รักษาโรคภูมิแพ้โพรงจมูกอักเสบด้วยคลื่นความถี่วิทยุ

รักษาโรคภูมิแพ้โพรงจมูกอักเสบด้วยคลื่นความถี่วิทยุ

รักษาโรคภูมิแพ้ด้วยคลื่นวิทยุ : 20,000.-


การรักษาโรคภูมิแพ้ด้วยคลื่นวิทยุ เป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้เป็นโรคภูมิแพ้

รักษาโรคภูมิแพ้โพรงจมูกอักเสบด้วยคลื่นความถี่วิทยุ

โรคภูมิแพ้
โรคภูมิแพ้ หรือโรคจมูกอักเสบเรื้อรัง ถือว่าเป็นโรคที่พบบ่อยโรคหนึ่งเลยทีเดียวสำหรับคนเมือง สาเหตุของโรค เกิดจากเยื่อบุจมูกมีความไวผิดปกติเมื่อสัมผัสกับสิ่งกระตุ้น ทำให้ผู้ป่วยมีอาการของโรคที่สามารถสังเกตได้ เช่น คันจมูก จามติดต่อกันหลายครั้ง มีน้ำมูกใสไหลตลอดเวลา เสมหะไหลลงคอ จมูกไม่ได้กลิ่นหรือได้กลิ่นลดลง หรืออาจมีอาการอื่นๆ เช่น คันตา คันคอ คันหู หรือคันที่เพดานปาก ปวดศีรษะ ปวดหู หูอื้อ เป็นต้น โดยทั่วไปผู้ป่วยมักบรรเทาอาการด้วยการหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น ร่วมกับการใช้ยารับประทาน การใช้ยาพ่นจมูก และการใช้น้ำเกลือล้างจมูก กรณีที่ผู้ป่วยมีอาการเรื้อรังและไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยาอย่างเต็มที่แล้วนั้นปัจจุบันได้มีการนำเทคโนโลยีคลื่นความถี่วิทยุมาใช้ในการผ่าตัด เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการรักษาโรคภูมิแพ้โพรงจมูกอักเสบซึ่งได้ผลลัพธ์ที่ดีหลังการรักษา
วิธีการรักษา
  • แพทย์จะใช้ยาชาเฉพาะที่ ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล
  • ใช้เวลาในการทำการรักษาประมาณ 20 นาที
  • ลดอาการคัน จาม น้ำมูกไหล และเสมหะในคอจะเห็นผลชัดเจนใน 4-6 สัปดาห์
  • ผลนั้นคงอยู่ได้นานถึง 1-2 ปี
เงื่อนไขการเข้ารับบริการ
  • ราคาแพ็กเกจรวมหัตถการรักษาโรคภูมิแพ้ด้วยคลื่นวิทยุ RF ไม่รวมค่าตรวจวินิจฉัยทางการแพทย์
  • แพ็กเกจดังกล่าวไม่สามารถใช้ร่วมกับสิทธิ์และส่วนลดอื่นๆ ได้ เช่น ผู้ถือหุ้น บริษัทคู่สัญญา บริษัทประกัน
  • กรณีใช้สิทธิประกัน โรงพยาบาลตรวจสอบสิทธิ์ความคุ้มครอง และจัดการเรื่องเอกสารให้ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของบริษัทประกัน
  • ผู้เข้ารับบริการชำระค่าใช้จ่าย ณ โรงพยาบาล ในวันที่เข้ารับบริการ
  • โรงพยาบาลขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
วันนี้ - 31 ธันวาคม 2567

โปรแกรมและแพ็คเกจ

Q&A “รู้เรา เอาชนะภูมิแพ้”

Q&A “รู้เรา เอาชนะภูมิแพ้”

allergry-test-skin
อาการจามบ่อยๆ น้ำมูกไหล ไอเรื้อรัง คันคอ เจ็บคอ คันๆ เกาๆ มีผื่นแดงขึ้นตามตัวหรือบริเวณต่างๆ เรื่องใกล้ตัวที่ควรใส่ใจ หากปล่อยให้เรื้อรังและอาการรุนแรงขึ้น อาจทำให้เสียบุคลิกภาพ เสียสุขภาพจิต เสียสมาธิ และส่งผลกระทบต่อการทำงานหรือการใช้ชีวิตประจำวันได้ไม่มากก็น้อย รู้และเข้าใจโรคภูมิแพ้ เพื่อการรักษาและดูแลอย่างถูกต้อง
ถาม ที่เรียกว่าโรคภูมิแพ้คืออย่างไร เกิดจากสาเหตุอะไร
ตอบ โรคภูมิแพ้เป็นภาวะผิดปรกติที่เกิดจากร่างกายมีความไวต่อสารบางอย่างในสิ่งแวดล้อม เช่น ฝุ่นในบ้าน เชื้อรา ละอองเกสรดอกไม้ เกสรหญ้า ซึ่งปะปนอยู่ในอากาศ ทำให้มีอาการหลังจากสัมผัสสารที่ก่อภูมิแพ้เหล่านั้น มักมีอาการเป็น ๆ หาย ๆ ไม่ขาด และถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้
ถาม โรคภูมิแพ้จะทำให้เกิดอาการกับอวัยวะส่วนใดของร่างกายบ้าง
ตอบ เกิดอาการได้ทุกระบบ ถ้าเกิดกับระบบหายใจส่วนบนจะทำให้เกิดมีอาการที่ชาวบ้านเรียกว่าหวัดเรื้อรัง ถ้าเกิดกับระบบหายใจส่วนล่าง จะทำให้เกิดโรคที่เรียกว่า โรคหอบหืด ถ้าเกิดกับผิวหนังจะทำให้เกิดอาการที่เรียกว่าลมพิษ นอกจากนั้นโรคภูมิแพ้ยังเกิดขึ้นยังเกิดขึ้นกับส่วนอื่นๆ ของร่างกายได้อีก เช่น ที่ตา อาจทำให้เกิดตาแดง ตามัว น้ำตาไหล หรือในระบบทางเดินอาหาร ทำให้ท้องเดิน ท้องเสียบ่อย ท้องอืด
ถาม สถิติการเกิดโรคภูมิแพ้ มีคนเป็นโรคภูมิแพ้กันมากน้อยเพียงใด
ตอบ โรคภูมิแพ้ใดแต่ละส่วนของโลกมีอุบัติการณ์ที่เกิดแตกต่างกันมากน้อยแล้วแต่สิ่งแวดล้อมและกรรมพันธุ์สำหรับคนไทยนั้นจากการสำรวจขององค์การอนามัยโลกเมื่อปี พ.ศ. 2525 พบว่า คนไทยมีอุบัติการณ์เป็นโรคภูมิแพ้ประมาณ 15-20%
ถาม อาการของโรคภูมิแพ้ที่พบบ่อยจะจะเกิดกับส่วนใดของร่างกาย
ตอบ ที่จมูก พบประมาณ 42% ของโรคภูมิแพ้ทั้งหมด รองลงมาคือ ระบบหายใจส่วนล่าง (โรคหอบหืด) พบประมาณ 29 % นอกจากนั้นเป็นโรคภูมิแพ้ที่เกิดในส่วนอื่นๆ
ถาม โรคภูมิแพ้ทางจมูกแบ่งได้เป็นกี่ชนิด ได้แก่อะไรบ้าง ส่วนใหญ่ที่พบเป็นประเภทใด
ตอบ แบ่งเป็น 2 ชนิด คือ ชนิดที่เป็นตลอดปี กับชนิดที่เป็นตามฤดู สำหรับในบ้านเราพบผู้ป่วย ส่วนใหญ่มีอาการหวัดเรื้อรังตลอดทั้งปี พบได้ประมาณ 67% ของผู้ป่วยภูมิแพ้ทางจมูก
ถาม สาเหตุของอาการแพ้ทางหู คอ จมูก เกิดจากอะไร
ตอบ เกิดจากการที่เราหายใจเอาสารก่อภูมิแพ้เข้าไป ได้แก่ ฝุ่น เชื้อรา เกสรดอกไม้ เกสรหญ้า ซึ่งปะปนอยู่ในอากาศ สิ่งเหล่านี้เมื่อไปสัมผัสกับเยื่อบุจมูกทำให้เกิดมีอาการคลั่งของสารต่างๆ ออกมา ที่สำคัญคือ ฮึสตามีน ซึ่งทำให้เกิดอาการน้ำมูกไหลและแน่นจมูก เนื่องจากมีอาการบวมของเยื่อบุจมูก
ถาม สภาพแวดล้อมมีความสำคัญอย่างไรที่จะทำให้ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ทางหู คอ จมูก มีอาการมากขึ้น
ตอบ การเปลี่ยนแปลงลักษณะของอากาศ เช่น อากาศเย็นและอับชื้นจะทำให้ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้บางกลุ่มมีอาการมากขึ้น นอกจากนั้น ผู้ป่วยที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีควันบุหรี่และควันจากท่อไอเสียรถยนต์ จะทำให้ผู้ป่วยมีอาการของโรคภูมิแพ้มากขึ้น
ถาม อาการเฉพาะของโรคภูมิแพ้ทางจมูกมีอะไรบ้าง
ตอบ นอกจากจะทำให้มีอาการทางจมูก เช่น จามบ่อย ๆ น้ำมูกไหล ยังทำให้เกิดอาการไอเรื้อรัง คันคอ เจ็บคอ และหูอื้อได้อีกด้วย
ถาม โรคพวกนี้จะถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์หรือไม่
ตอบ ถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ได้ จากการศึกษาพบว่า ถ้าพ่อหรือแม่คนใดคนหนึ่งเป็นโรคภูมิแพ้ลูกจะมีโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้ 50 % ถ้าทั้งพ่อและแม่เป็นโรคภูมิแพ้ลูกที่เกิดมาจะมีโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้ 75 %
ถาม อาการที่คล้ายกับหวัดจะติดต่อไปยังผู้อื่นได้หรือไม่
ตอบ โรคภูมิแพ้นี้มีคนให้คำจำกัดความไว้ว่าเป็นโรคส่วนตัว ที่เรียกว่าเป็นโรคส่วนตัว หมายถึง ไม่ติดต่อโดยการอยู่ร่วมกัน ไม่ถ่ายทอดจากบุคคลหนึ่งไปยังอีกบุคคลหนึ่งไปยังอีกบุคลหนึ่งได้
ถาม โรคแทรกซ้อนที่มักจะเกิดขึ้นกับผู้ป่วยภูมิแพ้ทางหู คอ จมูก ได้แก่ โรคอะไรบ้าง
ตอบ ที่พบบ่อย คือ เนื้องอกในจมูกที่เรียกว่า ริดสีดวงจมูกอาจมีอาการอักเสบของไซนัสต่างๆ ร่วมด้วยถ้ามีการอุดตันของท่อระบายอากาศของหูชั้นกลางจะทำให้มีอาการหูอื้อได้
ถาม รักษาให้หายขาดได้หรือไม่
ตอบ โรคภูมิแพ้เป็นโรคที่ถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ ไม่สามารถจะรักษาให้หายขาดได้ จุดประสงค์ในการรักษาก็เพื่อให้ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นและป้องกันโรคหรือภาวะแทรกซ้อนต่างๆ จากโรงภูมิแพ้
ถาม หลักในการรักษาเป็นอย่างไร
ตอบ มี 4 ขั้นตอนคือ

  1. แนะนำให้ผู้ป่วยหลีกเลี่ยงสิ่งที่แพ้
  2. การรักษาทางยา เช่น ยาแก้แพ้ ยาลดน้ำมูก
  3. การฉีดยาสร้างภูมิคุ้มกันต่อสารก่อภูมิแพ้
  4. ทำการผ่าตัด ในกรณีที่มีโรคหรือภาวะต่างๆ ที่ร่วมก่ออาการด้วยกัน เช่น ริดสีดวงจมูก เป็นต้น
ถาม ข้อแนะนำเกี่ยวกับโรคภูมิแพ้มีอะไรบ้าง
ตอบ ปัจจุบันการแพทย์ได้เจริญก้าวหน้าอย่างมาก ความทุกทรมานและอันตรายจากโรคภูมิแพ้จะถูกขจัดออกไปได้ถ้าผู้ป่วยและแพทย์ทำความเข้าใจและร่วมมือกันในการรักษา ควรพบแพทย์เพื่อปรึกษาหารือเป็นรายๆไป น่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด
หากสงสัยว่ามีอาการทางร่างกาย เช่น จามบ่อยๆ น้ำมูกไหล อาการไอเรื้อรัง คันคอ เจ็บคอ และหูอื้อ ตาแดง ตามัว น้ำตาไหล ผื่นแดง คัน หรือในระบบทางเดินอาหาร เช่น ท้องเดิน ท้องเสียบ่อย ท้องอืด ควรมาปรึกษาแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้อง โรคภูมิแพ้เป็นโรคเรื้อรังอาจส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจ ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยและครอบครัว การรักษาอย่างถูกวิธีสามารถยกระดับคุณภาพชีวิต และทำให้ผู้ป่วยเข้าร่วมสังคมได้อย่างปกติ

โปรแกรมและแพ็คเกจ

แพคเกจ ทดสอบภูมิแพ้ บนผิวหนัง

รู้และหลีกเลี่ยงสิ่ง […]

อาหารที่เป็นเชื้อรา กับโรคภูมิแพ้

อาหารที่เป็นเชื้อรา กับโรคภูมิแพ้

อาหารที่เป็นเชื้อรา กับโรคภูมิแพ้

เชื้อราส่วนใหญ่จะมีปนเปื้อนในอาหารจำพวกหมักดองและมักจะพบเชื้อราในที่อับชื้นซึ้งผู้ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ควรระมัดระวังและหลีกเลี่ยง อาหารที่มีเชื้อรา เช่น
  1. เนยทุกชนิด รวมทั้งนมเปรี้ยว ครีม ชาดำ
  2. เบียร์ ไวน์ เหล้าทุกชนิด
  3. น้ำซีอิ้ว เต้าเจี้ยว กะปิ เต้าหู้ยี้
  4. เห็ดทุกชนิด
  5. น้ำมะเขือเขือเทศกระป๋อง น้ำผลไม้กระป๋อง (ยกเว้นที่คั้นเอง)
  6. ไส้กรอก
  7. น้ำส้มสายชูและอาหารที่เคล้าน้ำส้มสายชู เช่น ซอสมะเขือเทศ น้ำสลัด
  8. ขนมปัง ขนมเค้ก คุกกี้
  9. แตง มะเขือเทศ
  10. ผลไม้แห้ง
  11. ของหมักดองทุกชนิด
ท่านที่ได้รับการทดสอบภูมิแพ้อยู่ในขณะนี้ สิ่งที่เราทำการทดสอบให้ท่านคือ สิ่งที่ปะปนอยู่ในอากาศ เช่น ละอองเกสรดอกไม้ เชื้อรา ขนของสัตว์เลี้ยง เช่น แมว นก เป็ด ไก่ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดอาการแพ้ได้ เพราะเป็นสิ่งที่ยากต่อการหลีกเลี่ยง ทำให้ท่านเข้าใจว่า "แพ้อากาศ"
อาการของผู้ป่วยภูมิแพ้

การหลีกเลี่ยงต่อสิ่งที่ทำให้แพ้ ตามปกติแล้วการหลีกเลี่ยงต่อสิ่งที่ทำให้ท่านแพ้ที่ผ่านระบบหายใจ เป็นสิ่งที่ทำได้ยาก มักจะทำได้ไม่สมบูรณ์เด็ดขาดเหมือนกรณีที่แพ้อาหาร การหลีกเลี่ยงอย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้เป็นสิ่งที่จำเป็น ถ้าท่านสามารถปฏิบัติได้ อาการต่างๆ เกี่ยวกับโรคที่ท่านเป็นอยู่จะดีขึ้น ซึ่งเป็นผลดีกับตัวท่านเอง ในแง่นี้อาจจะไม่ต้องมารักษาเลย ทั้งเป็นการทุ่นเวลาและทรัพย์ของท่านเองด้วย ในบางครั้งท่านหลีกเลี่ยงจากสิ่งที่แพ้แล้วยังมีอาการเป็นครั้งคราว หรือบางฤดูกาลท่านอาจจะต้องรับประทานยาช่วยเป็นครั้งคราว อย่าลืมว่าการหลีกเลี่ยงจากสิ่งที่แพ้เป็นวิธีที่ดีที่สุด ท่านอาจจะปฏิบัติอย่างเคร่งครัดเต็มที่ตามคำแนะนำไม่ได้ เพราะว่าสิ่งที่ท่านทำนั้นเกี่ยวกับอาชีพของท่านหรือเป็นสิ่งที่ท่านรัก ชอบ อาการเหล่านี้ยังคงรบกวนท่านอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น ท่านจึงควรมารับการทดสอบภูมิแพ้ เพื่อที่จะให้ท่านได้รับการฉีดยาเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน การฉีดยาจำเป็นอาจจะทำให้ร่างกายหายขาดไม่เป็นอีกเลย เพราะว่าท่านไม่เป็นโรคภูมิแพ้ของอย่างหนึ่งอย่างใดเพียงอย่างเดียวแต่ท่านจะแพ้หลายๆ อย่าง ยาที่ฉีดให้ท่านนั้น แพทย์ได้เลือกเฉพาะสิ่งที่ท่านไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ด้วยตนเอง ท่านที่เป็นโรคนี้จำเป็นต้องหมั่นสังเกตอาการของท่าน บางท่านที่แพ้อาจแฝงมาอยู่ในรูปของเครื่องใช้ประจำวันหรืออาหาร โดยไม่มีโอกาสจะทราบได้ ท่านคนเดียวเท่านั้นที่จะช่วยวินิจฉัยการรักษาว่าจะไปในรูปใด
คำแนะนำสำหรับพวกที่แพ้สิ่งที่ปะปนเข้าไปกับลมหายใจ

เช่น ฝุ่น เชื้อรา เกสรดอกไม้
  1. ฝุ่นที่ทำให้ท่านมีอาการ เป็นฝุ่นละอองเล็กๆ ที่เกิดขึ้นในบ้านของท่านเป็นส่วนใหญ่ ฝุ่นที่เกิดจากที่นอน หมอนที่ทำจากนุ่น มุ้ง กองเสื้อผ้า กองหนังสือทิ้งไว้นานๆ พรม ผ้าม่าน ของเหล่านี้เป็นตัวที่ทำให้เกิดฝุ่นอย่างดี
  2. ห้องนอนเป็นห้องที่ท่านได้อยู่ประจำ สมควรที่ท่านจะกำจัดฝุ่นหรือสิ่งที่ท่านแพ้ออกไปให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ห้องนอนควรเป็นห้องสำหรับพักผ่อนจริงๆ ควรจะให้ห้องนั้นโล่งสะดวกแก่การทำความสะอาด การทำความสะอาดควรใช้ผ้าเปียกเช็ด หรือใช้เครื่องดูดฝุ่นบริเวณหลังตู้ ใต้เตียงเป็นที่เก็บฝุ่นอย่างดี ควรจะได้รับการดูแลทำความสะอาดบ่อยๆ
  3. ฝุ่นจากที่นอน หมอน ผ้าห่ม เก้าอี้นวมที่ทำด้วยนุ่น หลังจากใช้ไประยะหนึ่งจะสลายตัวออกเป็นฝุ่นละอองเล็กซึ่งทำให้ท่านแพ้ได้ ถ้าหากสามารถเปลี่ยนเป็นยางได้จะสะดวกแก่การทำความสะอาด หรือจะใช้พลาสติกคลุมไว้จะช่วยไม่ให้ฝุ่นละอองฟุ้งออกมาภายนอก
  4. หลังจากทำความสะอาดให้ห้องนอนแล้ว ควรปิดไม่ให้ฝุ่นจากภายนอกมาสะสมใหม่ การใช้เครื่องปรับอากาศหรือพัดลมดูดอากาศจะช่วยให้อากาศถ่ายเทดีขึ้น ช่วยกำจัดฝุ่น
  5. พยายามทำความสะอาดห้องอื่นๆ ในบ้านท่านด้วย โดยเฉพาะห้องที่ใช้บ่อย ๆ ก็ควรทำความสะอาดเช่นเดียวกับห้องนอน
  6. ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ ไม่ควรทำความสะอาดห้องเอง ไม่ควรอยู่ในบริเวณที่กำลังทำความสะอาดและไม่รื้อของเองเพราะในขณะนั้นฝุ่นมีมากกว่าธรรมดา ถ้าจำเป็นต้องทำควรใช้ผ้าเปียกปิดปากและจมูก เพื่อช่วยกันฝุ่น
  7. ไม่ควรอนุญาตให้สัตว์เลี้ยงทุกชนิดเข้ามาอยู่ในบ้าน เพราะขนสัตว์เลี้ยง เช่น แมว สุนัขจะสะสมเพิ่มปริมาณทำให้เกิดฝุ่น ซึ้งทำให้เกิดภาวะมากขึ้น
ท่านเท่านั้นที่ทราบว่าท่านแพ้อาหารชนิดใด ต้องเป็นตนช่างสังเกตว่ารับประทานอาหารชนิดใดแล้วเกิดอาการแพ้ และท่านต้องไม่ลืมว่าการหลีกเลี่ยงว่าการหลีกเลี่ยงจากสิ่งที่แพ้เป็นการรักษาที่ดีที่สุด

โปรแกรมและแพ็คเกจ

แพคเกจ ทดสอบภูมิแพ้ บนผิวหนัง

รู้และหลีกเลี่ยงสิ่ง […]

พลโท ศ.คลินิก นพ. ภานุวิชญ์ พุ่มหิรัญ

พลโท ศ.คลินิก นพ. ภานุวิชญ์ พุ่มหิรัญ
แพทย์ หู คอ จมูก

พลโท ศ.คลินิก นพ. ภานุวิชญ์ พุ่มหิรัญ

PHANUVICH  PUMHIRUN, M.D.
Specialty
  • โรคภูมิแพ้,โสต นาสิก ลาริงซ์วิทยา
  • โรคภูมิแพ้ทางจมูก,โรคภูมิแพ้ทางผิวหนัง,โรคหืด,โรคภูมิแพ้อาหาร

Language Spoken
  • อังกฤษ, ไทย

ปริญญาบัตรและสถาบันการศึกษา
  • แพทยศาสตรบัณฑิต (พ.บ.) คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
  • วุฒิบัตรสาขา : โสต นาสิก ลาริงซ์วิทยา โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า
  • ประกาศนียบัตร : โสต ศอ นาสิก สถาบัน Georgetown Medical Center U.S.A.
  • Allergy Clinical Immunology สถาบัน Walter Reed Army Medical Center U.S.A
ผลงานด้านวิชาการ/การฝึกอบรม
  • ศาสตราจารย์คลินิก สาขาโสต ศอ นาสิกวิทยา วิทยาลัยแพทย์ศาสตร์พระมงกุฎเกล้า
  • คณะอนุกรรมการฝึกอบรมและสอบสาขาโสต นาสิก ลาริงซ์วิทยา แพทยสภา
  • คณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์
  • ผู้เชี่ยวชาญในการประเมินเอกสารทางวิชาการด้านคลินิก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณะสุข
  • กรรมการพิจารณางานทางวิชาการของผู้ที่สมควรจะได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์คลินิก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
  • กรรมการแพทยสถา
ประสบการณ์ในการทำงาน
  • หัวหน้าภาควิชาโสต นาสิก ลาริงซ์วิทยา กองการศึกษา วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า
  • ผู้อำนวยการกองโสต ศอ นาสิกกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า
  • ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า
  • ผู้บัญชาการโรงเรียนเสนารักษ์
  • เจ้ากรมแพทย์ทหารบก

ตารางออกตรวจ
วัน เวลา
WED 13:00 - 15:00