ข้อดีของการรักษารากฟัน
- สามารถเก็บฟันไว้ใช้งานได้โดยไม่ต้องถอนฟัน ซึ่งหมายถึงผู้ป่วยไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใส่ฟันเทียมดแทนตำแหน่งฟันที่หายไป
- หลังการบูรณะฟันที่ได้รับการรักษารากแล้วพบว่าประสิทธิภาพในการบดเคี้ยวจะใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติเดิมมากกว่าการใส่ฟันเทียมทดแทน
- ไม่จำเป็นต้องปรับตัวเพื่อการใช้งานหลังการบูรณะฟันมากเท่ากับการใส่ฟันเทียมทดแทน
ข้อจำกัดของการรักษาคลองรากฟัน
ไม่สามารถทำได้ในฟันทุกซี่เหมือนกับการถอนฟันซึ่งฟันที่จะสามารถรักษารากฟันได้และให้ผลดีหลังการรักษานั้น ทันตแพทย์จะต้องพิจารณาจากหลายปัจจัยร่วมกันเช่นตำแหน่งการเข้าทำงาน,ลักษณะของรากฟัน, ความเป็นไปได้ของการบูรณะฟันถาวร หลังการรักษาราก ดังนั้นผู้ป่วยจึงควรเข้ารับคำปรึกษาจากทันตแพทย์ เพื่อรับคำแนะนำในเรื่องวิธีการรักษาที่เหมาะสมและเพื่อวางแผนการรักษาก่อนรับการรักษารากฟัน
การรักษาคลองรากฟันมีขั้นตอนอย่างไร
- ทันตแพทย์จะทำการตรวจในช่องปากและถ่ายภาพรังสีเพื่อช่วยในการวินิจฉัยและวางแผนก่อนรับการรักษา
- ผู้ป่วยจะได้รับยาชาเพื่อระงับความเจ็บปวดระหว่างทำหัตถการและใส่แผ่นยางกันความชื้นตลอดเวลาที่ทำหัตถการ
- ทันตแพทย์จะทำการเปิดทางเข้าสู่โพรงฟัน
- ทำความสะอาดภายในโพรงพันและคลองรากฟันด้วยเครื่องมือขนาดเล็กร่วมกับน้ำยาล้างคลองรากฟัน รวมทั้งจะมีการใส่ยาฆ่าเชื้อในคลองรากฟันร่วมด้วย
* การทำความสะอาดคลองรากฟัน ปกติจะใช้เวลาประมาณ 1-3 ครั้ง ทั้งนี้ขึ้นกับสภาวะการติดเชื้อของฟัแต่ละซี่ *
- ทันตแพทย์จะทำการอุดคลองรากฟันให้เต็มแน่น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการติดเชื้อซ้ำ
- บูรณะฟันให้สวยงาม และใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
* การบูรณะฟันถาวรหลังการรักษารากฟันถือเป็นขั้นตอนที่มีความสำคัญมาก เนื่องจากฟันที่ได้รับการรักษาฟันเสร็จสมบูรณ์แล้วหากไม่ได้รับการบูรณะฟันถาวรด้วยวิธีการและช่วงเวลาที่เหมาะสม ฟันจะมีความเสี่ยงในการแตกร้าวในอนาคต