วัคซีนไวรัสตับอักเสบบี
วัคซีนไวรัสตับอักเสบบี คือวัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี หากมีภูมิคุ้มกันแล้ว
อาจให้ผลป้องกันการติดเชื้อได้ตลอดชีวิต
ผู้ใดควรฉีดวัคซีนตับอักเสบบี
ตามที่ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรค (Centers for disease control and prevention: CDC) แนะนำ
ผู้ที่ยังไม่เคยฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบบีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ทุกคนควรฉีด
โดยเฉพาะกลุ่มคนที่มีโอกาสเสี่ยงรับเชื้อมากกว่าคนทั่วไป ดังนี้
- ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี
- ผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายด้วยกัน
- ผู้ที่ฉีดสารเสพติด
- ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์มากกว่าหนึ่งคนขึ้นไป
- ผู้ที่เป็นโรคตับเรื้อรัง หรือโรคไตเรื้อรัง
- ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานและมีอายุน้อยกว่า 60 ปี
- บุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องสัมผัสเลือดหรือสารคัดหลั่งต่างๆ
- บุคคลในครอบครัวติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี
- ผู้ที่เดินทางไปยังประเทศที่มีการระบาดของไวรัสตับอักเสบบี
- ผู้ติดเชื้อเอดส์
- สตรีตั้งครรภ์ที่มีความเสี่ยงก็สามารถฉีดวัคซีนได้
ผู้ที่ไม่ควรฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบบี
โดยปกติแล้ววัคซีนไวรัสตับอักเสบบีมีความปลอดภัยสูง แต่เช่นเดียวกับวัคซีนหลายๆ ชนิดที่มีข้อยกเว้นบางประการ
และควรแจ้งกับแพทย์ก่อนรับวัคซีน ดังนี้
- ผู้ที่มีอาการแพ้วัคซีนไวรัสตับอักเสบบีอย่างรุนแรงในเข็มแรก
- ผู้ที่ไวต่อยีสต์หรือส่วนประกอบใดๆ ในวัคซีนไวรัสตับอักเสบบี
- ผู้ที่กำลังมีอาการป่วย อาจต้องรอให้หายสนิทก่อนจึงจะมาปรึกษาแพทย์เพื่อฉีดวัคซีนอีกครั้ง
สิ่งที่ต้องแจ้งให้ทราบก่อนฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบบี
เพื่อลดความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดขึ้น
ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบบีหากมีอาการใดๆ ดังต่อไปนี้
- มีไข้ หรือเกิดการติดเชื้อ
- เป็นโรคหัวใจ
- เป็นผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี
- มีปัญหาเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน
- เป็นโรคไต
- อยู่ระหว่างตั้งครรภ์ หรือกำลังพยายามมีลูก
- อยู่ระหว่างให้นมบุตร
แพทย์จะเป็นผู้ประเมินความเหมาะสมว่าควรฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบบี หรือเว้นออกไปก่อน ขึ้นอยู่กับแต่ละคน
ผลข้างเคียงของวัคซีนไวรัสตับอักเสบบี
โดยปกติวัคซีนไวรัสตับอักเสบบีค่อนข้างมีความปลอดภัย แต่บางคนอาจมีผลเคียงเล็กน้อย ดังนี้
- มีผื่นหรือรอยแดงบริเวณที่ฉีด
- ปวดหัว มีไข้
- เวียนหัวคลื่นไส้
- อ่อนเพลีย
- อารมณ์แปรปรวน
- เจ็บคอ น้ำมูกไหล
ข้อควรระวังของวัคซีนไวรัสตับอักเสบบี
ยาบางชนิดอาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของไวรัสตับอักเสบบี หากใช้ยาใดๆ ดังต่อไปนี้ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนฉีดวัคซีน
- ยาที่กดการทำงานของภูมิคุ้มกัน เช่น Adalimumab, Anakinra, Infliximab เป็นต้น
- ยารักษาโรคมะเร็ง
- ยากลุ่มสเตียรอยด์ เช่น Prednisone, Cortisone
อย่างไรก็ตาม รายการดังกล่าวไม่ใช่ทั้งของปัจจัยที่อาจกระทบต่อประสิทธิภาพของวัคซีนได้ การบอกข้อมูลสุขภาพ
ประวัติการใช้ยา อาหารเสริม และสมุนไพรกับแพทย์อย่างครบถ้วน รวมถึงพฤติกรรมการสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ และสารเสพติด
จะช่วยให้แพทย์กำหนดแนวทางได้อย่างเหมาะสมขึ้น