสะดวกในการจัดการทางการแพทย์  เพื่อให้ท่านได้รับความรวดเร็วและสะดวกสบาย หากท่านต้องการสอบถามเกี่ยวกับความคุ้มครองของท่านเพียงแสดงบัตรประชาชน และบัตรประกันสุขภาพ แจ้งที่แผนกเวชระเบียน

วัคซีนสำหรับเด็ก 2 เดือน – 1 ปี

PACKAGE วัคซีนสำหรับเด็ก 2 เดือน - 1 ปี

วัคซีนรวมสำหรับเด็ก : 5,499.-


ทำไมคุณแม่ควรสร้างภูมิต้านทานให้ลูกน้อย และคำแนะนำเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนป้องกันโรค

คุณแม่ควรเสริมสร้างภูมิต้านทานให้แก่ลูกน้อยเพราะระบบภูมิต้านทานของทารกแรกเกิดยังไม่แข็งแรง ทำให้ติดโรคต่างๆและเจ็บป่วยได้ง่าย ทั้งนี้ "วัคซีน" สามารถช่วยสร้างภูมิต้านทานและปกป้องลูกจากการเจ็บป่วยต่างๆได้

PACKAGE วัคซีนสำหรับเด็ก 2 เดือน - 1 ปี

การฉีดวัคซีน คือ การสร้างภูมิคุ้มกัน เพื่อป้องกันการติดต่อของโรคติดต่อร้ายแรง  วัคซีนผลิตจากเชื้อไวรัส หรือ เชื้อแบคทีเรียท่ีอ่อนตัวแล้ว หรือส่วนประกอบอื่นของเชื้อ เหล่านั้น ตัวของวัคซีนเองก่อให้เกิดอาการน้อยมาก แต่หากจะทําการสร้างภูมิต้านทานให้ร่างกาย ซึ่งจะป้องกัน หรือช่วยลดความเสี่ยงของเด็กท่ีอาจป่วยเป็นโรคท่ีทําาการฉีด วัคซีนน้ันๆ
เหตุใดจึงต้องฉีดวัคซีน
จุดประสงค์ในการฉีดวัคซีนนั้นเพื่อป้องกันโรคติดต่อร้ายแรง โดยเฉพาะกับเด็ก การฉีดวัคซีนนั้นช่วยลดการแพร่ระบาด และลดผลกระทบท่ีร้ายแรงของโรคติดต่อ ในบางกรณี อาจจะกําจัดโรคได้หมด โรคในเด็กหลายโรค เช่น หัด คอตีบ ไอกรน และโปลิโอ ใน ปัจจุบันนี้ไม่ค่อยมีแล้ว โรคเหล่านี้เป็นสาเหตุท่ีพบบ่อยของการเสียชีวิตของเด็กอ่อน
PACKAGE วัคซีนสำหรับเด็ก 2 เดือน - 1 ปี ราคา 5,499 บาท
  • (2 เดือน) วัคซีนรวม 6 โรค (คอตีบ ไอกรน บาดทะยัก โปลิโอ เยื่อหุ้มสมองอักเสบและตับอักเสบบี เข็ม 2)
  • (4 เดือน) วัคซีนรวม 5 โรค (คอตีบ ไอกรน บาดทะยัก โปลิโอ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ)
  • (6 เดือน) วัคซีนรวม 6 โรค (คอตีบ ไอกรน บาดทะยัก โปลิโอ เยื่อหุ้มสมองอักเสบและตับอักเสบบี เข็ม 3)
  • (9 เดือน)  วัคซีนไข้สมองอักเสบ เข็ม 1
  • (12 เดือน) วัคซีนหัด หัดเยอรมัน คางทูม เข็ม 1
ไม่รวมค่าแพทย์ และค่าบริการโรงพยาบาล
วันนี้ - 31 ธันวาคม 2568
เงื่อนไขการเข้ารับบริการ
  • ราคาดังกล่าว ไม่รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาล
  • แพ็กเกจดังกล่าวไม่สามารถใช้ร่วมกับสิทธิ์และส่วนลดอื่นๆ ได้
  • ผู้เข้ารับบริการชำระค่าใช้จ่าย ณ โรงพยาบาล ในวันที่เข้ารับบริการ
  • โรงพยาบาลขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

โปรแกรมและแพ็คเกจ

        
โรคอุจจาระร่วงในเด็ก จากเชื้อไวรัสโรต้า

ปกป้องลูกน้อยให้ห่างไกล โรคปอดบวม ด้วยวัคซีน IPD 13 สายพันธุ์
        
วัคซีนป้องกันโรคมือ เท้า ปาก จากเชื้อ Enterovirus 71

โปรแกรมเลเซอร์ลดปวด

โปรแกรมเลเซอร์ลดปวด

HIGH POWER LASER THERAPY

ต่อ 1 พื้นที่ : 800.-

(15 x 15 cm.)


เป็นการรักษาด้วยลำแสงกำลังสูง ไม่เป็นอันตรายต่อผิวหนังและเนื้อเยื่อ โดยลำแสงสามารถผ่านผิวหนังและลงสู่บริเวณที่มีอาการปวดหรืออักเสบ ประมาณ 6 เซนติเมตร
ลำแสงจะกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีของเนื้อเยื่อทันที ทำให้หายจากอาการปวด และอาการอักเสบ

การบำบัดอาการปวดด้วยเลเซอร์

HIGH POWER LASER THERAPY
เป็นการรักษาด้วยลำแสงกำลังสูง ไม่เป็นอันตรายต่อผิวหนังและเนื้อเยื่อ โดยลำแสงสามารถผ่านผิวหนังและลงสู่บริเวณที่มีอาการปวดหรืออักเสบ ประมาณ 6 เซนติเมตร
ลำแสงจะกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีของเนื้อเยื่อทันที ทำให้ร่างการหลั่ง
  • สารแอนตีโปรตาแกลนดิน ( Antiprostagladin )
    ส่งผลให้หายจากความเจ็บปวด
  • สารแอนตีเบต้าอินเตอร์ลิวคินวัน ( Antibeta interleukin 1 )
    ส่งผลให้หายจากการอักเสบของเนื้อเยื่อ
หากมีการทำอย่างสม่ำเสมอ จำทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระยะยาวคล้าย กับการชาร์จประจุให้กับเซลล์ เพื่อใช้ในการซ่อมสร้างตัวเองในระยะยาว
อาการที่สามารถรักษาด้วย Laser
  • ปวดหลังจากกระดูกทับเส้นประสาท (Spondylosis / Spondylithesis / HNP)
  • ปวดกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อผังผืด (Myofascial pain syndrome)
  • กล้ามเนื้ออักเสบ  (Muscle Strain)  เอ็นอักเสบ  (Tendinitis)
  • นิ้วล็อค  (Trigger finger)
  • ผังผืดฝ่าเท้าอักเสบ (Plantar fascitis)
  • ข้อเสื่อม  (Osteoarthritis) ข้ออักเสบ (Arthritis)
  • อาการบวม (Edema)
  • การกดทับเส้นประสาทบริเวณข้อมือ (Carpal tunnel syndrome)
  • ปวดแขน ขา ในระยะฟื้น หลังจากบาดเจ็บเส้นประสาท
ข้อห้ามในการรักษา
  • บริเวณตาและบริเวณที่มีรอยสัก
  • บริเวณต่อมไทรอยด์ (Thyroid)
  • หญิงตั้งครรภ์ (บริเวณลำตัวและท้อง)
  • มีภาวะเลือดออก
  • ผู้ป่วยมะเร็ง มีเนื้องอก
  • ผู้ป่วยมีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง (SLE)
  • ผู้ป่วยที่มีโรคไตรุนแรง

ต่อ 1 พื้นที่

800.-


วันนี้ - 31 ธันวาคม 2568

โปรแกรมและแพ็คเกจ

ฝึกกลืนด้วยเครื่องกระตุ้นไฟฟ้า

ฝึกกลืนด้วยเครื่องกร […]

โปรแกรมลดปวดด้วย Shockwave

การรักษาอาการปวดด้วย […]

ทำอย่างไรห่างไกล โรคเบาหวาน / ไขมัน / ความดัน(สำหรับพระสงฆ์)

ทำอย่างไรห่างไกล โรคเบาหวาน / ไขมัน / ความดัน(สำหรับพระสงฆ์)

โรคเบาหวาน โรคไขมันและโรคความดันโลหิตสูง เป็นโรคที่มีความสัมพันธ์กับนิสัยหรือพฤติกรรมการดำเนินชีวิต

โรคเบาหวาน

โรคไขมัน

Title
Title
Description

โรคความดันโลหิตสูง

โปรแกรมเหมาจ่าย ผ่านกล้องทางนรีเวช

โปรแกรมเหมาจ่าย ผ่านกล้องทางนรีเวช

โปรแกรมเหมาจ่าย ผ่านกล้องทางนรีเวช


ด้วยความก้าวหน้าและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้การผ่าตัดมีประสิทธิภาพ ผู้ป่วยได้รับการดูแลรักษาที่ดีขึ้น มีแผลผ่าตัดเล็กลงเพียงขนาด 0.5-1.5 เซนติเมตร นอนพักในโรงพยาบาลน้อยลง สามารถกลับไปทำงานและใช้ชีวิตประจำวันได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ยังสามารตรวจวินิจฉัยโรค และดูอวัยวะในอุ้งเชิงกราน เช่น มดลูก ปีกมดลูก รวมทั้งสามารถทำการผ่าตัดได้ในขณะเดียวกัน

รายการ

รายละเอียดแพ็คเกจ

LAPARO 1


วินิจฉัยทางนรีเวชผ่านกล้อง

Diagnostic Laparoscopic Package
  • 2 วัน 1 คืน ระยะเวลาผ่าตัดไม่เกิน 1 ชั่วโมง

59,000.-

LAPARO 2


ผ่าตัดปีกมดลูก / ถุงน้ำในรังไข่ผ่านกล้อง

Laparoscopic Salpingo-Oophorectomy/Ovarian Cystectomy Package
  • 3 วัน 2 คืน ระยะเวลาผ่าตัดไม่เกิน 3 ชั่วโมง

95,000.-

LAPARO 3


ผ่าตัดเนื้องอกในมดลูกผ่านกล้อง

Laparoscopic Myomectomy Package
  • 3 วัน 2 คืน ระยะเวลาผ่าตัดไม่เกิน 3 ชั่วโมง

100,000.-

LAPARO 4


ผ่าตัดมดลูกผ่านกล้อง

Laparoscopic Hysterectomy Package (TLH or LAVH)
  • 4 วัน 3 คืน ระยะเวลาผ่าตัดไม่เกิน 4 ชั่วโมง

110,000.-

รายการที่ไม่รวมในโปรแกรมเหมาจ่าย

  1. กรณีนอนพักเกินจำนวนวันที่กำหนดไว้ในโปรแกรมหรือค่าห้อง ICU กรณีจำเป็นโรงพยาบาลจะคิดค่าใช้จ่ายส่วนเกินตามความเป็นจริง โดยยินดีมอบส่วนลดค่าห้องและค่ายา 10%
  2. กรณีผู้ป่วยเลือกอยู่ห้องพักที่ราคาสูงกว่าห้องพักที่กำหนดในโปรแกรมเหมาจ่าย โรงพยาบาลจะคิดค่าใช้จ่ายเฉพาะส่วนเกินจากค่าห้องที่กำหนดไว้ในโปรแกรม
  3. ค่าเวชภัณฑ์ ที่ไม่เกี่ยวกับการทำหัตถการครั้งนี้ ค่าอุปกรณ์และเครื่องมือที่จำเป็นต้องใช้เพิ่มพิเศษในการผ่าตัด
  4. ค่าใช้จ่ายในการให้เลือดและส่วนประกอบของเลือด
  5. กรณีใช้ระยะเวลาในการผ่าตัดเกินกว่าที่กำหนดในโปรแกรมเหมาจ่ายจะคิดค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นชั่วโมงละ 3,000 บาท หากระยะเวลาไม่เกิน 30 นาที จะไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่ม
    หากเกิน 30 นาทีแต่ไม่เกิน 1 ชั่วโมง จะคิดเป็น 1 ชั่วโมง
  6. ค่าผ่าตัดอื่นๆ ที่นอกเหนือจากที่ระบุในโปรแกรมเหมาจ่ายจะคิดค่าใช้จ่ายตามความเป็นจริง โดยโรงพยาบาลยินดีมอบส่วนลดค่ายา 10%
  7. ค่ายาที่ผู้ป่วยต้องรักษาจากโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ค่าตรวจทางห้องปฏิบัติการ หรือการตรวจพิเศษที่จำเป็นสำหรับผู้ป่วยเฉพาะรายที่อยู่นอกเหนือ
    จากรายการในโปรแกรม
  8. ค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าอาหารตามสั่ง ค่าโทรศัพท์ ค่าเครื่องดื่ม เป็นต้น
  9. กรณีมีภาวะแทรกซ้อน หรือพบอาการผิดปกติเพิ่มเติมนอกเหนือจากโปรแกรม โรงพยาบาลจะคิดค่าใช้จ่ายส่วนเกินตามความเป็นจริง โดยยินดีมอบส่วนลดค่าห้องและค่ายา 10%
  10. ค่ายาพิเศษ เช่น Hormone ที่อาจต้องใช้รักษาต่อเนื่องเฉพาะผู้ป่วยบางราย
  11. ค่าเวชภัณฑ์พิเศษที่อาจต้องใช้กับผู้ป่วยเมื่อกลับบ้าน
  12. ค่าแพทย์ที่ปรึกษาต่างสาขา ที่จำเป็นสำหรับการรักษาโรคอื่นๆ ของผู้ป่วยขณะอยู่ในโรงพยาบาล
หมายเหตุ
  1. ผู้ป่วยที่จะได้รับการผ่าตัดผ่านกล้องด้วยโปรแกรมเหมาจ่าย ต้องได้รับการพิจารณาความเหมาะสมโดยแพทย์ผ่าตัดเท่านั้น
  2. กรณีขณะผ่าตัดผ่านกล้องแต่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนเป็นการผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้องไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดๆ ก็ตาม จะคิดค่าใช้จ่ายเท่ากับราคาเหมาจ่ายของการผ่าตัด
    ผ่านกล้องชนิดนั้น โดยจำนวนวันและค่ารักษาที่เกินจากโปรแกรมเหมาจ่ายโรงพยาบาลจะคิดค่าใช้จ่ายส่วนเกินตามความเป็นจริง โดยยินดีลดค่าห้องและค่ายา 10%
  3. ราคาเหมาจ่าย ไม่สามารถใช้ร่วมกับโปรแกรมส่วนลดอื่นๆ
  4. โรงพยาบาลบางโพ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงราคาหรือข้อความใดๆ โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
เงื่อนไขการเข้ารับบริการ
  • ผู้เข้ารับบริการสามารถใช้แพ็กเกจได้หลังจากตรวจวินิจฉัยเรียบร้อยแล้ว โดยค่าใช้จ่ายในการวินิจฉัยจัดเป็นค่าใช้จ่ายนอกแพ็กเกจ
  • แพ็กเกจดังกล่าวไม่สามารถใช้ร่วมกับสิทธิ์และส่วนลดอื่นๆ ได้ เช่น ผู้ถือหุ้น บริษัทคู่สัญญา และบริษัทประกัน
  • ผู้เข้ารับบริการชำระค่าใช้จ่าย ณ โรงพยาบาล ในวันที่เข้ารับบริการ
  • โรงพยาบาลขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
วันนี้ - 31 มีนาคม 2568

พ.ร.บ.ผู้ประสบภัยรถ

พ.ร.บ.ผู้ประสบภัยรถ

พรบ.อุบัติเหตุไม่ต้องสำรองจ่ายใช้สิทธิที่รพ.บางโพ แค่มี พ.ร.บ. สามารถใช้สิทธิ์รักษาพยาบาลได้ที่รพบางโพไม่ต้องสำรองจ่าย คุ้มครองไม่เกิน 30,000 บาท (คุ้มครองสูงสุดถึง 80,000 บาท) ตลอด 24 ชั่วโมง ให้ความคุ้มครองแก่ผู้ประสบภัยจากรถ ทุกคนที่ประสบภัยจากรถมอเตอร์ไซค์ รถยนต์คันที่ขับขี่หรือนั่งซ้อนท้ายมา รวมถึงคนเดินถนนที่ไม่ได้ขับขี่ ซ้อนท้ายหรือโดยสารในรถคันอื่นๆ โดยไม่ต้องรอสรุปผลทางคดี (หมายความว่าถ้าเกิดอุบัติเหตุทำให้มีผู้บาดเจ็บ เสียชีวิต หรือสูญเสียอวัยวะ พ.ร.บ. จะคุ้มครองผู้ประสบภัยทุกคน ทันที)

เอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับใช้สิทธิ์ พ.ร.บ.
  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน, ใบขับขี่, สำเนาทะเบียนบ้าน
  • สำเนาตารางกรมธรรม์รถ (พ.ร.บ.) หรือ สำเนาทะเบียนรถ
  • รายการจดทะเบียนรถ
  • รายการเสียภาษี หรือ สติ๊กเกอร์ต่อภาษี
  • เลขเคลมจากบริษัทประกันภัย หรือ ใบติดต่อ
  • บันทึกประจำวันตำรวจ ระบุวัน, เวลา, สถานที่เกิดเหตุ, ชื่อผู้บาดเจ็บ และ ทะเบียนรถคันเกิดเหตุให้ชัดเจนเอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับผู้โดยสาร หรือ บุคคลนอกรถ
เอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับเด็ก
  • สูติบัตร, สำเนาทะเบียนบ้าน
  • สำเนาบัตรประชาชนบิดา, มารดา

ค่าเสียหายต่อชีวิต - ร่างกายของผู้ประสบภัยอันเนื่องจากการใช้รถที่บริษัทประกันภัยต้องจ่ายโดยไม่ต้องรอพิสูจน์ความรับผิดชอบและให้ถือเป็นส่วนหนึ่งของสินไหมทดแทน

ค่าเสียหายเบื้องต้น
  • ค่ารักษาพยาบาลไม่เกิน
  • ค่าทุพพลภาพ / สูญเสียอวัยวะหรือค่าปลงศพ
  • ค่าสินไหมทดแทนสูงสุด (รวมค่าเสียหายเบื้องต้น) วงเงินสูงสุด
  • กรณีบาดเจ็บไม่เกิน
  • กรณีเสียชีวิต หรือ ทุพพลภาพถาวร
  • 30,000 บาท
  • 35,000 บาท
  • 304,000 บาท /คน
  • 80,000 บาท
  • 300,000 บาท
กรณีสูญเสียอวัยวะ
  • นิ้วขาด 1 ข้อขึ้นไป
  • สูญเสียอวัยวะ 1 ส่วน
  • สูญเสียอวัยวะ 2 ส่วน
  • ค่าชดเชยการรักษาตัว (ผู้ป่วยใน) 200 บาท/วัน ไม่เกิน 20 วัน
  • 200,000 บาท
  • 250,000 บาท
  • 300,000 บาท
  • 4,000 บาท

เงื่อนไขการเข้ารับบริการ

  • ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้น กรณีประสบอุบัติเหตุจากรถไม่ต้องสำรองจ่ายในวงเงินไม่เกิน 30,000 บาท ทุกกรณี
  • พ.ร.บ. ต้องไม่หมดอายุ หรือ พ.ร.บ. ไม่ขาด กรณีหากเอกสารไม่ครบ นำบัตรประชาชนก็สามารถเบิกได้

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
แผนกประสานสิทธิ์
โทรศัพท์ 0-2587-0144 ต่อ 1227

เปิดเทอมกับชีวิตวิถีใหม่

เปิดเทอมกับชีวิตวิถีใหม

Back to School new normal style

ใกล้เปิดเทอมแล้วจ้า แต่เปิดเทอมรอบนี้ไม่ธรรมดา เพราะเป็นปีที่มีโรคระบาดใหม่อย่าง COVID-19 ระบาดตั้งแต่ช่วงต้นปี แม้ว่าสถานการณ์ในประเทศไทยจะควบคุมได้ดีแต่ก็ต้องไม่ประมาท ใช้ชีวิตตามวิถีปกติใหม่ เด็กๆก็ต้องปรับตัวเช่นกัน คุณพ่อคุณแม่ ผู้ปกครองจะต้องเตรียมตัวลูกๆอย่างไรบ้าง เราไปดูกันเลย

  1. เกาะติดสถานการณ์ : คอยติดตามสถานการณ์การระบาดของโรค COVID-19 อยู่เสมอ จะได้ทราบมาตรการจากทางการ และสอนให้ลูกรู้จักโรค COVID-19 อย่างถูกต้อง
  2. คัดกรอง : สังเกตอาการป่วยของลูก ถ้ามีอาการไข้ ไอ น้ำมูก เจ็บคอ หายใจลำบาก เหนื่อยหอบ ไม่รู้รสหรือกลิ่น ให้รีบแจ้งทางโรงเรียนทันทีและให้หยุดเรียนไว้ก่อน (ปัจจุบันขาดเรียนหรือกักตัวเด็กก็สามารถตามบทเรียนได้หลายช่องทาง ไม่ต้องกลัวตามเพื่อนไม่ทัน)
  3. หน้ากากอนามัยและของใช้ส่วนตัว : สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธี และเตรียมของใช้ส่วนตัวไปใช้ที่โรงเรียนแทนการใช้ของส่วนกลาง เช่น ช้อนส้อม แก้วน้ำ แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ผ้าเช็ดหน้าหรือผ้าเช็ดมือ เป็นต้น
  4. ล้างมือบ่อยๆ : สอนลูกให้หลีกเลี่ยงการเอามือไปสัมผัสใบหน้า ขยี้ตา หรือแคะจมูก ซึ่งเป็นพฤติกรรมเสี่ยง
    ที่ทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย และให้ล้างมือทุกครั้งที่จับบริเวณที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ลูกบิดประตู ราวบันได และก่อนรับประทานอาหาร โดยล้างมือด้วยน้ำกับสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ที่มีความเข้มข้น 70% ขึ้นไปอย่างน้อยนาน 20 วินาที (ร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ 2 รอบ) และหลังกลับจากโรงเรียนให้รีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที
  5. เว้นระยะห่าง : หลีกเลี่ยงสถานที่แออัดและเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อย 1-2 เมตร ในการทำกิจกรรมระหว่างเรียน ช่วงพัก และหลังเลิกเรียน เช่น นั่งกินอาหาร ออกกำลังกาย เข้าแถวต่อคิว เป็นต้น
  6. ทำความสะอาด : ปลูกฝังให้หมั่นทำความสะอาดบริเวณที่สัมผัสบ่อยๆ และบริเวณที่ใช้ทำกิจกรรม รวมถึงอุปกรณ์การเรียน เช่น กระเป๋านักเรียน ผู้ปกครองอาจเตรียมแอลกอฮอล์สเปรย์สำหรับทำความสะอาดติดตัวไปโรงเรียนด้วยถ้าทำได้
  7. ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง : เตรียมร่างกายลูกให้แข็งแรง กินอาหารครบ 5 หมู่ ที่สุก สะอาด ออกกำลังกายสม่ำเสมอ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่าลืมเพิ่มพลังด้วยอาหารมื้อเช้าก่อนเข้าเรียน (แนะนำให้รับประทานอาหารเช้าจากบ้าน หากจำเป็นต้องรับประทานที่โรงเรียนแนะนำให้จัดเตรียมเป็น Box set จากบ้านแทนการซื้อที่โรงเรียน)
  8. ความเจ็บป่วยไม่ใช่เรื่องน่าอับอาย : สอนลูกเสมอว่าไม่มีใครอยากป่วย ไม่ควรล้อเลียนความผิดปกติหรืออาการไม่สบายของเพื่อน เนื่องจากอาจจะทำให้เกิดความหวาดกลัวเกินเหตุ หรือเกิดการแบ่งแยก กีดกัน หรือตีตราในหมู่นักเรียน ควรแสดงความเห็นอกเห็นใจ
    ถ้าทำได้ตามนี้ ลูกๆก็จะมีเกราะป้องกันโรค COVID-19 พร้อมสำหรับเปิดเทอม เชื่อว่าไม่ยากเกินไปสำหรับทุกครอบครัว และอย่าลืมป้องกันโรคอื่นๆที่ขอให้ทุกท่านสุขภาพดี
พญ.ขวัญจันทร์ ขัมพานนท์

กุมารแพทย์ทั่วไป โรงพยาบาลบางโพ

โปรแกรมและแพ็คเกจ

โรคอุจจาระร่วงในเด็ก จากเชื้อไวรัสโรต้า

โรคอุจจาระร่วงในเด็ก จากเชื้อไวรัสโรต้า

Rotarix : หยอด 2 ครั้ง : 2,390.-

Rotateq : หยอด 3 ครั้ง : 2,590.-


ลูกคือคนสำคัญของพ่อ แม่
เราจึงเลือกการป้องกันที่แท้จริง
และครอบคลุม

โรคท้องเสียหรืออุจจาระร่วงหรือท้องเดินเป็นปัญหาความเจ็บป่วยที่พบได้บ่อยที่สุดในเด็กโดยเฉพาะช่วงอากาศเย็นๆแบบนี้จะมีเด็กป่วยท้องเสียกันเป็นจำนวนมากทำให้เด็กป่วยเสียคุณภาพชีวิต พ่อแม่เสียเวลาต้องมาเฝ้าดูแล และยังระบาดไปถึงคนในครอบครัวรวมทั้งผู้ใหญ่ด้วย สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทยจึงขอเสนอสาระความรู้เกี่ยวกับเรื่องท้องเสียมาให้รู้จักกันเพื่อปฏิบัติได้ถูกต้อง
โรคท้องเสียเกิดจากอะไร
โรคท้องเสียที่พบในเด็กมีสาเหตุหลักมาจากการติดเชื้อไวรัสรองลงมาคือการติดเชื้อแบคทีเรียและเชื้ออื่นๆ เช่น เชื้อปรสิตอาหารเป็นพิษจากสารพิษในสิ่งแวดล้อมที่ปนเปื้อนในอาหารหรือสารพิษที่สร้างขึ้นจากเชื้อแบคทีเรีย นอกจากนี้แล้วท้องเสียยังอาจเกิดจากการได้รับยาบางชนิด ชาวบ้านอาจบอกว่า เด็กท้องเสียเพราะเด็กยืดตัว แต่แท้จริงแล้วไม่ใช่
ไวรัสโรต้า สำคัญอย่างไร
จากข้อมูลทางระบาดวิทยาของประเทศไทยและทั่วโลกพบว่ามากกว่าร้อยละ 90 ของโรคท้องเสียในเด็กเกิดจากเชื้อไวรัสเช่นไวรัสโรต้า เอ็นเตอโรไวรัสโนโรไวรัสอะดีโนไวรัสรวมทั้งไวรัสอื่นๆ ที่ทำให้เกิดโรคหวัดก็อาจก่อให้เกิดอาการท้องเสียได้ทั้งหมดนี้ไวรัสตัวที่สำคัญคือไวรัสโรต้า เนื่องจากเป็นไวรัสที่ทำให้เกิดอาการท้องเสียได้รุนแรงมากที่สุด ทำให้ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลมากกว่าไวรัสตัวอื่นๆ โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กเล็กจะรุนแรงมากกว่าเด็กโตประมาณครึ่งหนึ่งของเด็กที่ท้องเสียรุนแรงจนต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเกิดจากการติดเชื้อไวรัสโรต้า เด็กที่เคยท้องเสียจากไวรัสโรต้า อาจเป็นซ้ำได้เพราะไวรัสโรต้านี้มีหลายสายพันธุ์ แต่อาการมักไม่หนักเท่ากับการเป็นครั้งแรก นอกจากนี้ ไวรัสโรต้ายังสามารถแพร่กระจายเชื้อได้เร็วกว่าเพราะอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานกว่า เป็นเวลาหลายชั่วโมงโดยเฉพาะช่วงที่อากาศเย็น และผู้ป่วยเหล่านี้สามารถขับถ่ายเชื้อได้ในปริมาณมากหลายล้านตัว เป็นเวลานานเป็นสัปดาห์แต่เชื้อเพียง 10 ตัวก็ก่อนโรคได้แล้ว แม้ว่าไวรัสโรต้ามักเกิดปัญหาในเด็กแต่ก็อาจก่อปัญหาในผู้ใหญ่และผู้สูงอายุได้และอาจมีอาการรุนแรงได้เช่นกัน
  • ไวรัสโรต้าเป็นเชื้อไวรัส ทำให้เกิดโรคอุจจาระร่วงที่รุนแรงในเด็กทารกและเด็กเล็ก
  • ไวรัสนี้ระบาดได้ตลอดทั้งปีและพบมากขึ้นในช่วงอากาศเย็น ฤดูหนาว
  • ไวรัสโรต้าติดต่อกันได้ง่ายเข้าสู่ปากโดยการรับประทานอาหารและน้ำ หรือปนเปื้อนมากับมือ จากการสัมผัสสิ่งของ เครื่องใช้ หรือของเล่นต่างๆ
  • ไวรัสนี้สามารถมีชีวิตอยู่บนมือและสิ่งแวดล้อมได้นานจึงเกิดการแพร่กระจายและระบาดได้ง่าย
  • ปัจจุบันมีวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโรต้าชนิดรับประทานมีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงเด็กเล็กควรได้รับการหยอดวัคซีนก่อนอายุ 4 เดือน

โรต้า 1 สายพันธุ์

หยอด 2 ครั้ง : 2,390.-

อายุ 2 และ 4 เดือน
ไม่รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาล

โรต้า 5 สายพันธุ์

หยอด 3 ครั้ง 2,590.-

อายุ 2,4 และ 6 เดือน
ไม่รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาล
วัคซีนทั้งสองชนิด สามารถเริ่มให้ครั้งแรกได้เมื่ออายุ 6-15 สัปดาห์ และครั้งสุดท้ายอายุไม่เกิน 8 สัปดาห์
ขนาดและวิธีใช้
  1. ให้กิน ถ้าเป็น Rotarix ให้ 2 ครั้ง แนะนำตอนอายุ 2, 4 เดือน สำหรับ Rotateq ให้ 3 ครั้ง แนะนำให้ตอนอายุ 2, 4, 6 เดือน (วัคซีนทั้ง 2 ชนิดสามารถเริ่มให้ครั้งแรกได้เมื่ออายุ  6-15 สัปดาห์ และครั้งสุดท้ายอายุไม่เกิน 8 เดือน แต่ละครั้งห่างกันไม่น้อยกว่า 4 สัปดาห์)
  2. ควรให้วัคซีนชนิดเดียวกันจนครบ หากจำเป็นต้องใช้วัคซีนต่างชนิดกันในแต่ละครั้ง หรือไม่ทราบชนิดของวัคซีนที่ได้รับในครั้งก่อน ต้องให้วัคซีนทั้งหมด 3 ครั้ง
  3. สามารถให้วัคซีนโรต้าร่วมกับวัคซีนโปลิโอชนิดกินได้
  4. ห้ามใช้วัคซีนนี้ในผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง Severv combined immune deficiency (SCID) และในเด็กที่มีประวัติลำไส้กลืนกัน
วันนี้ - 31 ธันวาคม 2568

โปรแกรมและแพ็คเกจ

โปรแกรมตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน/มีบุตร

โปรแกรมตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน/มีบุตร

"เริ่มต้นชีวิตคู่ เริ่มพร้อมสุขภาพดี"


การแต่งงานหรือการมีชีวิตคู่นั้นเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนและสำคัญต่อชีวิตของคู่หญิง-ชายมาก เพราะก่อนแต่งงานต่างฝ่ายต่างเคยใช้ชีวิตตามวิถีที่ตนพอใจมาโดยตลอด และการที่คนสองคนตัดสินใจเลือกใครคนหนึ่งให้เข้ามาในชีวิต สิ่งที่สำคัญที่สุดคือทั้งสองพร้อมที่จะอยู่ข้างๆ กัน ช่วยเหลือเติมเต็มซึ่งกันและกัน การเริ่มต้นด้วยสุขภาพดี ช่วยให้การใช้ชีวิต และสร้างครอบครัวอย่างมีสุขภาพดี

เตรียมความพร้อมด้วยแพ็คเกจสุดคุ้ม

การแต่งงาน คือการเริ่มต้นใช้ชีวิตคู่ของคนสองคน การที่คนสองคนตัดสินใจเลือกใครคนหนึ่งให้เข้ามาในชีวิต ซึ่งมีความแตกต่างในชาติกำเนิด เศรษฐกิจ วัฒนธรรมของแต่ละครอบครัว นิสัยส่วนตัว พันธุกรรม รวมถึงโรคประจำตัว จึงจำเป็นต้องทำความเข้าใจกันก่อนแต่งงาน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือทั้งสองคน พร้อมที่จะอยู่ข้างๆ กัน ช่วยเหลือเติมเต็มซึ่งกันและกัน
การเช็คสุขภาพของทั้งคู่ จึงจำเป็นเพื่อป้องกันโรคติดต่อกันได้จากคู่สมรส เช่น ซิฟิลิส ไวรัสตับอักเสบบี เอดส์ และยังเป็นการป้องกันการแพร่เชื้อไปสู่ลูกน้อย พราะบางคนอาจเป็นพาหะโดยไม่รู้ตัว และการแต่งงานตอนอายุมากแล้ว คุณแม่ที่ตั้งครรภ์เมื่ออายุ 35 ขึ้นไปจะมีความเสี่ยงเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์ได้ หรือบางคนอาจมีโรคประจำตัวก็ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเพื่อความปลอดภัยที่จะตั้งครรภ์
รายการตรวจ โปรแกรม
ชาย หญิง
ตรวจร่างกายโดยแพทย์
Physical Examination
ตรวจความสมบูรณ์ของเลือด
CBC
ตรวจหมู่เลือด
Blood group ABO, Rh
ตรวจหาเชื้อกามโรคซิฟิลิส
VDRL
ตรวจหาเชื้อไวรัสเอดส์
Anti HIV
ตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดบีและภูมิคุ้มกัน
HbsAg, HBsAb, Anti-HBc (IgG)
ตรวจหาพาหะโรคธาลัสซีเมีย
HB Typing
ตรวจภูมิคุ้มกันหัดเยอรมัน
Rubella
ราคาปกติ 3,880.- 4,480.-

ราคาแพ็คคู่

5,000.-

รายละเอียดเพิ่มเติม
  • สูตินรีแพทย์จะเป็นผู้อธิบายผลการตรวจร่างกาย และให้คำแนะนำการปฏิบัติตัววางแผนก่อนแต่งงาน และการมีบุตร
  • ไม่ต้องงดน้ำและอาหารก่อนการตรวจร่างกาย
  • นัดฟังผล 1 สัปดาห์ (ผลทางห้องปฏิบัติการ LAB)
วันนี้ - 31 ธันวาคม 2568

โปรแกรมและแพ็คเกจ