ปกป้องคุณและคนที่คุณรักด้วยวัคซีนทุกช่วงวัย

ปกป้องคุณและคนที่คุณรัก ด้วยวัคซีน

"ปกป้องคุณและคนที่คุณรัก ด้วยวัคซีนทุกช่วงวัย"


การฉีดวัคซีนเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันโรค ลดความเสี่ยงในการพักรักษาโรงพยาบาล และลดค่าใช้จ่าย ในการรักษา การฉีดวัคซีนไม่ใช่เฉพาะเด็กเท่านั้นที่ควรได้รับ ผู้ใหญ่ก็เช่นกัน วัคซีนอาจไม่ไกลตัวอย่างที่คุณคิด เพราะโรคติดเชื้อหลายชนิดป้องกันได้ถ้าคุณมีภูมิต้านทานที่ดี การได้รับวัคซีนที่ถูกต้องเหมาะสม สามารถปกป้องคุณและคนที่คุณรักได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดัน โรคหัวใจ เป็นต้น

แพ็คเกจวัคซีนทุกช่วงวัย

สำหรับทุกช่วงวัย
แพทย์แนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรค การฉีดวัคซีนป้องกัน ช่วยให้บรรเทาอาการของโรคและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง นอกจากนี้ยังลดโอกาสเสี่ยงการแพร่กระจายเชื้อไปสู่คนอื่น ในวัยผู้ใหญ่ภูมิคุ้มกันจะลดลงตามอายุที่มากขึ้น จึงต้องมีการกระตุ้นด้วยการฉีดวัคซีน หรืออาจจะเป็นเพราะเชื้อโรคนั้นมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง หรือสายพันธุ์ใหม่ เช่น ไข้หวัดใหญ่ ซึ่งเป็นโรคที่ติดต่อได้ง่ายและระบาดเป็นประจำ โดยเฉพาะผู้สูงอายุและเด็กเล็กจะมีความรุนแรง อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ มากกว่าคนในวัยหนุ่มสาว
รายการ
ราคา
วัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์
สำหรับผู้ที่มีอายุ 7 เดือนขึ้นไป
ควรฉีดป้องกันปีละ 1 ครั้ง (กรณียังไม่รับวัคซีนมาก่อนแนะนำให้ฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 1 เดือน)
849.-
รวมค่าแพทย์
และค่าบริการโรงพยาบาล
วัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ High Dose
สำหรับผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป
ควรฉีดป้องกันปีละ 1 ครั้ง
2,500.-
รวมค่าแพทย์
และค่าบริการโรงพยาบาล
วัคซีนไข้เลือดออก
สำหรับผู้ที่มีอายุ 4 ปี - 60 ปี
สามารถฉีดได้ทั้งคนที่เคยเป็น และไม่เคยเป็นโรคไข้เลือดออกฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 3 เดือน
4,777.-
รวมค่าแพทย์
และค่าบริการโรงพยาบาล
วัคซีนสุกใส (1 เข็ม)
สำหรับผู้ที่มีอายุ 1 ปี
ควรฉีดในผู้ที่ไม่เคยได้รับวัคซีนหรือไม่เคยเป็นอีสุกอีใสมาก่อน ห่างกันอย่างน้อย 4-8 สัปดาห์
1,700.-
ไม่รวมค่าแพทย์
และค่าบริการโรงพยาบาล
วัคซีนตับอักเสบ บี - [1 เข็ม]
สำหรับเด็กแรกเกิด และทุกช่วงวัยที่มีความเสี่ยง
โดยแพทย์จะพิจารณาตรวจภูมิคุ้มกันก่อนให้วัคซีน
660.-
ไม่รวมค่าแพทย์
และค่าบริการโรงพยาบาล
วัคซีนตับอักเสบ บี - [3 เข็ม]
สำหรับเด็กแรกเกิด และทุกช่วงวัยที่มีความเสี่ยง
โดยแพทย์จะพิจารณาตรวจภูมิคุ้มกันก่อนให้วัคซีน
1,980.-
ไม่รวมค่าแพทย์
และค่าบริการโรงพยาบาล
วัคซีนตับอักเสบ เอ - [1 เข็ม]
สำหรับผู้ที่มีอายุ 1 ปี 6 เดือนขึ้นไป
ฉีด 1 เข็ม
1,200.-
ไม่รวมค่าแพทย์
และค่าบริการโรงพยาบาล
วัคซีนตับอักเสบ เอ - [1 เข็ม] + บี - [3 เข็ม]
แพทย์จะพิจารณาตรวจภูมิคุ้มกันก่อนให้วัคซีน
3,190.-
ไม่รวมค่าแพทย์
และค่าบริการโรงพยาบาล
วัคซีนบาดทะยัก - [1 เข็ม]
สำหรับผู้ที่มีอายุ 10 ปีขึ้นไป และกระตุ้นทุก 10 ปี
360 - 420.-
ไม่รวมค่าแพทย์
และค่าบริการโรงพยาบาล
วัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบ
ผู้สำหรับผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป
หรือ ในผู้ป่วยอายุ 19 - 59 ปีที่มีโรคดังต่อไปนี้
  • โรคหัวใจ
  • โรคหอบหืด
  • โรคตับแข็ง
  • โรคไตวายเรื้อรัง
  • ผู้ป่วยโรคเบาหวาน
ฉีด 1 เข็มป้องกันตลอดชีวิต
3,250.-
ไม่รวมค่าแพทย์
และค่าบริการโรงพยาบาล
วัคซีนงูสวัด - RZV(ชนิดใหม่)
สำหรับผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป
ฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 2 – 6 เดือน
1 เข็ม - 5,990.-
2 เข็ม - 11,900.-
รวมค่าแพทย์
และค่าบริการโรงพยาบาล
วัคซีนมะเร็งปากมดลูก(HPV vaccine)
แบบ 4 สายพันธ์ุ - [2 เข็ม]
  • สำหรับผู้ที่มีอายุ 9 - 14 ปี
แบบ 4 สายพันธ์ุ - [3 เข็ม]
  • สำหรับผู้ที่มีอายุ 15 - 26 ปี
แบบ 9 สายพันธ์ุ - [2 เข็ม]
  • สำหรับผู้ที่มีอายุ 9 - 14 ปี
แบบ 9 สายพันธ์ุ - [3 เข็ม]
  • สำหรับผู้ที่มีอายุ 15 - 26 ปี
5,900 - 18,500.-
รวมค่าแพทย์
และค่าบริการโรงพยาบาล
ปกป้องคุณและคนที่คุณรัก ด้วยวัคซีนทุกช่วงวัย

รายละเอียดเพิ่มเติม

วัคซีนไข้หวัดใหญ่ (Influenza Vaccine)
ไข้หวัดใหญ่ เป็นโรคที่ติดต่อได้ง่ายและระบาดเป็นประจำ โดยไข้หวัดใหญ่ในผู้สูงอายุจะมีความรุนแรงกว่าคนอายุน้อย และเกิดภาวะแทรกซ้อนได้บ่อย และคนที่มีโรคประจำตัว เช่น ปอดอักเสบ ภาวะหัวใจขาดเลือด และภาวะหัวใจวาย มีอัตราการนอนโรงพยาบาล และอัตราการเสียชีวิตสูง
แนะนำฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ เป็นประจำทุกปี ปีละครั้งในสายพันธุ์ ที่ระบาดในปีนั้น ในช่วงปลายฤดูฝนถึงช่วงฤดูหนาว
วัคซีนมะเร็งปากมดลูก(HPV vaccine)
มะเร็งปากมกลูกมีสาเหตุจากการติดเชื้อ ซึ่งเป็นการติดต่อทางเพศสัมพันธ์ การตรวจแปปสเมียร์ เป็นการตรวจหาความผิดปกติของปากมดลูก ไม่เพียงแต่เพศหญิงแค่นั้นที่ติดโรคเชื้อไวรัสเอชพีวีได้ ผู้ชายก็สามารถติดเชื้อชนิดนี้ได้เช่นกัน ปัจจุบันเราสามารถลดช่องความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งได้อย่างไม่ยากเย็นด้วยการฉีดป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูก (HPV)
แนะนำฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ เป็นประจำทุกปี ปีละครั้งในสายพันธุ์ ที่ระบาดในปีนั้น ในช่วงปลายฤดูฝนถึงช่วงฤดูหนาว
อายุ 9-14 ปี 11 เดือน ฉีด 2 เข็ม
อายุ 15-45 ปี ฉีด 3 เข็ม
สามารถป้องกันการติดเชื้อภายใน 1 เดือน หลังจากได้รับวัคซีนครบ 3 เข็ม
วัคซีนไวรัสตับอักเสบ เอ(Hepatitis A Vaccine)
เป็นโรคตับที่เกิดจากเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดเอ ซึ่งมักจะพบในอุจจาระของคนที่เป็นโรคตับอักเสบเอ และมักจะติดต่อโดยการใกล้ชิดกับคนที่เป็น หรือจากการรับประทานอาหาร หรือดื่มน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัสตับอักเสบเออยู่ ผู้ที่เป็นโรคตับอักเสบเอ สามารถแพร่เชื้อให้กับบุคคลใกล้ชิดได้ง่าย
ฉีดได้ตั้งแต่ 1 ปี 6 เดือนขึ้นไป และในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป
วัคซีนโรคปอดอักเสบ (Pneumococcal Vaccine)
เชื้อแบคทีเรียนิวโมคอคคัส เป็นเชื้อที่มีความรุนแรงสูง และเป็นสาเหตุหลักของโรคปอดอักเสบ รวมถึงเป็นสาเหตุของไซนัสอักเสบ หูชั้นกลางอักเสบ สำหรับผู้สูงอายุ และผู้ทีมีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคปอด โรคหัวใจ โรคตับ โรคไต โรคมะเร็ง ผู้ติดเชื้อ HIV ผู้ที่ได้รับยากดภูมิ และผู้ป่วยที่ไม่มีม้าม อาจติดเชื้อรุนแรงถึงขั้นเยื่อหุ้มสมองอักเสบ และติดเชื้อในกระแสเลือด
ควรฉีดวัคซีนโรคปอดอักเสบ คือ ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป หรือในผู้ป่วยอายุ 19-64 ปีที่มีโรคหัวใจ โรคหอบหืด โรคถุงลมโป่งพอง โรคตับแข็ง โรคไตวายเรื้อรัง ผู้ป่วยโรคเบาหวาน
วัคซีนอีสุกอีใส Varicella (Chicken pox)
โรคอีสุกอีใสเป็นโรคติดเชื้อที่ผู้ป่วยมักมีอาการไม่รุนแรง โดยเฉพาะในเด็กเล็ก แต่บางครั้งอาจมีอาการรุนแรงได้ ทำให้เกิดภาวะปอดอักเสบ และภาวะสมองอักเสบ อาจทำให้ผู้ป่วยมีความพิการหรือเสียชีวิต มีภาวะแทรกซ้อน สำหรับเด็กเล็ก เด็กโต ผู้ใหญ่ ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง และหญิงตั้งครรภ์
แนะนำให้ฉีดในผู้ที่ไม่เคยมีประวัติเป็นโรคอีสุกอีใสมาก่อน ควรแนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใส 2 ครั้ง
วันนี้ - 31 ธันวาคม 2568

โปรแกรมและแพ็คเกจ

ตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ STD

โปรแกรมตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

Sexually Transmitted Diseases (STDS)

ตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์


กลุ่มโรคที่เกิดจากการติดต่อผ่านทางเพศสัมพันธ์กับคนที่เป็นโรคหรือคนที่ติดเชื้อ ไม่ว่าจะเป็นการร่วมเพศทางช่องคลอด ทางปาก หรือทางทวารหนัก เดิมมีชื่อว่า “กามโรค” (venereal diseases) ในปัจจุบันมีการค้นพบโรคในกลุ่มดังกล่าวเพิ่มขึ้นจึงเปลี่ยนชื่อเป็น “โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์” (sexually transmitted infections, STIs) โรคที่สำคัญคือ ซิฟิลิส หนองในแท้ หนองในเทียม เริม และเอชพีวี ดังนั้นควรตรวจคัดกรองโรคปีละครั้ง สำหรับกลุ่มที่เสี่ยง

โปรแกรมตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

Sexually Transmitted Diseases (STDS)

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ คือกลุ่มโรคที่เกิดจากการติดต่อผ่านทางเพศสัมพันธ์กับคนที่เป็นโรคหรือคนที่ติดเชื้อ ไม่ว่าจะเป็นการร่วมเพศทางช่องคลอด ทางปาก หรือทางทวารหนัก เดิมมีชื่อว่า “กามโรค” (venereal diseases) ในปัจจุบันมีการค้นพบโรคในกลุ่มดังกล่าวเพิ่มขึ้นจึงเปลี่ยนชื่อเป็น “โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์” (sexually transmitted infections, STIs) โรคที่สำคัญคือ ซิฟิลิส หนองในแท้ หนองในเทียม เริม และเอชพีวี

ใครเสี่ยงที่จะติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ 

คนที่มีกิจกรรมทางเพศบ่อย มีคู่นอนหลายคน อายุน้อย ไม่ใส่ถุงยางอนามัยเวลามีเพศสัมพันธ์ เคยมีประวัติเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในอดีต ดื่มสุรา และใช้สารเสพติด

สามารถติดโรคจากคนที่ไม่มีอาการ ภายนอกดูแข็งแรงปกติ ได้หรือไม่
ในบางระยะของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ผู้ติดเชื้อจะไม่แสดงอาการผิดปกติ ทำให้ไม่ทราบว่าตนเองมีเชื้ออยู่ แต่สามารถแพร่กระจายเชื้อไปสู่คู่นอนได้ การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ใส่ถุงยางอนามัยแม้เพียงครั้งเดียว ก็สามารถทำให้ติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ รวมถึงเชื้อเอชไอวีได้

จะปฏิบัติตัวอย่างไร เมื่อสงสัยว่าอาจติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
เมื่อพบว่ามีอาการผิดปกติที่สงสัยว่าเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หรือเพิ่งมีความเสี่ยงในการติดโรค ควรรีบปรึกษาแพทย์ และงดการมีเพศสัมพันธ์ชั่วคราวเพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อไปยังบุคคลอื่นจนกว่าจะทราบผลการตรวจ ถ้าแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นโรคควรงดการมีเพศสัมพันธ์ จนกว่าจะได้รับการรักษาจนหาย และแนะนำให้คู่นอนในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา เข้ารับการตรวจรักษาด้วย 

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ รักษาให้หายขาด
โรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียสามารถรักษาให้หายขาดได้ โดยการกินหรือฉีดยาปฏิชีวนะให้ครบตามแพทย์สั่ง และให้ความสำคัญกับการพาคู่นอนมารับการตรวจรักษา ส่วนโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสบางชนิดจะอยู่ในร่างกายตลอดชีวิต เช่น เริม การรักษาจะช่วยควบคุมอาการโรคได้ แต่การติดเชื้อไวรัสบางชนิด เช่น เอชพีวี ร่างกายอาจกำจัดเชื้อได้เอง หากกำจัดไม่ได้เชื้ออาจก่อให้เกิดโรคมะเร็งในอนาคต 
ข้อมูลอ้างอิง สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย
ตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
Sexually Transmitted Diseases (STDS)
ด้วยเทคนิค REAL-TIME PCR ทราบผลภายใน 5 วัน
รายการตรวจ
STD 1
7 ชนิด
STD 2
14 ชนิด
STD 3
7 ชนิด + HIV
STD 4
14 ชนิด + HIV
Neisseria gonorrhoeae
โรคหนองในแท้
Chlamydia trachomatis
โรคหนองในเทียม
Mycoplasma hominis
โรคหนองในเทียม
Mycoplasma genitalium
โรคหนองในเทียม
Ureaplasma urealyticum
โรคหนองในเทียม
Ureaplasma parvum
โรคหนองในเทียม
Trichomonas vaginalis
พยาธิในช่องคลอด
Herpes simplex virus types 1 (HSV-1)
โรคเริม
Herpes simplex virus types 2 (HSV-2)
โรคเริม
Treponema pallidum
โรคซิฟิลิส
Haemophilus ducreyi
โรคแผลริมอ่อน
Candida albicans
โรคเชื้อราในช่องคลอด
Gardnerella vaginalis
ติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอด
Group B Streptococcus
ติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอด
HIV
การตรวจเลือดหาเชื้อเอชไอวี
ราคาแพ็คเกจ
1,990.-
3,333.-
2,190.-
4,190.-
รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาล
หากตรวจพบความผิดปกติ แพทย์อาจพิจารณาให้รับยา ซึ่งจะมีค่าบริการเพิ่ม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแพทย์ประเมิน
ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจ
ผู้ที่เหมาะกับบริการนี้
  • มีอาการผิดปกติที่อาจติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ เช่น คัน เป็นผื่น ตุ่ม เป็นฝี มีหนองไหล หรือเจ็บป่วยที่อวัยวะเพศ ปัสสาวะแสบขัด มีตกขาวผิดปกติ มีกลิ่นเหม็น
  • มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน เช่น ไม่ได้ใช้ถุงยางอนามัย ถุงยางอนามัยรั่ว แตก หลุด หรือฉีดขาดขณะมีเพศสัมพันธ์
  • มีพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ที่มีความเสี่ยง เช่น เปลี่ยนคู่นอนบ่อย มีคู่นอนหลายคน มีคู่นอนที่เสี่ยงต่อการติดโรค
  • ผู้ที่วางแผนแต่งงาน วางแผนการมีบุตร หรือ ต้องการตรวจ ก่อนมีเพศสัมพันธ์ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อสู่คนรักและทารกในครรภ์
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับบริการ
  • สามารถทานอาหารมาก่อนเข้าตรวจได้ตามปกติ
  • งดดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนตรวจสุขภาพ
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง
  • หลีกเลี่ยงการตรวจช่วงที่มีประจำเดือน ควรรอตรวจหลังจากที่ประจำเดือนหมดไปแล้วอย่างน้อย 7 วัน
  • ห้ามตรวจภายในมาก่อนในช่วง 24 ชั่วโมง เพราะอาจมีสารหรือยาไปปนเปื้อนอยู่
  • ห้ามใช้ผ้าอนามัยชนิดสอด ครีมหรือยา ที่ใช้ทางช่องคลอดอื่น ๆ อย่างน้อย 48 ชั่วโมง
  • ห้ามล้างหรือทำความสะอาดในช่องคลอดภายใน 48 ชั่วโมงก่อนมาตรวจ เพราะอาจไม่มีเซลล์เหลือให้ตรวจ
  • ห้ามมีเพศสัมพันธ์ก่อนมารับการตรวจ 48 ชั่วโมง
วันนี้ - 31 ธันวาคม 2568

โปรแกรมและแพ็คเกจ

โปรแกรมคัดกรองมะเร็งปอด ด้วย CT SCAN LOW DOSE

โปรแกรมคัดกรองมะเร็งปอด ด้วย CT SCAN LOW DOSE

"มะเร็งปอด รู้เร็ว รักษาได้

ตรวจคัดกรองมะเร็งปอดด้วย CT SCAN LOW DOSE: 3,333.- (จากปกติ 7,500.-)


การตรวจคัดกรองมะเร็งปอด
การตรวจคัดกรองจะช่วยให้แพทย์สามารถตรวจพบและรักษามะเร็งได้ตั้งแต่เนิ่นๆ แต่ในปัจจุบันยังไม่มีวิธีการตรวจสอบมะเร็งปอดแบบง่ายหรือด้วยตนเองดังเช่น มะเร็งเต้านม อย่างไรก็ตามมีการตรวจสอบใหม่ที่เป็น การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์แบบใช้ปริมาณรังสีต่ำ (low-dose helical computerized tomography) ซึ่งสามารถนำมาใช้ในการตรวจคัดกรองและวินิจฉัยได้

โปรแกรมตรวจคัดกรองมะเร็งปอด ด้วย CT LOW DOSE

มะเร็งปอดเป็นโรคที่พบได้มากในประเทศไทย และเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของทั้งเพศชายและเพศหญิง อย่างไรก็ดี มะเร็งปอดสามารถรักษาให้หายได้หากตรวจพบตั้งแต่ในระยะต้น มะเร็งปอด เกิดจากการเจริญเติบโตของเซลล์ที่ผิดปกติอย่างรวดเร็วและ ไม่สามารถควบคุมได้ ทำให้เกิดเป็นกลุ่มก้อนของเซลล์ที่ผิดปกติ ซึ่งจะตรวจพบได้เมื่อมีขนาดใหญ่ มีจำนวนมาก และแพร่ไปตามบริเวณต่างๆ ของร่างกาย มะเร็งปอดจะทำลายชีวิตของผู้ป่วยได้รวดเร็วแค่ไหน ขึ้นอยู่กับชนิดของมะเร็ง
ใครควรเข้ารับการตรวจมะเร็งปอด
บุหรี่และสารพิษ มลภาวะในสิ่งแวดล้อมเป็นปัจจัยที่อาจเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งปอด สำหรับผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงควรตรวจคัดกรองปีละครั้ง
  • ผู้มีอายุ 50-80 ปี  มีพฤติกรรมสูบบุหรี่ 1 ซอง/วัน เป็นเวลา 30 ปี หรือ 2 ซอง/วัน เป็นเวลา 15 ปี
  • เลิกบุหรี่ไปแล้ว  ระยะเวลาไม่เกิน 15 ปี
  • ผู้ที่ใกล้ชิดกับผู้สูบบุหรี่ 
  • มีประวัติคนในครอบครัวเป็นมะเร็งปอด ผู้ที่มีพ่อแม่พี่น้องเป็นโรคมะเร็งปอด มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งปอดแม้จะไม่ได้สูบบุหรี่
  • การได้รับสารพิษและมลภาวะในสิ่งแวดล้อม เช่น ควันบุหรี่  แอสเบสตอส (asbestos) ก๊าซเรดอน (radon)  สารหนู รังสี และสารเคมีอื่นๆ  รวมถึงฝุ่นและไอระเหยจากนิกเกิล โครเมียม และโลหะอื่นๆ
  • ผู้มีอาการไอเรื้อรังโดยไม่ทราบสาเหตุ  ความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งปอดเพิ่มขึ้นตามอายุ โดยทั่วไป  ความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นหลังอายุ 40 ปี แต่ก็สามารถพบได้ในคนอายุน้อยกว่า 40 ปี
การตรวจคัดกรองมะเร็งปอด
การตรวจคัดกรองจะช่วยให้แพทย์สามารถตรวจพบและรักษามะเร็งได้ตั้งแต่เนิ่นๆ แต่ในปัจจุบันยังไม่มีวิธีการตรวจสอบมะเร็งปอดแบบง่ายหรือด้วยตนเองดังเช่น มะเร็งเต้านม อย่างไรก็ตามมีการตรวจสอบใหม่ที่เป็น การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์แบบใช้ปริมาณรังสีต่ำ (low-dose helical computerized tomography) ซึ่งสามารถนำมาใช้ในการตรวจคัดกรองและวินิจฉัยได้
การตรวจวินิจฉัยด้วยรังสี
  • การตรวจด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT scan)
  • การตรวจโดยใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) เป็นวิธีที่ช่วยให้แพทย์หาตำแหน่งและขนาดของก้อนเนื้อที่ผิดปกติในบริเวณปอดได้
  • การตรวจด้วยเครื่อง PET scan (positron emission tomography scan) เป็นการฉีดโมเลกุลของสารกัมมันตภาพรังสีที่รวมกับน้ำตาลเข้าทางเส้นเลือด เซลล์มะเร็งปอดจะดูดซึมเอาน้ำตาลชนิดนี้ไว้อย่างรวดเร็วและมากกว่าเซลล์ปกติ ทำให้เกิดความแตกต่างของการเรืองแสงเฉพาะเซลล์มะเร็ง
คัดกรองมะเร็งปอด
รายการ
ค่าบริการ
หมายเหตุ
โปรแกรมคัดกรองมะเร็งปอด ด้วย CT SCAN LOW DOSE 3,333.- รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาลแล้ว
วันนี้ - 31 ธันวาคม 2568

โปรแกรมและแพ็คเกจ

Bangpo Home Health Care

Bangpo Home Health Care

เพราะห่วงใย ให้คุณอุ่นใจ

Bangpo Home Health Care

ให้บางโพ ดูแลถึงบ้านคุณ


พร้อมบริการที่หลากหลายจากทีมพยาบาลวิชาชีพและอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานเหมือนอยุ่ในโรงพยาบาล อาทิ ฉีดวัคซีน ทำแผล เจาะเลือด ให้บริการเปลี่ยนสายสวนปัสสาวะ และการให้การพยาบาลที่บ้าน

เพราะห่วงใย ให้คุณอุ่นใจ
ให้บางโพดูแลถึงบ้านคุณ

ด้วยบริการ

Bangpo Home Health Care

พร้อมบริการที่หลากหลาย จากทีมพยาบาลวิชาชีพและอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน เหมือนอยุ่ในโรงพยาบาล
เช่น ฉีดวัคซีน ทำแผล เจาะเลือด ให้บริการเปลี่ยนสายสวนปัสสาวะ และการให้การพยาบาลที่บ้าน

เพียงแค่ 3 ขั้นตอนง่ายๆ เราจะไปหาท่าน

ขั้นตอนที่ 1

กรอกข้อมูล ที่: ลงทะเบียน
โทรศัพท์: 02-587-0144

ขั้นตอนที่ 2

เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ

ขั้นตอนที่ 3

รอรับบริการที่บ้าน

Bangpo Home Health Care

พร้อมบริการที่หลากหลายจากทีมพยาบาลวิชาชีพและอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานเหมือนอยุ่ในโรงพยาบาล อาทิ
เงื่อนไขบริการ
  • ไม่เกิน 5 กิโลเมตร ราคา 500 บาท
  • ไม่เกิน 10 กิโลเมตร ราคา 700 บาท
  • ไม่เกิน 15 กิโลเมตร ราคา 1,000 บาท
  • ไม่เกิน 25 กิโลเมตร ราคา 1,500 บาท
  • ไม่เกิน 45 กิโลเมตร ราคา 2,000 บาท
สนใจบริการ : ลงทะเบียน
หรือ โทร. 02-587-0144