โปรแกรมตรวจสุขภาพ 12.12

โปรแกรมตรวจสุขภาพ 12.12 : 1,212.-

ตรวจสุขภาพ 12 รายการ

โปรแกรมตรวจสุขภาพ 12.12

ตรวจ 12 รายการ
ตรวจ 12 รายการ เพียง 1,212.-
รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาลแล้ว
  • ตรวจร่างกายทั่วไปโดยแพทย์ Physical Examination
  • ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ EKG
  • ตรวจเอกซเรย์ปอดดิจิตอล Chest X-ray
  • ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด CBC
  • ตรวจหาระดับน้ำตาลในเลือด FBS
  • ตรวจสมรรถภาพการทำงานของตับ SGPT
  • ตรวจสมรรถภาพการทำงานของไต Creatinine
  • ตรวจหาระดับไขมันในเลือด Cholesterol
  • ตรวจหาระดับไขมันในเลือด Triglyceride
  • ตรวจหาระดับไขมันชนิดดีในเลือด HDL
  • ตรวจหาระดับไขมันชนิดไม่ดีในเลือด LDL
  • ตรวจความสมบูรณ์ของปัสสาวะ UA
ร่วมส่งเสริมให้คุณมีสุขภาพดี ด้วยโปรแกรมตรวจสุขภาพ

วันนี้ - 31 ธันวาคม 2567
สามารถใช้ได้ถึง 31 มกราคม 2568

โปรแกรมและแพ็คเกจ

ตรวจคัดกรองความเสี่ยงหลอดเลือดสมอง

ตรวจคัดกรองความเสี่ยงหลอดเลือดสมอง

MRI and MRA Brain Screening

ตรวจคัดกรองความเสี่ยงหลอดเลือดสมอง : 10,100.-

MRI and MRA Brain Screening


ตรวจสุขภาพ 13 รายการ

ผู้ที่มีความเสี่ยงโรค
ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ความอ้วน โรคหัวใจ อายุที่มากขึ้น ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ บุหรี่ แอลกอฮอล์ โคเคน แอมเฟตามีน การดำเนินชีวิต ที่ไม่ค่อยมีการเคลื่อนที่ หรือออกกำลังกาย

ตรวจคัดกรองความเสี่ยงหลอดเลือดสมอง

MRI and MRA Brain Screening
โรคหลอดเลือดสมอง (stroke)
โรคหลอดเลือดสมอง (stroke) คือ ภาวะที่เลือดไม่สามารถไหลเวียนไปเลี้ยงสมองได้ ทำให้สมองขาดเลือดและออกซิเจน ไปเลี้ยงเนื่องจากหลอดเลือดตีบ หลอดเลือดอุดตัน หรือหลอดเลือดแตก ส่งผลให้เนื้อเยื่อในสมองถูกทำลาย การทำงานของสมองหยุดชะงัก หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีจะทำให้เซลล์สมองค่อย ๆ ตายลง
ปัจจัยเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมอง
  • ความดันโลหิตสูง
  • เบาหวาน
  • ไขมันในเลือดสูง
  • ความอ้วน
  • โรคหัวใจ
  • อายุที่มากขึ้น
  • ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
  • บุหรี่
  • แอลกอฮอล์
  • โคเคน
  • แอมเฟตามีน
  • การดำเนินชีวิต
  • ที่ไม่ค่อยมีการเคลื่อนที่หรือออกกำลังกาย
สามารถตรวจได้โดย การตรวจสมองด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan) หรือ การตรวจสมองด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI Scan) การตรวจ CT Scan จะช่วยวินิจฉัยแยกโรคสมองขาดเลือดกับโรคเลือดออกในสมองได้ โดยที่ใช้เวลาในการทำน้อยกว่า MRI Scan ทำให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาที่รวดเร็ว ส่วนการตรวจ MRI Scan จะมีความไวในการตรวจสมองขาดเลือดในระยะแรกๆ มากกว่าการทำ CT Scan และสามารถช่วยวินิจฉัยแยกโรคสมองขาดเลือดกับโรคเลือดออกในสมองได้เช่นกัน
การคัดกอรงความเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมองสิ่งจำเป็น เพื่อสำรวจความผิดปกติ หรือมีความบกพร่องของสมอง เพื่อจะได้รักษา ป้องกัน หรือ ผ่อนหนักให้เป็นเบา หากมีการดูแลอย่างดี ตรวจสอบหาข้อบกพร่อง และแก้ไขแต่ระยะต้นๆ ร่างกายก็จะอยู่กับเราได้นานขึ้น และมีคุณภาพชีวิตที่ดี
โปรแกรมตรวจคัดกรองความเสี่ยงหลอดเลือดสมอง
ตรวจร่างกายทั่วไปโดยอายุรแพทย์ระบบประสาทและสมอง
Physical Examination
ตรวจวัดความดันโลหิต, ชีพจร
BP, Pulse
ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด
CBC
ตรวจหาระดับน้ำตาลในเลือด
FBS
ตรวจหาระดับน้ำตาลสะสมในเลือด
HbA1C
ตรวจสมรรถภาพการทำงานของตับ
SGPT
ตรวจสมรรถภาพการทำงานของไต
Creatinine
ตรวจหาระดับไขมันในเลือด
Cholesterol
ตรวจหาระดับไขมันในเลือด
Triglyceride
ตรวจหาระดับไขมันชนิดดีในเลือด
HDL
ตรวจหาระดับไขมันชนิดไม่ดีในเลือด
LDL
ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
Electrocardiogram (EKG)
ตรวจหลอดเลือดสมองด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
MRI and MRA Brain Screening
10,100.-
เงื่อนไขการใช้บริการ
  • รวมค่าแพทย์และค่่าบริการ
  • กรุณางดน้ำและอาหารอย่างน้อย 10 - 12 ชั่วโมง ก่อนเข้ารับการตรวจ
วันนี้ - 31 ธันวาคม 2567

โปรแกรมและแพ็คเกจ

โปรแกรมตรวจคัดกรองภาวะกระดูกพรุน Bone Care

โปรแกรมตรวจคัดกรองภาวะกระดูกพรุน

BONE CARE PROGRAM

BONE CARE 1 : 2,800.-

BONE CARE 2 : 1,600.-


ภาวะกระดูกบางหรือผุพรุน
ภาวะกระดูกบางหรือผุพรุนจากการเสื่อมสลายของมวลกระดูกทำให้ความหนาแน่นของกระดูกลดลง เสี่ยงต่อการหักหรือพิการได้ง่าย ตำแหน่งที่พบกระดูกหักได้บ่อย คือ กระดูกสันหลัง กระดูกข้อมือและกระดูกสะโพก อาจเกิดผลแทรกซ้อนที่รุนแรง เช่น หลังค่อม การหายใจไม่เต็มที่ เหนื่อยหอบ เอ็นอักเสบและข้อกระดูกเสื่อม เดินไม่ได้เป็นภาระต่อคนรอบข้าง การผ่าตัดต้องใช้อุปกรณ์ราคาแพง และมีอัตราการเสียชีวิตสูง
โดยปกติในวัยเด็กร่างกายจะมีขบวนการสร้างกระดูกมากกว่าการสลายจนมีการสะสมมวลกระดูกได้สูงสุด เมื่ออายุ 30 ปี หลังจากนั้นจะมีการเสื่อมสลายของกระดูกอย่างต่อเนื่องมากกว่าการสร้าง โดยเฉพาะในสตรีที่เข้าสู่ภาวะหมดประจำเดือนจะมีการสูญเสียมวลกระดูกอย่างรวดเร็วมากกว่าเพศชายถึง 2-3 เท่า
ใครมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคกระดูกพรุน
  1. สตรีวัยหมดประจำเดือน หรือได้รับการผ่าตัดรังไข่ทั้ง 2 ข้าง
  2. ผู้มีอายุมากกว่า 65 ปี
  3. มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคกระดูกพรุนหรือกระดูกสะโพกหัก
  4. เคยมีประวัติกระดูกหัก เมื่ออายุมากกว่า 50 ปี และจะมีความเสี่ยงที่จะเกิดกระดูกหักซ้ำ
  5. รูปร่างผอมบาง น้ำหนักตัวน้อย
  6. ขาดสารอาหารแคลเซียมและวิตามินดี
  7. ไม่ออกกำลังกายหรือไม่เคลื่อนไหวร่างกายเป็นเวลานาน เช่น นอนรักษาตัวนานหรือใส่เฝือกนานๆ
  8. สูบบุหรี่
  9. ชอบดื่มสุรา น้ำอัดลม ชา กาแฟ ยาชูกำลัง
  10. ใช้ยากลุ่มสเตียรอยด์เป็นประจำ ยารักษาโรคเบาหวาน โรคต่อมไธรอยด์ ยายับยั้งการตกไข่ในโรคเยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ เป็นต้น
ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่อภาวะกระดูกพรุน และพบแพทย์เพื่อประเมิน ป้องกันหรือรักษาให้กระดูกมีสุขภาพที่ดี
รายการตรวจ
BONE CARE 1
BONE CARE 2
ตรวจร่างกายทั่วไปโดยแพทย์
Physical Examination
ตรวจระดับวิตามินดี
Vitamin D Total
ตรวจระดับแคลเซียม
Calcium
ตรวจมวลกระดูกสันหลังและสะโพก
Bone density 2 Parts (Lumbar, hip)
2,800
1,600

โปรแกรมและแพ็คเกจ

โปรแกรมคัดกรองหัวใจและหลอดเลือด

โปรแกรมคัดกรองหัวใจและหลอดเลือด

Heart and blood vessel screening program

โปรแกรมคัดกรองหัวใจและหลอดเลือด

Heart and Blood Vessel Screening Program

ราคาสุดพิเศษ 2,690.- รายการตรวจ 16 รายการ


"เพราะหัวใจ มีดวงเดียว" ให้โรงพยาบาลบางโพ เป็นผู้ช่วยดูแลสุขภาพของคุณและครอบครัวที่คุณรัก

โปรแกรมคัดกรองหัวใจและหลอดเลือด

Heart and Blood Vessel Screening Program
"Check กันหน่อย..คุณเสี่ยงเป็นโรคหัวใจแค่ไหน"
กับโปรแกรมคัดกรองหัวใจและหลอดเลือด
โรคหัวใจและหลอดเลือด (Heart Disease) กลุ่มโรคที่เกิดจากการทำงานผิดปกติของหัวใจ เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ลิ้นหัวใจรั่ว ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแรง หัวใจเต้นผิดจังหวะ เป็นต้น โรคหัวใจเป็น โรคเรื้อรังร้ายแรงที่เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของคนไทย และมีแนวโน้มว่าจะมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากปัจจัยหลายประการ เช่น กรรมพันธุ์ อายุ เพศ รวมถึงขาดการออกกำลังกาย น้ำหนักเกิน และพฤติกรรมการบริโภคอาหาร โดยผู้ป่วยมักจะเริ่มรู้ตัวเมื่ออาการของโรคหัวใจเข้าสู่ระยะรุนแรง เช่น แน่นหน้าอกอย่างรุนแรง ปวดร้าวไปยังหัวไหล่ แขนหรือกรามด้านซ้าย รู้สึกจุกแน่นที่บริเวณกลางอกหรือลิ้นปี่ ดังนั้น ผู้ป่วยโรคหัวใจควรได้รับการดูแลเรื่องการบริโภคอาหารและการดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสม รวมถึงการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคอื่นๆ แทรกซ้อนได้
"เพราะหัวใจ มีดวงเดียว" ให้เราเป็นผู้ช่วยดูแลสุขภาพของคุณและคนที่รัก
ตรวจ 16 รายการ เพียง 2,690.-
  • ตรวจร่างกายทั่วไปโดยแพทย์ Physical Examination
  • ตรวจวัดความดันโลหิต,ชีพจร BP, Pulse
  • ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ EKG
  • ตรวจเอกซเรย์ปอดดิจิตอล Chest X-ray
  • ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด CBC
  • ตรวจหาระดับน้ำตาลในเลือด FBS
  • ตรวจหาระดับน้ำตาลสะสมในเลือด HbA1C
  • ตรวจสมรรถภาพการทำงานของตับ SGPT
  • ตรวจสมรรถภาพการทำงานของไต Creatinine
  • ตรวจหาระดับไขมันในเลือด Cholesterol
  • ตรวจหาระดับไขมันในเลือด Triglyceride
  • ตรวจหาระดับไขมันชนิดดีในเลือด HDL
  • ตรวจหาระดับไขมันชนิดไม่ดีในเลือด LDL
  • ตรวจความสมบูรณ์ของปัสสาวะ UA
  • ตรวจระดับฮอร์โมนไธรอยด์ TSH (Thyroid Stimulating Hormone)
  • ตรวจหาไลโพโปรตีน สารบ่งชี้ความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด Lipoprotein a
รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาลแล้ว
การเตรียมตัวก่อนตรวจสุขภาพ
  • งดน้ำและอาหารก่อนเข้ารับการตรวจสุขภาพ 6 - 8 ชั่วโมง (จิบน้ำเปล่าได้)
  • ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก่อนเข้ารับการตรวจ 24 - 48 ชั่วโมง
  • ไม่ควรสูบบุหรี่ ก่อนมารับการตรวจสุขภาพ เพราะจะทำให้ความดันโลหิตสูงเกินจากปกติ
  • ควรพักผ่อนให้เพียงพอ ก่อนเข้ารับการตรวจสุขภาพ หากอดนอนจะทำให้ผลการตรวจผิดปกติ โดยเฉพาะความดันโลหิต การเต้นของหัวใจ อุณหภูมิของร่างกาย อาจทำให้แพทย์ไม่สามารถประเมินได้ว่ามีความผิดปกติจริงหรือไม่
  • หากสงสัยว่าตั้งครรภ์กรุณาแจ้งพยาบาล ก่อนรับการตรวจ
  • สำหรับสุภาพสตรี ไม่ควรตรวจในช่วงที่มีประจำเดือน ควรตรวจหลังหมดประจำเดือน 7 วัน เพราะอาจมีผลต่อการแปรผล
  • หากรับประทานยาประจำ หรืออาหารเสริมบางชนิดอยู่ ควรแจ้ง แพทย์ก่อนตรวจสุขภาพ เพราะยาและอาหารเสริมบางชนิด มีผลต่อผลการตรวจเลือด ผลการตรวจปัสสาวะ หรือ ผลการตรวจอุจจาระ
เงื่อนไขการเข้ารับบริการ
  • ราคาดังกล่าวรวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาลแล้ว
  • กรณีซื้อผ่าน online กรุณาใช้บริการภายในวันเวลาที่กำหนด 31 ธันวาคม 2567
  • กรุณานัดหมายก่อนเข้ารับบริการล่วงหน้าอย่างน้อย 1-2 วัน ที่ศูนย์ตรวจสุขภาพ โทร. 02-587-0144 ต่อ 2300 หรือ @line : @bangpohospital
  • ไม่สามารถใช้ร่วมกับโปรแกรมการส่งเสริมการขายอื่นๆ การเรียกเก็บจากบริษัทคู่สัญญา บริษัทประกันฯ รวมถึงส่วนลดอื่นๆได้
  • โรงพยาบาลขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงข้อกำหนด เงื่อนไข ราคา และอื่นๆ โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
วันนี้ - 31 ธันวาคม 2567

โปรแกรมและแพ็คเกจ

เพราะหัวใจต้องการคนดูแล

การดูแลหัวใจให้แข็งแ […]

DM Care ตรวจคัดกรองเบาหวาน

คัดกรองตั้งแต่เริ่มต้น ก่อนเกิดโรค

เพราะหัวใจต้องการคนดูแล

เพราะหัวใจ ต้องการคนดูแล

การดูแลหัวใจให้แข็งแรง


ทำได้โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต และตรวจสุขภาพหัวใจสม่ำเสมอ

หัวใจเป็นอวัยวะ ที่มีความสำคัญ ทำหน้าที่สูบฉีดโลหิตเพื่อนำไปเลี้ยงอวัยวะส่วนต่างๆ ของร่างกาย การดูแลหัวใจให้แข็งแรง ทำได้โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต และตรวจสุขภาพหัวใจสม่ำเสมอ อาการโรคหัวใจ เช่น เจ็บหน้าอก แน่นหน้าอก ใจสั่น วูบ หมดสติ เหนื่อย หายใจไม่อิ่ม นอนราบไม่ได้ แขนขาบวม ทำงานได้ลดลง เหนื่อยเร็วขึ้น วิงเวียน ปวดศีรษะ ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อสุขภาพของหัวใจ
เช็คให้ชัวร์หัวใจของคุณแข็งแรงหรือเปล่า ?
คุณมีสัญญานเหล่านี้หรือไม่
  • เหนื่อยง่ายผิดปกติ
  • เจ็บหรือแน่นหน้าอกโดยเฉพาะเวลาออกแรงหรือเครียด
  • ใจสั่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ
  • เป็นลมหมดสติเนื่องจากหัวใจเต้นไม่สม่ำเสมอ
  • หัวใจหยุดเต้นกะทันหัน

รายการตรวจสุขภาพหัวใจ

รายการ
ตรวจสมรรถภาพหัวใจขณะออกกำลังกาย
Exercise Stress Test (EST)
เป็นการตรวจหาภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดจากหลอดเลือดหัวใจตีบ
หรือตรวจหาการเต้นของหัวใจผิดจังหวะที่เกิดขณะออกกำลังกาย
2,499.-
(จาก 3,500.-)
ไม่รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาล
ตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูง
Echocardiogram (Echo)
เป็นการใช้คลื่นเหนือเสียง (อัลตราซาวด์) ความถี่สูง
ส่งไปยังบริเวณหัวใจ และสร้างออกมาเป็นภาพของหัวใจและหลอดเลือด
บันทึกเป็นวิดีโอหรือบันทึกลงกระดาษ เมื่อเคลื่อนหัวอ่านไปตามบริเวณต่างๆ
ก็จะได้ภาพหัวใจและหลอดเลือดสำคัญทั้งหมด
2,499.-
(จาก 3,500.-)
ไม่รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาล
ประเมินความเสี่ยงโรคหัวใจ
Calcium Score (CT)
สามารถตรวจวัดระดับแคลเซียมที่ผนังหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ
และสามารถตรวจวัดได้ก่อนมีอาการของโรคหัวใจนานหลายปี
จะนำไปใช้เพื่อการบอกโอกาสการเกิดหลอดเลือดหัวใจตีบในอนาคต
2,990.-
(จาก 5,000.-)
ไม่รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาล
วันนี้ - 31 ธันวาคม 2567

โปรแกรมและแพ็คเกจ

ปรึกษาปัญหาเกี่ยวกับ “การนอนกรน”

ปรึกษาปัญหาเกี่ยวกับ "การนอนกรน"

การนอนอย่างมีสุขภาพดี

ห้อง เดี่ยว : 10,800.-


นอนกรน คือ ภาวะทางเดินหายใจอุดกั้น หากไม่ได้รับการรักษา อาจทำให้เกิดปัญหาอื่นๆ เช่น ความดันโลหิตสูงเลือดข้น ภาวะความดันในปอดสูง ภาวะหัวใจวาย เส้นเลือดสมองตีบ เส้นเลือดหัวใจตีบ อัมพาต

คุณเคยสังเกตหรือไม่ ?

ส่วนใหญ่เรามักคิดว่าปัญหาการนอนกรนเป็นปัญหาเล็กน้อย ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศ ทุกวัย ปัจจุบันวงการแพทย์ได้ให้การยอมรับว่า การนอนกรนเป็นสาเหตุของการเกิดโรคต่างๆหลายโรค เช่น หลอดเลือดสมอง ความดันโลหิตสูง กล้ามเนื้อหัวใจตาย อัมพฤกษ์ อัมพาต และร้ายแรงที่สุดคือภาวะหัวใจหยุดเต้นขณะนอนหลับ ยังส่งถึงไปยังบุคลิกภาพและเกิดความอาย
อาการเบื้องต้นที่สังเกตได้
  • นอนไม่อิ่ม ไม่สดชื่น
  • ปวดศีรษะ ช่วงเช้า
  • หงุดหงิดง่าย
  • สมาธิสั้น ความจำลดลง
  • ซึมเศร้า
  • หลับขณะขับรถ
  • หยุดหายใจขณะหลับ

ตรวจสุขภาพการนอนหลับ Sleep test

10,800.-

ห้องพักเดี่ยว 1 คืน
วันนี้ - 31 ธันวาคม 2567
เงื่อนไขการเข้ารับบริการ
  • ผู้เข้ารับบริการสามารถใช้แพ็กเกจได้หลังจากตรวจวินิจฉัยเรียบร้อยแล้ว โดยค่าใช้จ่ายในการวินิจฉัยจัดเป็นค่าใช้จ่ายนอกแพ็กเกจ
  • แพ็กเกจดังกล่าวไม่สามารถใช้ร่วมกับสิทธิ์และส่วนลดอื่นๆ ได้ เช่น ผู้ถือหุ้น บริษัทคู่สัญญา และบริษัทประกัน
  • ผู้เข้ารับบริการชำระค่าใช้จ่าย ณ โรงพยาบาล ในวันที่เข้ารับบริการ
  • โรงพยาบาลขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการตรวจการนอนหลับ Sleep Test
  • ต้องสระผมให้สะอาด และห้ามใช้ครีมนวด และห้ามใส่น้ำมัน สเปรย์ หรือเจลใส่ผม ก่อนมารับการตรวจ เพราะมีการติดอุปกรณ์ที่หนังศีรษะ จำเป็นต้องให้บริเวณที่ติดอุปกรณ์ไม่มีไขมัน เพื่อให้สัญญาณกราฟคมชัด และจะสามารถอ่านผลระดับการนอนหลับได้ถูกต้อง
  • ห้ามทาแป้งหรือครีมที่บริเวณใบหน้า ลำคอและขา เพื่อทำให้อุปกรณ์ที่ติดอยู่ได้นานตลอดทั้งคืน เพราะถ้าอุปกรณ์ที่ติดหลุด จะไม่สามารถอ่านผลได้ อาจจะต้องเข้ามารับการตรวจใหม่
  • ห้ามดื่มกาแฟ และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ก่อนมารับการตรวจ เพราะจะทำให้คุณภาพของการนอนหลับผิดปกติไป กรณีที่คนไข้ต้องดื่มเป็นประจำ ต้องแจ้งแพทย์ที่ทำการรักษให้ทราบ ก่อนรับการตรวจ
  • ห้ามรับประทานยาระบาย หรือยาอื่นๆ ที่มีผลทำให้การนอนหลับไม่ต่อเนื่อง ก่อนมารับการตรวจเพราะจะทำให้ผลตรวจการนอนหลับที่ได้มาผิดปกติไป
  • ยาที่ผู้ป่วยรับประทานเป็นประจำ เช่น ยาควบคุมความดันโลหิต และยารักษาโรคอื่นๆ ให้รับประทานได้ตามปกติ และกรุณาแจ้งให้เจ้าหน้าที่รับทราบ เมื่อมารับการตรวจ
  • ห้ามรับประทานยานอนหลับ ก่อนมารับการตรวจ แต่ถ้าคนไข้ประสงค์ว่าจะต้องใช้ยานอนหลับเพื่อช่วยในการนอน ให้แจ้งเจ้าหน้าที่หรือพยาบาล เมื่อมารับการตรวจ

โปรแกรมและแพ็คเกจ

ดูแลระบบทางเดินอาหารด้วยโปรแกรม “ส่องกล้อง อุ่นใจ”

ดูแลระบบทางเดินอาหารด้วยโปรแกรม "ส่องกล้อง อุ่นใจ"

โปรแกรมส่องกล้อง หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ลำไส้เล็กส่วนต้น

โปรแกรมส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่

โปรแกรส่องกล้องกระเพาะอาหารและลำไส้ใหญ่


จุกเสียด แน่นท้อง ท้องผูก ท้องเสียเรื้อรัง น้ำหนักลด

โปรแกรมคัดกรอง “ ส่องกล้อง อุ่นใจ ” (ไม่พักค้างคืน)

ส่องกล้อง หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ลำไส้เล็กส่วนต้น
EGD/GASTROSCOPY
11,500.-
18,000.-
ให้ยานอนหลับโดยวิสัญญีแพทย์
ส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่
COLONOSCOPY
16,500.-
24,500.-
ให้ยานอนหลับโดยวิสัญญีแพทย์
ส่องกล้องกระเพาะอาหาร และลำไส้ใหญ่
EGD+COLONOSCOPY
25,500.-
32,500.-
ให้ยานอนหลับโดยวิสัญญีแพทย์
เงื่อนไขการใช้บริการ
  • เป็นโปรแกรมแบบผู้ป่วยนอก รวม ค่าแพทย์ ค่ายา เวชภัณฑ์ อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำหัตถการในห้องผ่าตัด ไม่รวมค่าใช้จ่ายดังต่อไปนี้
    1. การตัดชิ้นเนื้อ
    2. การส่งตรวจชิ้นเนื้อ
    3. การรักษาภาวะเลือดออก
    4. ค่าใช้จ่ายในการเตรียมตัวก่อนทำหัตถการ (ยา/เวชภัณฑ์/Lab/X-ray/ค่าแพทย์และอื่นๆที่นอกเหนือจากการทำหัตถการในห้องผ่าตัด)
    5. ยาที่ไม่เกี่ยวข้องกับหัตถการ
    6. เวชภัณฑ์และยากลับบ้าน
  • โปรแกรมนี้ใช้เพื่อการตรวจวินิจฉัยและการตรวจสุขภาพประจำปีเท่านั้น ไม่สามารถใช้เพื่อการรักษา
  • ปรแกรมนี้ไม่สามารถใช้ร่วมกับผู้ที่มีสิทธิ์เบิกประกันชีวิต/ประกันสุขภาพ
วันนี้ - 31 ธันวาคม 2567

โปรแกรมและแพ็คเกจ

วัคซีนโควิด-19 รุ่นใหม่ล่าสุด

วัคซีน COVID-19 Omicron XBB.1.5 สายพันธุ์ใหม่ : 2,222.- (ไม่รวมค่าแพทย์และค่าบริการ)


วัคซีน COVID-19 Omicron XBB.1.5 สายพันธุ์ใหม่ วัคซีนรุ่นล่าสุดที่ WHO แนะนำให้ใช้ป้องกัน COVID-19

วัคซีนโควิด-19 รุ่นใหม่ล่าสุด

COVID-19
วัคซีน COVID-19 Omicron XBB.1.5 สายพันธุ์ใหม่ วัคซีนรุ่นล่าสุดที่ WHO แนะนำให้ใช้ป้องกัน COVID-19
ในประเทศไทยยังมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากรายงานของกระทรวงสาธารณสุขในสัปดาห์ที่ 17 วันที่ 28 เมษายน ถึง 4 พฤษภาคม 2567
พบว่า มีผู้ป่วยรายใหม่ที่รักษาตัวในโรงพยาบาล 1,792 ราย (เฉลี่ย 256 ราย/วัน) ในจำนวนนี้มีผู้ป่วยปอดอักเสบ 501 ราย มีผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ 187 ราย และเสียชีวิต 12 ราย (เฉลี่ย 2 ราย/วัน) โดยทั้ง 12 รายที่เสียชีวิตเป็นกลุ่ม 608
ซึ่งหมายถึง ผู้ที่อายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป มีโรคร่วม 7 โรค (โรคหลอดเลือดสมองโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง โรคไตรื้อรัง โรคอ้วน โรคมะเร็ง และโรคเบาหวาน) และอีก 1 กลุ่ม คือ หญิงตั้งครรภ์
การป้องกันโควิด-19 ที่ยังแนะนำ คือ การใส่หน้ากากอนามัย การไม่ไปสถานที่แออัดโดยไม่จำเป็น การเว้นระยะห่าง และการล้างมือบ่อย ๆ แต่วิธีการเหล่านี้อาจจะไม่สามารถป้องกันโควิด-19 ได้ ดังนั้น วัคซีนโควิด-19 จึงเป็นอีกเครื่องมือหนึ่งที่เสริมสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันการเป็นโควิด- 19 รวมถึงป้องกันการเป็นโรคที่รุนแรง ดังนั้น สมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทยและราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย จึงแนะนำให้กลุ่ม 608 และบุคลากรทางการแพทย์ที่ให้การดูแลกลุ่ม 608 รับวัคซีนโควิด-19 รุ่นใหม่ 1 เข็ม
ข้อมูล:

สมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทยและราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย - คำแนะนำเรื่องการป้องกันและรักษาโควิด-19

 
ทำไมต้องวัคซีน Omicron XBB.1.5
  1. ป้องกันการติดเชื้อสายพันธุ์ที่ระบาดในปัจจุบันได้ดีกว่า
  2. กระตุ้นภูมิคุ้มกันที่มีต่อ สายพันธุ์ JN.1 (สายพันธุ์ปัจจุบัน) ได้ 13 เท่า
  3. ลดการป่วยหนักที่ต้องนอนโรงพยาบาล 63%
  4. ลดการป่วยรุนแรงจนต้องมาห้องฉุกเฉิน 58%
  5. ลดการป่วยรุนแรงที่ต้องเข้าไอซียู ในผู้สูงอายุ (60 ปีขึ้นไป) 73%
  6. *เทียบกับผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน Omicron XBB.1.5

รายการ
วัคซีนโควิด-19 รุ่นใหม่ล่าสุด
VACCINE  COVID-19 Omicron XBB.1.5
2,222.-
(ไม่รวมค่าแพทย์และค่าบริการ รพ.)

 

วันนี้ - 31 ธันวาคม 2567

โปรแกรมและแพ็คเกจ

ปกป้องคุณและคนที่คุณรักด้วยวัคซีนทุกช่วงวัย

ปกป้องคุณและคนที่คุณรัก ด้วยวัคซีน

"ปกป้องคุณและคนที่คุณรัก ด้วยวัคซีนทุกช่วงวัย"


การฉีดวัคซีนเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันโรค ลดความเสี่ยงในการพักรักษาโรงพยาบาล และลดค่าใช้จ่าย ในการรักษา การฉีดวัคซีนไม่ใช่เฉพาะเด็กเท่านั้นที่ควรได้รับ ผู้ใหญ่ก็เช่นกัน วัคซีนอาจไม่ไกลตัวอย่างที่คุณคิด เพราะโรคติดเชื้อหลายชนิดป้องกันได้ถ้าคุณมีภูมิต้านทานที่ดี การได้รับวัคซีนที่ถูกต้องเหมาะสม สามารถปกป้องคุณและคนที่คุณรักได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดัน โรคหัวใจ เป็นต้น

แพ็คเกจวัคซีนทุกช่วงวัย

สำหรับทุกช่วงวัย
แพทย์แนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรค การฉีดวัคซีนป้องกัน ช่วยให้บรรเทาอาการของโรคและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง นอกจากนี้ยังลดโอกาสเสี่ยงการแพร่กระจายเชื้อไปสู่คนอื่น ในวัยผู้ใหญ่ภูมิคุ้มกันจะลดลงตามอายุที่มากขึ้น จึงต้องมีการกระตุ้นด้วยการฉีดวัคซีน หรืออาจจะเป็นเพราะเชื้อโรคนั้นมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง หรือสายพันธุ์ใหม่ เช่น ไข้หวัดใหญ่ ซึ่งเป็นโรคที่ติดต่อได้ง่ายและระบาดเป็นประจำ โดยเฉพาะผู้สูงอายุและเด็กเล็กจะมีความรุนแรง อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ มากกว่าคนในวัยหนุ่มสาว
รายการ
ราคา
วัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์
สำหรับผู้ที่มีอายุ 7 เดือนขึ้นไป
ควรฉีดป้องกันปีละ 1 ครั้ง (กรณียังไม่รับวัคซีนมาก่อนแนะนำให้ฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 1 เดือน)
849.-
รวมค่าแพทย์
และค่าบริการโรงพยาบาล
วัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ High Dose
สำหรับผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป
ควรฉีดป้องกันปีละ 1 ครั้ง
2,500.-
รวมค่าแพทย์
และค่าบริการโรงพยาบาล
วัคซีนไข้เลือดออก
สำหรับผู้ที่มีอายุ 4 ปี - 60 ปี
สามารถฉีดได้ทั้งคนที่เคยเป็น และไม่เคยเป็นโรคไข้เลือดออกฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 3 เดือน
4,777.-
รวมค่าแพทย์
และค่าบริการโรงพยาบาล
วัคซีนสุกใส (1 เข็ม)
สำหรับผู้ที่มีอายุ 1 ปี
ควรฉีดในผู้ที่ไม่เคยได้รับวัคซีนหรือไม่เคยเป็นอีสุกอีใสมาก่อน ห่างกันอย่างน้อย 4-8 สัปดาห์
1,700.-
ไม่รวมค่าแพทย์
และค่าบริการโรงพยาบาล
วัคซีนตับอักเสบ บี - [1 เข็ม]
สำหรับเด็กแรกเกิด และทุกช่วงวัยที่มีความเสี่ยง
โดยแพทย์จะพิจารณาตรวจภูมิคุ้มกันก่อนให้วัคซีน
660.-
ไม่รวมค่าแพทย์
และค่าบริการโรงพยาบาล
วัคซีนตับอักเสบ บี - [3 เข็ม]
สำหรับเด็กแรกเกิด และทุกช่วงวัยที่มีความเสี่ยง
โดยแพทย์จะพิจารณาตรวจภูมิคุ้มกันก่อนให้วัคซีน
1,980.-
ไม่รวมค่าแพทย์
และค่าบริการโรงพยาบาล
วัคซีนตับอักเสบ เอ - [1 เข็ม]
สำหรับผู้ที่มีอายุ 1 ปี 6 เดือนขึ้นไป
ฉีด 1 เข็ม
1,200.-
ไม่รวมค่าแพทย์
และค่าบริการโรงพยาบาล
วัคซีนตับอักเสบ เอ - [1 เข็ม] + บี - [3 เข็ม]
แพทย์จะพิจารณาตรวจภูมิคุ้มกันก่อนให้วัคซีน
3,190.-
ไม่รวมค่าแพทย์
และค่าบริการโรงพยาบาล
วัคซีนบาดทะยัก - [1 เข็ม]
สำหรับผู้ที่มีอายุ 10 ปีขึ้นไป และกระตุ้นทุก 10 ปี
360 - 420.-
ไม่รวมค่าแพทย์
และค่าบริการโรงพยาบาล
วัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบ
ผู้สำหรับผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป
หรือ ในผู้ป่วยอายุ 19 - 59 ปีที่มีโรคดังต่อไปนี้
  • โรคหัวใจ
  • โรคหอบหืด
  • โรคตับแข็ง
  • โรคไตวายเรื้อรัง
  • ผู้ป่วยโรคเบาหวาน
ฉีด 1 เข็มป้องกันตลอดชีวิต
3,250.-
ไม่รวมค่าแพทย์
และค่าบริการโรงพยาบาล
วัคซีนงูสวัด - RZV(ชนิดใหม่)
สำหรับผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป
ฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 2 – 6 เดือน
1 เข็ม - 5,990.-
2 เข็ม - 11,900.-
รวมค่าแพทย์
และค่าบริการโรงพยาบาล
วัคซีนมะเร็งปากมดลูก(HPV vaccine)
แบบ 4 สายพันธ์ุ - [2 เข็ม]
  • สำหรับผู้ที่มีอายุ 9 - 14 ปี
แบบ 4 สายพันธ์ุ - [3 เข็ม]
  • สำหรับผู้ที่มีอายุ 15 - 26 ปี
แบบ 9 สายพันธ์ุ - [2 เข็ม]
  • สำหรับผู้ที่มีอายุ 9 - 14 ปี
แบบ 9 สายพันธ์ุ - [3 เข็ม]
  • สำหรับผู้ที่มีอายุ 15 - 26 ปี
5,900 - 18,500.-
รวมค่าแพทย์
และค่าบริการโรงพยาบาล
ปกป้องคุณและคนที่คุณรัก ด้วยวัคซีนทุกช่วงวัย

รายละเอียดเพิ่มเติม

วัคซีนไข้หวัดใหญ่ (Influenza Vaccine)
ไข้หวัดใหญ่ เป็นโรคที่ติดต่อได้ง่ายและระบาดเป็นประจำ โดยไข้หวัดใหญ่ในผู้สูงอายุจะมีความรุนแรงกว่าคนอายุน้อย และเกิดภาวะแทรกซ้อนได้บ่อย และคนที่มีโรคประจำตัว เช่น ปอดอักเสบ ภาวะหัวใจขาดเลือด และภาวะหัวใจวาย มีอัตราการนอนโรงพยาบาล และอัตราการเสียชีวิตสูง
แนะนำฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ เป็นประจำทุกปี ปีละครั้งในสายพันธุ์ ที่ระบาดในปีนั้น ในช่วงปลายฤดูฝนถึงช่วงฤดูหนาว
วัคซีนมะเร็งปากมดลูก(HPV vaccine)
มะเร็งปากมกลูกมีสาเหตุจากการติดเชื้อ ซึ่งเป็นการติดต่อทางเพศสัมพันธ์ การตรวจแปปสเมียร์ เป็นการตรวจหาความผิดปกติของปากมดลูก ไม่เพียงแต่เพศหญิงแค่นั้นที่ติดโรคเชื้อไวรัสเอชพีวีได้ ผู้ชายก็สามารถติดเชื้อชนิดนี้ได้เช่นกัน ปัจจุบันเราสามารถลดช่องความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งได้อย่างไม่ยากเย็นด้วยการฉีดป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูก (HPV)
แนะนำฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ เป็นประจำทุกปี ปีละครั้งในสายพันธุ์ ที่ระบาดในปีนั้น ในช่วงปลายฤดูฝนถึงช่วงฤดูหนาว
อายุ 9-14 ปี 11 เดือน ฉีด 2 เข็ม
อายุ 15-45 ปี ฉีด 3 เข็ม
สามารถป้องกันการติดเชื้อภายใน 1 เดือน หลังจากได้รับวัคซีนครบ 3 เข็ม
วัคซีนไวรัสตับอักเสบ เอ(Hepatitis A Vaccine)
เป็นโรคตับที่เกิดจากเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดเอ ซึ่งมักจะพบในอุจจาระของคนที่เป็นโรคตับอักเสบเอ และมักจะติดต่อโดยการใกล้ชิดกับคนที่เป็น หรือจากการรับประทานอาหาร หรือดื่มน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัสตับอักเสบเออยู่ ผู้ที่เป็นโรคตับอักเสบเอ สามารถแพร่เชื้อให้กับบุคคลใกล้ชิดได้ง่าย
ฉีดได้ตั้งแต่ 1 ปี 6 เดือนขึ้นไป และในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป
วัคซีนโรคปอดอักเสบ (Pneumococcal Vaccine)
เชื้อแบคทีเรียนิวโมคอคคัส เป็นเชื้อที่มีความรุนแรงสูง และเป็นสาเหตุหลักของโรคปอดอักเสบ รวมถึงเป็นสาเหตุของไซนัสอักเสบ หูชั้นกลางอักเสบ สำหรับผู้สูงอายุ และผู้ทีมีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคปอด โรคหัวใจ โรคตับ โรคไต โรคมะเร็ง ผู้ติดเชื้อ HIV ผู้ที่ได้รับยากดภูมิ และผู้ป่วยที่ไม่มีม้าม อาจติดเชื้อรุนแรงถึงขั้นเยื่อหุ้มสมองอักเสบ และติดเชื้อในกระแสเลือด
ควรฉีดวัคซีนโรคปอดอักเสบ คือ ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป หรือในผู้ป่วยอายุ 19-64 ปีที่มีโรคหัวใจ โรคหอบหืด โรคถุงลมโป่งพอง โรคตับแข็ง โรคไตวายเรื้อรัง ผู้ป่วยโรคเบาหวาน
วัคซีนอีสุกอีใส Varicella (Chicken pox)
โรคอีสุกอีใสเป็นโรคติดเชื้อที่ผู้ป่วยมักมีอาการไม่รุนแรง โดยเฉพาะในเด็กเล็ก แต่บางครั้งอาจมีอาการรุนแรงได้ ทำให้เกิดภาวะปอดอักเสบ และภาวะสมองอักเสบ อาจทำให้ผู้ป่วยมีความพิการหรือเสียชีวิต มีภาวะแทรกซ้อน สำหรับเด็กเล็ก เด็กโต ผู้ใหญ่ ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง และหญิงตั้งครรภ์
แนะนำให้ฉีดในผู้ที่ไม่เคยมีประวัติเป็นโรคอีสุกอีใสมาก่อน ควรแนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใส 2 ครั้ง
วันนี้ - 31 ธันวาคม 2567

โปรแกรมและแพ็คเกจ

วัคซีนงูสวัด ชนิดใหม่

วัคซีนงูสวัด (RZV)

Recombinant Zoster Vaccine

วัคซีนงูสวัด (RZV)

2 เข็ม : 11,900.-

1 เข็ม : 5,990.-


  • มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคงูสวัด 97% ในผู้ใหญ่อายุ 50 ปีขึ้นไป
  • ประสิทธิภาพในการป้องกันอาการปวดเส้นประสาท (PHN) 91.2%
  • เมื่อติดตามยาวนานถึง 10 ปี พบว่า มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคงูสวัด 89%

BUY NOW!

วัคซีนงูสวัด (RZV)

Recombinant Zoster Vaccine
โรคงูสวัดใครเสี่ยง
โรคงูสวัดเป็นการติดเชื้อไวรัส Varicella Zoster เชื้อเดียวกับการก่อโรคสุกใส เมื่อหายแล้วเชื้อไวรัสจะไปแฝงตัวอยู่ในปมประสาท เมื่อร่างกายอ่อนแอ หรือมีภาวะภูมิคุ้มกันถดถอยตามวัย เชื้อจะถูกกระตุ้นขึ้นมาก่อให้เกิดโรค “งูสวัด”ดังนั้นผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป มีโอกาสเกิดโรคงูสวัดเพิ่มสูงขึ้น มากกว่า 90% เคยติดเชื้อสุกใสมาแล้ว จะมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดโรคงูสวัดด้วย และผู้ที่เคยเป็นโรคงูสวัด มีโอกาสเป็นซ้ำประมาณ ร้อยละ 6.2 โดยมีปัจจัยเสี่ยง เช่น เครียด พักผ่อนไม่เพียงพอ โรคภูมิคุ้มกันกพร่อง ติดเชื้อ HIV คนไข้มะเร็ง รวมถึงผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน โรคปอด โรคไต รวมถึงผู้ที่เคยติดเชื้อ Covid-19
การป้องกันโรคงูสวัด
  • จัดการความเครียด รักษาสุขอนามัย หลีกเลี่ยงสัมผัสใกล้ชิดกับผู้มีอาการ
  • วัคซีนป้องกันโรคงูสวัด ถือเป็นวิธีการป้องกันโรคงูสวัดที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ปัจจุบัน มี 2 ชนิด
  • วัคซีนชนิดเชื้อเป็นอ่อนแรง (ZVL)
  • วัคซีน protein subunit ร่วมกับสารเสริมฤทธิ์ (Recombinant Zoster Vaccine - RZV)
วัคซีนป้องกันงูสวัด ชนิดใหม่ ไม่ใช่เชื้อเป็น - Recombinant Zoster Vaccine (RZV)
  • มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคงูสวัด 97% ในผู้ใหญ่อายุ 50 ปีขึ้นไป
  • ประสิทธิภาพในการป้องกันอาการปวดเส้นประสาท (PHN = Postherpetic neuralgia) 91.2%
  • เมื่อติดตามยาวนานถึง 10 ปี พบว่า มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคงูสวัด 89%
วัคซีนงูสวัด - Recombinant Zoster Vaccine (RZV)
จำนวน
ราคา
2 เข็ม
ฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 2 - 6 เดือน
11,900 .-
1 เข็ม
ฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 2 - 6 เดือน
5,990 .-
รวมค่าแพทย์และค่าบริการ รพ.
คำแนะนำการฉีดวัคซีน
  • แนะนำในผู้ใหญ่ อายุ 50 ปีขึ้นไป ฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 2-6 เดือน และผู้ที่มีอายุมากกว่า 18 ปีที่มีความเสี่ยงในการเกิดโรคงูสวัดมากกว่าปกติ
    เช่น ผู้ที่ระบบภูมิคุ้มกันมีปัญหา ผู้ใช้ยาสเตียรอยด์และผู้ที่รับการรักษาด้วยรังสีวิทยาหรือเคมีบำบัด ฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 1-2 เดือน
  • ไม่จำเป็นต้องตรวจภูมิคุ้มกันโรค (Varicella IgG) สามารถฉีดในบุคคลที่เคยหรือไม่เคยเป็นโรคอีสุกอีใสมาก่อน
  • ในกรณีที่เคยเป็นงูสวัดมาก่อน สามารถฉีดได้โดยให้เว้นระยะห่างหลังจากเป็นงูสวัดอย่างน้อย 6 เดือน
  • หากอายุยังไม่ถึงเกณฑ์ที่จะต้องได้รับวัคซีนงูสวัด ให้อยู่ในดุลยพินิจของแพทย์
วันนี้ - 31 ธันวาคม 2567

โปรแกรมและแพ็คเกจ

วัคซีนไข้เลือดออก

วัคซีนไข้เลือดออก

Dengue Vaccine

วัคซีนไข้เลือดออก

1 เข็ม: 3,000.-

2 เข็ม: 4,777.-


โรคไข้เลือดออกเกิดจากการติดเชื้อไวรัสเดงกี (Dengue virus) มียุงลายเป็นพาหะนำโรค พบได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่

โรคไข้เลือดออกเกิดจากการติดเชื้อไวรัสเดงกี (Dengue virus) มียุงลายเป็นพาหะนำโรค พบได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่
1 เข็ม
3,000.-
ฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 3 เดือน
รวมค่าแพทย์และค่าบริการ รพ.
2 เข็ม
4,777.-
ฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 3 เดือน
รวมค่าแพทย์และค่าบริการ รพ.
ประสิทธิภาพของวัคซีน
  • สามารถฉีดได้อายุตั้งแต่ 4 ปี - 60 ปี
  • สามารถฉีดได้ทั้งคนที่เคยเป็น และไม่เคยเป็นโรคไข้เลือดออก
  • ฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 3 เดือน
  • ป้องกันการติดเชื้อไข้เลือดออก 4 สายพันธุ์ 80.2%
  • ลดอัตราการนอนโรงพยาบาลและลดความรุนแรง 90.4%
วันนี้ - 31 ธันวาคม 2567

โปรแกรมและแพ็คเกจ

วัคซีนไข้หวัดใหญ่ HIGH DOSE สำหรับผู้มีอายุ 65 ปีขึ้นไป

วัคซีนไข้หวัดใหญ่ HIGH DOSE สำหรับผู้มีอายุ 65 ปีขึ้นไป

FLU VACCINE HIGH DOSE

วัคซีนไข้หวัดใหญ่ HIGH DOSE

ราคา 1 ท่าน : 2,500.-

ราคา 2 ท่าน : 4,777.-


โรคไข้หวัดใหญ่ป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปี ปีละ 1 ครั้ง โดยแนะนำให้ฉีดตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไป โรคไข้หวัดใหญ่อาจมีอาการรุนแรงมากกว่าคนทั่วไปในผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงต่อภาวะแทรกซ้อนในการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่

วัคซีนไข้หวัดใหญ่ HIGH DOSE สำหรับผู้มีอายุ 65 ปีขึ้นไป

โรคไข้หวัดใหญ่ป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปี ปีละ 1 ครั้ง โดยแนะนำให้ฉีดตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไป โรคไข้หวัดใหญ่อาจมีอาการรุนแรงมากกว่าคนทั่วไปในผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงต่อภาวะแทรกซ้อนในการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ ปัจจุบันวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ มีการพัฒนาเพื่อเฉพาะผู้สูงอายุ เป็นชนิด High Dose วัคซีนเป็นเชื้อตายที่มีปริมาณแอนติเจนเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า เมื่อเทียบกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่แบบปกติ ทำให้มีประสิทธิภาพในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดี เพื่อป้องกันและช่วยลดโอกาสการเกิดภาวะแทรกซ้อนได้
ข้อดีของวัคซีนไข้หวัดใหญ่ High Dose สำหรับผู้สูงอายุ
เมื่อเทียบกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่แบบปกติ
  • ช่วยป้องกันไข้หวัดใหญ่ได้มากกว่าวัคซีนขนาดปกติ 24.2%
  • ลดความรุนแรงถึงขั้นนอนโรงพยาบาลจากไข้หวัดใหญ่หรือปอดอักเสบได้ถึง 64.4%
  • ช่วยลดอัตราการเสียชีวิตในผู้สูงอายุได้ถึง 48.9%
  • มีประสิทธิภาพในการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน เพื่อป้องกันและลดโอกาสการเกิดภาวะแทรกซ้อน สำหรับผู้สูงอายุ
วันนี้ - 31 ธันวาคม 2567

โปรแกรมและแพ็คเกจ