สาระน่ารู้…. อาหารบำบัดโรคหัวใจ
สาระน่ารู้.... อาหารบำบัดโรคหัวใจ
โรคหัวใจ เกิดจากพฤติกรรมการดำเนินชีวิต ซึ่งจะค่อยๆ สะสมและทวีความรุนแรงจนเกิดอาการเรื้อรัง และสาเหตุหนึ่งเกิดจากพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสม เช่น อาหารที่มีปริมาณแป้ง หรือน้ำตาลมากเกินไป หากกินเข้าไปมาก ร่างกายได้รับน้ำตาลมากเกินไป ร่างกายก็จะเปลี่ยนน้ำตาลเป็นไขมันที่มีชื่อว่า "ไตรกลีเซอไรด์" เมื่อเกิดไขมันสะสมทำให้เป็นโรคอ้วนและเสี่ยงเป็นโรคหัวใจได้ การเลือกกินอาหารที่ดีมีประโยชน์และมีสัดส่วนที่เหมาะสมต่อร่างกายจึงเป็นสิ่งสำคัญซึ่งเราสามารถเลือกกินอาหารอย่างเหมาะสมเพื่อป้องกันความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจได้ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง
- ควรควบคุมการปรุงรสเค็มในอาหาร เนันการปรุงรสอ่อนๆ และหลีกเลี่ยงการเติมเครื่องปรุงรสเพิ่มในขณะรับประทาน เช่น น้ำปลา เกลือ ชี่อิ๊ว ซอสปรุงรส (ปริมาณโซเดียมในการปรุงรส/วันไม่ควรเกิน 2000 มิลลิกรัม/วัน)
- รับประทานอาหารที่มีไขมันหรือน้ำมันน้อย เลือกวีธีการหุงต้มอาหารแบบ ต้ม ตุ๋น นึ่ง อบ ยำหรือผัดน้ำมันน้อย
- ควรใช้น้ำมันพืชชนิดกรดไขมันไม่อิ่มตัว unsaturatedfatty acid) ในการประกอบอาหาร เช่น น้ำมันมะกอกน้ำมันรำข้าว น้ำมันถั่วเหลือง (ในปริมาณวันละ 5-7 ช้อนชา)
- เน้นการรับประทานเต้าหู้ และเนื้อปลาบ่อยๆ โดยเฉพาะ ปลาทะเล เช่น ปลาทู ปลาซาบะ ปลาโอ ปลาทูน่าปลาแซลมอน จะช่วยในการเพิ่มไขมันดีในเลือด (HDLและลดระดับไขมันไม่ดีในเลือด (LDL, Triglyceride)
- รับประทานผักและผลไม้ไม่หวานจัดเป็นประจำทุกมื้อและให้หลากหลาย (ผักและผลไม้ไม่ควรน้อยกว่า 400 กรัม/วัน)
- หลีกเลี่ยงอาหารที่ผ่านกรรมวิธีการถนอมอาหารหรือแปรรูป รวมทั้งอาหารหมักดองทั้งหลาย เพราะจะมีปริมาณของเกลือหรือโซเดียมสูง เช่น ไข่เค็ม ปลาเค็ม ผักดอง อาหารกระป๋องหรือผักผลไม้ที่แปรรูป หากมีความจำเป็นต้องซื้ออาหารสำเร็จรูปควรอ่านฉลากที่ติดมากับอาหารก่อน หลีกเลี่ยงอาหารที่มีส่วนผสมของโซเดียมและผงชูรสในปริมาณสูง
- หลีกเลี่ยงอาหารที่มีส่วนผสมเกลือและผงชูรสสูง เช่น ขนมขบเคี้ยว บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ถั่วอบเนย ข้าวโพดคั่ว
- หลีกเลี่ยงน้ำมันชนิดกรดไขมันชนิดอิ่มตัวสูง saturated fatty acid) เช่น น้ำมันปาล์ม น้ำมันมะพร้าว กะทิ น้ำมันหมู,ไก่
- หลีกเลี่ยง เนื้อสัตว์ติดมัน ติดหนัง และอาหารที่มี ไขมันสูง เช่น อาหารทอดต่างๆ ข้าวมันไก่ แกงกะทิ ปาท่องโก๋ กล้วยแขก ข้าวขาหมู ผัดไทย หอยทอด
- หลีกเลี่ยง อาหารที่มีโคเลสเตอรอลสูง เช่น ไข่แดง ผัดซีอิ๊ว ปลาหมึก เนื้อสัตว์ติดมัน ติดหนัง เครื่องในสัตว์
- หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันทรานซ์สูง (Trans fatty acid) เช่น พาย โดนัท ขนมขบเคี้ยว เนยเทียม มาการีน
- หลีกเลียงการรับประทานอาหารหวานหรือที่มีน้ำตาลสูงหรือขนมเบเกอรี่ต่างๆ เช่น ขนมหวานชนิดต่างๆ น้ำหวาน น้ำผลไม้ต่างๆ น้ำอัดลม
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มประเภท ชา กาแฟ เพราะมีส่วน ผสมของคาเฟอีน
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มชูกำลังหรือเครื่องดื่มเกลือแร่
- งดการสูบบุหรี่ และงดเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ทุกชนิด
- ออกกำลังกายให้เหมาะสมกับวัยและสุขภาพ (ภายใต้คำแนะนำของแพทย์)
- ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมการหาค่าดัชนีมวลกาย (BMI) = น้ำหนัก (กก.) / ส่วนสูง x ส่วนสูง (เมตร)
การแปลผลค่าดัชนีมวลกาย (BMI) |
||
---|---|---|
ค่าดัชนีมวลกาย |
เกณฑ์น้ำหนัก |
พลังงานที่ต้องการน้ำหนักตัว 1 กก./วัน |
น้อยกว่า 18.5 | น้ำหนักตัวน้อยกว่าปกติ | 40 กิโลแคลอรี่ |
18.5-22.9 | น้ำหนักตัวปกติ | 30 กิโลแคลอรี่ |
23-24.9 | ท้วม | 25 กิโลแคลอรี่ |
25-29.9 | น้ำหนักตัวเกิน | 40 กิโลแคลอรี่ |
30 ขึ้นไป | โรคอ้วน | 20 กิโลแคลอรี่ |
แนวทางการเลือกรับประทานอาหาร
ประเภทเครื่องดื่ม |
|
---|---|
ตัวอย่างอาหารที่ควรเลือกรับประทาน |
ตัวอย่างอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง |
นมพร่องไขมัน | ชา กาแฟ |
นมขาดไขมัน | น้ำอัดลม |
น้ำเต้าหู้ | โอเลี้ยง |
เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ |
ประเภทอาหาร |
|
---|---|
ตัวอย่างอาหารที่ควรเลือกรับประทาน |
ตัวอย่างอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง |
ข้าวหน้าปลาอย่าง | ข้าวขาหมู ข้าวคากิ |
ข้าวต้มปลา | ข้าวมันไก่ |
โจ๊ก | แกงเขียวหวาน แกงกะทิ |
สลัดผักราดโยเกิรต์ | หอยทอด |
ก๋วยเตี๋ยวน้ำ | คอหมูย่าง |
ก๋วยเตี๋ยวราดหน้า | หนังไก่ทอด,แคบหมู |
ปลานึ่ง | แหนม ปลาส้ม |
สเต็กปลา | กล้วยแขก |
แกงส้ม แกงปลา | ปาท่องโก๋ |
ทองหยอด ทองหยิบ | |
ฝอยทอง เม็ดขนุน |
อาหาร มีความสำคัญต่อสุขภาพ แต่อาหารบางชนิดก็ไม่ได้เหมาะสำหรับกลุ่มอายุ และโรคบางอย่าง ดังนั้นควรศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับอาหารเฉพาะโรค เพื่อช่วยบำรุงและรักษาสุชภาพ และป้องกันการเกิดโรคแทรกซ้อน ที่อาจเป็นอันตรายในอนาคต