ดูแลระบบทางเดินอาหารด้วยโปรแกรม “ส่องกล้อง อุ่นใจ”

ดูแลระบบทางเดินอาหารด้วยโปรแกรม "ส่องกล้อง อุ่นใจ"

โปรแกรมส่องกล้อง หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ลำไส้เล็กส่วนต้น

โปรแกรมส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่

โปรแกรส่องกล้องกระเพาะอาหารและลำไส้ใหญ่


จุกเสียด แน่นท้อง ท้องผูก ท้องเสียเรื้อรัง น้ำหนักลด

โปรแกรมคัดกรอง “ ส่องกล้อง อุ่นใจ ” (ไม่พักค้างคืน)

ส่องกล้อง หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ลำไส้เล็กส่วนต้น
EGD/GASTROSCOPY
11,500.-
18,000.-
ให้ยานอนหลับโดยวิสัญญีแพทย์
ส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่
COLONOSCOPY
16,500.-
24,500.-
ให้ยานอนหลับโดยวิสัญญีแพทย์
ส่องกล้องกระเพาะอาหาร และลำไส้ใหญ่
EGD+COLONOSCOPY
25,500.-
32,500.-
ให้ยานอนหลับโดยวิสัญญีแพทย์
เงื่อนไขการใช้บริการ
  • เป็นโปรแกรมแบบผู้ป่วยนอก รวม ค่าแพทย์ ค่ายา เวชภัณฑ์ อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำหัตถการในห้องผ่าตัด ไม่รวมค่าใช้จ่ายดังต่อไปนี้
    1. การตัดชิ้นเนื้อ
    2. การส่งตรวจชิ้นเนื้อ
    3. การรักษาภาวะเลือดออก
    4. ค่าใช้จ่ายในการเตรียมตัวก่อนทำหัตถการ (ยา/เวชภัณฑ์/Lab/X-ray/ค่าแพทย์และอื่นๆที่นอกเหนือจากการทำหัตถการในห้องผ่าตัด)
    5. ยาที่ไม่เกี่ยวข้องกับหัตถการ
    6. เวชภัณฑ์และยากลับบ้าน
  • โปรแกรมนี้ใช้เพื่อการตรวจวินิจฉัยและการตรวจสุขภาพประจำปีเท่านั้น ไม่สามารถใช้เพื่อการรักษา
  • ปรแกรมนี้ไม่สามารถใช้ร่วมกับผู้ที่มีสิทธิ์เบิกประกันชีวิต/ประกันสุขภาพ
วันนี้ - 30 มิถุนายน 2568

โปรแกรมและแพ็คเกจ

วัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบ

วัคซีนป้องกันโรคตับอ […]

โปรแกรมตรวจสุขภาพตับ

โปรแกรมตรวจสุขภาพตับ […]

โปรแกรมตรวจสุขภาพ Healthy Family

โปรแกรมตรวจสุขภาพ He […]

วัคซีนโควิด-19 รุ่นใหม่ล่าสุด

วัคซีน COVID-19 JN.1 ปี 2025 : 2,222.- (ไม่รวมค่าแพทย์และค่าบริการ)


วัคซีน COVID-19 JN.1 ปี 2025 วัคซีนรุ่นล่าสุดที่ WHO แนะนำให้ใช้ป้องกัน COVID-19 เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน

วัคซีนโควิด-19 รุ่นใหม่ล่าสุด

COVID-19
วัคซีน COVID-19 JN.1 ปี 2025 วัคซีนรุ่นล่าสุดที่ (MRNA) WHO แนะนำให้ใช้ป้องกัน COVID-19
ปัจจุบันปี 2568 ประเทศไทยยังควมีจำนวนผู้ป่วย Covid-19 เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากรายงานของกระทรวงสาธารณสุข วันที่ 4-8 พฤษภาคม 2568 พบว่า มีผู้ป่วยรายใหม่ที่รักษาตัวในโรงพยาบาล 7,013 ราย เสียชีวิต 1 ราย (เฉลี่ย 1,001 ราย/วัน) โดยพบอัตราป่วยสูงสุดในกลุ่มอายุ 0-4 ปี รองลงมากลุ่มอายุ 30-39 ปี และกลุ่มอายุ 20-29 ปี ตามลำดับ ส่วนผู้เสียชีวิตมีอายุ 60 ปีขึ้นไป
ซึ่งหมายถึง ผู้ที่อายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป มีโรคร่วม 7 โรค (โรคหลอดเลือดสมองโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง โรคไตรื้อรัง โรคอ้วน โรคมะเร็ง และโรคเบาหวาน) และอีก 1 กลุ่ม คือ หญิงตั้งครรภ์
การป้องกันโควิด-19 ที่ยังแนะนำ คือ การใส่หน้ากากอนามัย การไม่ไปสถานที่แออัดโดยไม่จำเป็น การเว้นระยะห่าง และการล้างมือบ่อย ๆ แต่วิธีการเหล่านี้อาจจะไม่สามารถป้องกันโควิด-19 ได้ ดังนั้น วัคซีนโควิด-19 จึงเป็นอีกเครื่องมือหนึ่งที่เสริมสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันการเป็นโควิด- 19 รวมถึงป้องกันการเป็นโรคที่รุนแรง ดังนั้น สมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทยและราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย จึงแนะนำให้กลุ่ม 608 และบุคลากรทางการแพทย์ที่ให้การดูแลกลุ่ม 608 รับวัคซีนโควิด-19 รุ่นใหม่ 1 เข็ม
ข้อมูล:

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข - สถานการณ์ Covid-19 ปัจจุบัน

 
ทำไมต้องวัคซีน COVID-19 JN.1 2025
    1. ป้องกันการติดเชื้อสายพันธุ์ที่ระบาดในปัจจุบัน
    2. กระตุ้นภูมิคุ้มกันที่มีต่อ สายพันธุ์ JN.1 (สายพันธุ์ปัจจุบัน)
    3. ลดการป่วยหนักที่ต้องนอนโรงพยาบาล
    4. ลดการป่วยรุนแรงในกลุ่ม 608 ได้แก่ โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง โรคอ้วน โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน และสตรีตั้งครรภ์
    5. ลดการป่วยรุนแรงที่ต้องเข้าไอซียู ในผู้สูงอายุ (60 ปีขึ้นไป)

*เทียบกับผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน

รายการ
วัคซีนโควิด-19 รุ่นใหม่ล่าสุด
VACCINE  COVID-19 JN.1  2025
2,222.-
(ไม่รวมค่าแพทย์และค่าบริการ รพ.)

 

วันนี้ - 31 ธันวาคม 2568

โปรแกรมและแพ็คเกจ

วัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบ

วัคซีนป้องกันโรคตับอ […]

โปรแกรมตรวจสุขภาพตับ

โปรแกรมตรวจสุขภาพตับ […]

โปรแกรมตรวจสุขภาพ Healthy Family

โปรแกรมตรวจสุขภาพ He […]

โปรแกรมลดปวดด้วย Shockwave

การรักษาอาการปวดด้วยเครื่อง Shockwave Therapy


ทางเลือกสำหรับผู้ที่มีอาการปวดเรื้อรัง สามารถเห็นผลได้ทันทีหลังรักษา (ในกรณีที่เป็นในระดับความรุนแรงเล็กน้อยหรือเพิ่งเริ่มมีอาการ)

การรักษาอาการปวดด้วยเครื่อง Shockwave Therapy

Shockwave Therapy
คลื่นกระแทก (Shockwave) ทางเลือกสำหรับผู้ที่มีอาการปวดเรื้อรัง หลักการทำงานของเครื่อง Shockwave จะส่งคลื่นกระแทกที่ลึกและมีความถี่เข้าไปในบริเวณที่มีอาการปวด เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการซ่อมแซมเนื้อเยื่อและกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารมาลดอาการปวดในบริเวณกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นที่มีปัญหา สามารถเห็นผลได้ทันทีหลังรักษา (ในกรณีที่เป็นในระดับความรุนแรงเล็กน้อยหรือเพิ่งเริ่มมีอาการ)
Shockwave ช่วยรักษาอาการอะไรบ้าง
ประโยชน์ของการรักษาอาการปวดทางการแพทย์ นิยมใช้เทคโนโลยี Shockwave Therapy เพื่อรักษาอาการ 3 อาการหลักคือ
  1. อาการออฟฟิศซินโดรม
    อาการออฟฟิศซินโดรมเกิดจากการนั่งทำงานเป็นเวลานาน ขาดการลุกออกจากที่นั่งเพื่อยืดเส้นยืดสายรวมถึงนั่งในท่าที่ผิดสรีระจะก่อให้เกิดอาการ ปวดหลัง ปวดคอ บ่า ไหล่ ปวดข้อมือปวดหลัง ปวดเอว ปวดแขนขา ปวดกราม ต้นคอ ปวดข้อมือ ฝ่ามือ ไมเกรน อาการเหล่านี้สามารถรักษาได้ด้วย Shockwave ปวดคอ บ่า ไหล่
  2. อาการเส้นเอ็นอักเสบ
    อาการเส้นเอ็นอักเสบเกิดจากการใช้งานซ้ำที่ทำให้เกิดความเครียดต่อเส้นเอ็น อาการเส้นเอ็นอักเสบ เช่น เอ็นข้อมืออักเสบ เอ็นหัวไหล่อักเสบจากหินปูนเกาะ เอ็นเข่าอักเสบ ปลอกหุ้มเส้นเอ็นข้อมืออักเสบ เอ็นร้อยหวายอักเสบ เอ็นฝ่าเท้าอักเสบ
  3. อาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง
    อาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรังเกิดจากการใช้มัดกล้ามเนื้อผิดท่าทางซ้ำๆ เป็นเวลานาน จนเกิดความผิดปกติในการหดตัว อาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง เช่น พังผืดทับเส้นประสาท ปวดสะโพกร้าวลงขา อาการปวดร้าวบริเวณสะบัก อาการเอ็นอักเสบเรื้อรัง อาการปวดข้อเข่าในนักกีฬากระโดดสูง อาการปวดข้อไหล่ อาการปวดส้นเท้า อาการอักเสบของกล้ามเนื้อบริเวณสันหน้าแข้ง อาการปวดข้อศอกด้านนอก
นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด กระตุ้นให้เกิดการสร้างหลอดเลือดใหม่ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ยับยั้งกระบวนการอักเสบ ลดอาการปวดกล้ามเนื้อ จุดเจ็บได้รับการผ่อนคลาย สลายหินปูนในเส้นเอ็น กระตุ้นให้ร่างกายเกิดอาการบาดเจ็บใหม่ จนเกิดกระบวนการซ่อมแซมเนื้อเยื่อของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นใหม่
ผลที่ได้จากการรักษาและระยะในเวลาการรักษา
ผู้ป่วยจะมีอาการปวดลดลงเกือบ 50% หรือบางรายหายปวดหลังทำการรักษาในครั้งแรก (ในกรณีที่เป็นในระดับความรุนแรงเล็กน้อยหรือเพิ่งเริ่มมีอาการ) จากนั้นควรเว้นระยะห่างการรักษาครั้งถัดไป 1- 2 สัปดาห์ เพื่อให้เวลาร่างกายซ่อมแซมการอักเสบเรื้อรังที่เป็นอยู่โดยธรรมชาติ โดยจำนวนครั้งในการรักษาทั้งหมดอยู่ที่ 2-5 ครั้งแล้วแต่ความรุนแรงของอาการ
โปรแกรม Shockwave Therapy ลดปวดเรื้อรัง ด้วย Shockwave
อัตราค่าบริการ Shockwave
รายการ
จำนวน
ราคา
A
1,000 shot
800.-
B
1,500 shot
1,200.-
C
2,000 shot
1,600.-
D
2,500 shot
2,000.-
E
3,000 shot
2,400.-
เงื่อนไขการเข้ารับบริการ
  • ราคาแพ็กเกจรวมค่าประเมินอาการโดยนักกายภาพบำบัด
  • ราคาแพ็กเกจไม่รวมค่าตรวจวินิจฉัยทางการแพทย์ ในการเข้ารับบริการครั้งแรก
  • กรุณาใช้บริการภายใน 90 วัน นับจากวันที่ซื้อ แพ็กเกจดังกล่าวไม่สามารถใช้ร่วมกับสิทธิ์และส่วนลดอื่นๆ ได้
  • ขอสงวนสิทธิ์ใช้เฉพาะผู้ที่ชำระเงินเท่านั้น และไม่สามารถคืนเงินได
  • โรงพยาบาลขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
วันนี้ - 31 ธันวาคม 2568

โปรแกรมและแพ็คเกจ

ฝึกกลืนด้วยเครื่องกระตุ้นไฟฟ้า

ฝึกกลืนด้วยเครื่องกร […]

โปรแกรมลดปวดด้วย Shockwave

การรักษาอาการปวดด้วย […]

โปรแกรมตรวจสุขภาพสำหรับเด็ก

โปรแกรมตรวจสุขภาพสำหรับเด็ก


การตรวจสุขภาพเด็กในทุกช่วงวัยเป็นสิ่งสำคัญ เพราะแต่ละช่วงวัยจะมีการพัฒนาการ และความแข็งแรงสมบูรณ์ของร่างกายที่แตกต่างกันออกไป การตรวจสุขภาพจึงเป็นการประเมินการเจริญเติบโตและติดตามเฝ้าระวังด้านพัฒนาการเป็นระยะๆ

โปรแกรมตรวจสุขภาพสำหรับเด็ก

Health check program for children
การตรวจสุขภาพเด็กในทุกช่วงวัยเป็นสิ่งสำคัญ เพราะแต่ละช่วงวัยจะมีการพัฒนาการ และความแข็งแรงสมบูรณ์ของร่างกายที่แตกต่างกันออกไป การตรวจสุขภาพเป็นการประเมินการเจริญเติบโตและติดตามเฝ้าระวังด้านพัฒนาการเป็นระยะๆ ทั้งโภชนาการที่สมกับวัย รวมถึงสุขภาพสายตาและสุขภาพฟัน โดยเฉพาะในส่วนของสมอง ซึ่งหากเกิดความผิดปกติเกิดขึ้นในระยะนี้ จะส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโต และสติปัญญาในระยะยาว หากพบความผิดปกติแพทญ์จะช่วยให้ดูแลรักษาได้ทันท่วงที
รายการตรวจ
Program
1
Program
2
Program
3
Program
4
ตรวจสุขภาพทั่วไปโดยแพทย์
(Physical Examination)
ตรวจวัดระดับการมองเห็น
(Visual acuity หรือ VA)
เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
ตรวจสุขภาพฟัน
เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
ตรวจวัดค่าดัชนีมวลกาย
(BMI)
ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด
(CBC)
ตรวจสมรรถภาพการทำงานของไต
(BUN, Creatinine)
ตรวจสมรรถภาพการทำงานของตับ
(SGOT, SGPT, Alk)
ตรวจปัสสาวะสมบูรณ์แบบ
(UA)
ตรวจหาเชื้อไวรัสตับอับเสบ บี
(HBsAg)
ตรวจหาภูมิคุ้มกันไวรัสตับอักเสบ บี
(HBsAb)
ตรวจไธรอยด์ฮอร์โมน
(TSH, FT4)
ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด
(FBS)
ตรวจวัดระดับไขมันในเลือด - โคเลสเตอรอล
(Cholesterol)
ตรวจวัดระดับไขมันในเลือด -ไตรกลีเซอร์ไรด์
(Triglyceride)
ตรวจหาไขมันโคเลสเตอรอลชนิดดี
(HDL-C)
ตรวจหาไขมันโคเลสเตอรอลชนิดเลว
(LDL-C)
ราคาปกติ
2,388.-
2,988.-
3,480.-
4,560.-
ราคาแพ็กเกจ
1,990.-
2,490.-
2,900.-
3,800.-
รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาล
วันนี้ - 31 ธันวาคม 2568

โปรแกรมและแพ็คเกจ

ปกป้องคุณและคนที่คุณรักด้วยวัคซีนทุกช่วงวัย

ปกป้องคุณและคนที่คุณรัก ด้วยวัคซีน

"ปกป้องคุณและคนที่คุณรัก ด้วยวัคซีนทุกช่วงวัย"


การฉีดวัคซีนเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันโรค ลดความเสี่ยงในการพักรักษาโรงพยาบาล และลดค่าใช้จ่าย ในการรักษา การฉีดวัคซีนไม่ใช่เฉพาะเด็กเท่านั้นที่ควรได้รับ ผู้ใหญ่ก็เช่นกัน วัคซีนอาจไม่ไกลตัวอย่างที่คุณคิด เพราะโรคติดเชื้อหลายชนิดป้องกันได้ถ้าคุณมีภูมิต้านทานที่ดี การได้รับวัคซีนที่ถูกต้องเหมาะสม สามารถปกป้องคุณและคนที่คุณรักได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดัน โรคหัวใจ เป็นต้น

แพ็กเกจวัคซีนทุกช่วงวัย

สำหรับทุกช่วงวัย
แพทย์แนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรค การฉีดวัคซีนป้องกัน ช่วยให้บรรเทาอาการของโรคและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง นอกจากนี้ยังลดโอกาสเสี่ยงการแพร่กระจายเชื้อไปสู่คนอื่น ในวัยผู้ใหญ่ภูมิคุ้มกันจะลดลงตามอายุที่มากขึ้น จึงต้องมีการกระตุ้นด้วยการฉีดวัคซีน หรืออาจจะเป็นเพราะเชื้อโรคนั้นมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง หรือสายพันธุ์ใหม่ เช่น ไข้หวัดใหญ่ ซึ่งเป็นโรคที่ติดต่อได้ง่ายและระบาดเป็นประจำ โดยเฉพาะผู้สูงอายุและเด็กเล็กจะมีความรุนแรง อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ มากกว่าคนในวัยหนุ่มสาว
รายการ
ราคา
วัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์
สำหรับผู้ที่มีอายุ 7 เดือนขึ้นไป
ควรฉีดป้องกันปีละ 1 ครั้ง (กรณียังไม่รับวัคซีนมาก่อนแนะนำให้ฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 1 เดือน)
849.-
รวมค่าแพทย์
และค่าบริการโรงพยาบาล
วัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ High Dose
สำหรับผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป
ควรฉีดป้องกันปีละ 1 ครั้ง
2,500.-
รวมค่าแพทย์
และค่าบริการโรงพยาบาล
วัคซีนไข้เลือดออก
สำหรับผู้ที่มีอายุ 4 ปี - 60 ปี
สามารถฉีดได้ทั้งคนที่เคยเป็น และไม่เคยเป็นโรคไข้เลือดออกฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 3 เดือน
4,777.-
รวมค่าแพทย์
และค่าบริการโรงพยาบาล
วัคซีนสุกใส (1 เข็ม)
สำหรับผู้ที่มีอายุ 1 ปี
ควรฉีดในผู้ที่ไม่เคยได้รับวัคซีนหรือไม่เคยเป็นอีสุกอีใสมาก่อน ห่างกันอย่างน้อย 4-8 สัปดาห์
1,700.-
ไม่รวมค่าแพทย์
และค่าบริการโรงพยาบาล
วัคซีนตับอักเสบ บี - 1 เข็ม
สำหรับเด็กแรกเกิด และทุกช่วงวัยที่มีความเสี่ยง
โดยแพทย์จะพิจารณาตรวจภูมิคุ้มกันก่อนให้วัคซีน
660.-
ไม่รวมค่าแพทย์
และค่าบริการโรงพยาบาล
วัคซีนตับอักเสบ บี - 3 เข็ม
สำหรับเด็กแรกเกิด และทุกช่วงวัยที่มีความเสี่ยง
โดยแพทย์จะพิจารณาตรวจภูมิคุ้มกันก่อนให้วัคซีน
1,980.-
ไม่รวมค่าแพทย์
และค่าบริการโรงพยาบาล
วัคซีนตับอักเสบ เอ - 1 เข็ม
สำหรับเด็กอายุ 1 ปี 6 เดือน - 14 ปี
1,300.-
ไม่รวมค่าแพทย์
และค่าบริการโรงพยาบาล
วัคซีนตับอักเสบ เอ - 2 เข็ม
สำหรับเด็กอายุ 1 ปี 6 เดือน - 14 ปี
เข็มที่ 2 ฉีดห่างจากเข็มที่ 1 ประมาณ 6 - 12 เดือน แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนใช้บริการ
2,200.-
ไม่รวมค่าแพทย์
และค่าบริการโรงพยาบาล
วัคซีนตับอักเสบ เอ - 1 เข็ม
สำหรับผู้ใหญ่อายุ 14 ปีขึ้นไป
2,200.-
ไม่รวมค่าแพทย์
และค่าบริการโรงพยาบาล
วัคซีนตับอักเสบ เอ - 2 เข็ม
สำหรับผู้ใหญ่อายุ 14 ปีขึ้นไป
เข็มที่ 2 ฉีดห่างจากเข็มที่ 1 ประมาณ 6 - 12 เดือน แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนใช้บริการ
3,900.-
ไม่รวมค่าแพทย์
และค่าบริการโรงพยาบาล
วัคซีนบาดทะยัก - 1 เข็ม
สำหรับผู้ที่มีอายุ 10 ปีขึ้นไป และกระตุ้นทุก 10 ปี
360 - 420.-
ไม่รวมค่าแพทย์
และค่าบริการโรงพยาบาล
วัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบ 13 สายพันธุ์
ผู้สำหรับผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป
หรือ ในผู้ป่วยอายุ 19 - 59 ปีที่มีโรคดังต่อไปนี้
  • โรคหัวใจ
  • โรคหอบหืด
  • โรคตับแข็ง
  • โรคไตวายเรื้อรัง
  • ผู้ป่วยโรคเบาหวาน
ฉีด 1 เข็มป้องกันตลอดชีวิต
3,250.-
ไม่รวมค่าแพทย์
และค่าบริการโรงพยาบาล
วัคซีนป้องกันโรคปอดบวม 20 สายพันธุ์
สำหรับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป - 1 เข็ม
4,250.-
ไม่รวมค่าแพทย์
และค่าบริการโรงพยาบาล
วัคซีนป้องกันโรคระบบทางเดินหายใจ RSV - 1 เข็ม
สำหรับผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป หรือผู้ที่มีโรคประจำตัวในช่วงอายุ 50 - 59 ปี
9,500.-
รวมค่าแพทย์
และค่าบริการโรงพยาบาล
วัคซีนงูสวัด - RZV(ชนิดใหม่)
สำหรับผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป
ฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 2 – 6 เดือน
1 เข็ม - 5,990.-
2 เข็ม - 11,900.-
รวมค่าแพทย์
และค่าบริการโรงพยาบาล
วัคซีนมะเร็งปากมดลูก(HPV vaccine)
แบบ 4 สายพันธ์ุ - 2 เข็ม
  • สำหรับผู้ที่มีอายุ 9 - 14 ปี
แบบ 4 สายพันธ์ุ - 3 เข็ม
  • สำหรับผู้ที่มีอายุ 15 - 26 ปี
แบบ 9 สายพันธ์ุ - 2 เข็ม
  • สำหรับผู้ที่มีอายุ 9 - 14 ปี
แบบ 9 สายพันธ์ุ - 3 เข็ม
  • สำหรับผู้ที่มีอายุ 15 - 26 ปี
5,900 - 18,500.-
รวมค่าแพทย์
และค่าบริการโรงพยาบาล
ปกป้องคุณและคนที่คุณรัก ด้วยวัคซีนทุกช่วงวัย

รายละเอียดเพิ่มเติม

วัคซีนไข้หวัดใหญ่ (Influenza Vaccine)
ไข้หวัดใหญ่ เป็นโรคที่ติดต่อได้ง่ายและระบาดเป็นประจำ โดยไข้หวัดใหญ่ในผู้สูงอายุจะมีความรุนแรงกว่าคนอายุน้อย และเกิดภาวะแทรกซ้อนได้บ่อย และคนที่มีโรคประจำตัว เช่น ปอดอักเสบ ภาวะหัวใจขาดเลือด และภาวะหัวใจวาย มีอัตราการนอนโรงพยาบาล และอัตราการเสียชีวิตสูง
แนะนำฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ เป็นประจำทุกปี ปีละครั้งในสายพันธุ์ ที่ระบาดในปีนั้น ในช่วงปลายฤดูฝนถึงช่วงฤดูหนาว
วัคซีนมะเร็งปากมดลูก(HPV vaccine)
มะเร็งปากมกลูกมีสาเหตุจากการติดเชื้อ ซึ่งเป็นการติดต่อทางเพศสัมพันธ์ การตรวจแปปสเมียร์ เป็นการตรวจหาความผิดปกติของปากมดลูก ไม่เพียงแต่เพศหญิงแค่นั้นที่ติดโรคเชื้อไวรัสเอชพีวีได้ ผู้ชายก็สามารถติดเชื้อชนิดนี้ได้เช่นกัน ปัจจุบันเราสามารถลดช่องความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งได้อย่างไม่ยากเย็นด้วยการฉีดป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูก (HPV)
แนะนำฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ เป็นประจำทุกปี ปีละครั้งในสายพันธุ์ ที่ระบาดในปีนั้น ในช่วงปลายฤดูฝนถึงช่วงฤดูหนาว
อายุ 9-14 ปี 11 เดือน ฉีด 2 เข็ม
อายุ 15-45 ปี ฉีด 3 เข็ม
สามารถป้องกันการติดเชื้อภายใน 1 เดือน หลังจากได้รับวัคซีนครบ 3 เข็ม
วัคซีนไวรัสตับอักเสบ เอ(Hepatitis A Vaccine)
เป็นโรคตับที่เกิดจากเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดเอ ซึ่งมักจะพบในอุจจาระของคนที่เป็นโรคตับอักเสบเอ และมักจะติดต่อโดยการใกล้ชิดกับคนที่เป็น หรือจากการรับประทานอาหาร หรือดื่มน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัสตับอักเสบเออยู่ ผู้ที่เป็นโรคตับอักเสบเอ สามารถแพร่เชื้อให้กับบุคคลใกล้ชิดได้ง่าย
ฉีดได้ตั้งแต่ 1 ปี 6 เดือนขึ้นไป และในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป
วัคซีนโรคปอดอักเสบ (Pneumococcal Vaccine)
เชื้อแบคทีเรียนิวโมคอคคัส เป็นเชื้อที่มีความรุนแรงสูง และเป็นสาเหตุหลักของโรคปอดอักเสบ รวมถึงเป็นสาเหตุของไซนัสอักเสบ หูชั้นกลางอักเสบ สำหรับผู้สูงอายุ และผู้ทีมีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคปอด โรคหัวใจ โรคตับ โรคไต โรคมะเร็ง ผู้ติดเชื้อ HIV ผู้ที่ได้รับยากดภูมิ และผู้ป่วยที่ไม่มีม้าม อาจติดเชื้อรุนแรงถึงขั้นเยื่อหุ้มสมองอักเสบ และติดเชื้อในกระแสเลือด
ควรฉีดวัคซีนโรคปอดอักเสบ คือ ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป หรือในผู้ป่วยอายุ 19-64 ปีที่มีโรคหัวใจ โรคหอบหืด โรคถุงลมโป่งพอง โรคตับแข็ง โรคไตวายเรื้อรัง ผู้ป่วยโรคเบาหวาน
วัคซีนอีสุกอีใส Varicella (Chicken pox)
โรคอีสุกอีใสเป็นโรคติดเชื้อที่ผู้ป่วยมักมีอาการไม่รุนแรง โดยเฉพาะในเด็กเล็ก แต่บางครั้งอาจมีอาการรุนแรงได้ ทำให้เกิดภาวะปอดอักเสบ และภาวะสมองอักเสบ อาจทำให้ผู้ป่วยมีความพิการหรือเสียชีวิต มีภาวะแทรกซ้อน สำหรับเด็กเล็ก เด็กโต ผู้ใหญ่ ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง และหญิงตั้งครรภ์
แนะนำให้ฉีดในผู้ที่ไม่เคยมีประวัติเป็นโรคอีสุกอีใสมาก่อน ควรแนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใส 2 ครั้ง
วันนี้ - 31 ธันวาคม 2568

โปรแกรมและแพ็คเกจ

โปรแกรมตรวจสุขภาพดวงตา

โปรแกรมตรวจสุขภาพดวงตา

EYE CHECK PROGRAM

โปรแกรมตรวจสุขภาพดวงตา
ตรวจ 7 รายการ : 900.-
ตรวจ 8 รายการ : 1,299.-


โปรแกรมตรวจสุขภาพดวงตา

EYE CHECK PROGRAM
การตรวจสุขภาพตาเป็นการตรวจวินิจฉัยอย่างครอบคลุมเพื่อประเมินสุขภาพดวงตาของคุณ จักษุแพทย์จะตรวจหาความผิดปกติของดวงตา เช่น ต้อกระจก ต้อหิน จอประสาทตาเสื่อม และความผิดปกติของการหักเหของแสง เป็นต้น

เราควรตรวจสุขภาพตาเป็นประจำ ความถี่ในการตรวจจะขึ้นอยู่กับอายุและความเสี่ยงต่อปัญหาเกี่ยวกับดวงตาของคุณ ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ควรตรวจสุขภาพตาอย่างน้อยปีละครั้ง การตรวจสุขภาพตาเป็นสิ่งสำคัญ สามารถช่วยตรวจจับปัญหาเกี่ยวกับดวงตาได้ตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อการรักษาตั้งแต่
ใครบ้างที่ควรตรวจสุขภาพตา
EYE CHECK PROGRAM
  • ผู้ที่ทำงานใช้สายตามาก เช่น ผู้ที่อยู่หน้าคอมพิวเตอร์ หรือ ใช้มือถือเป็นประจำ
  • ผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป
  • ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคตา
  • ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน,ความดันโลหิตสูง,โรคข้อและโรคระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง
  • ผู้ที่ใช้ยาบางชนิด เช่น วัณโรค,ยากดภูมิ,กลุ่มยาสเตียรอยด์
  • ผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์

รายการตรวจสุขภาพดวงตา
Program 1
7 รายการ
Program 2
8 รายการ
ตรวจตาโดยจักษุแพทย์
Eye Examination
ตรวจวัดความดันโลหิต ชีพจร น้ำหนัก ส่วนสูง
ตรวจสุขภาพสายตา การมองเห็น
Visual Acuity: VA
ตรวจความดันลูกตา
Tonometer
ตรวจตาด้วย Slit Lamp
ตรวจวัดสายตา สั้น ยาว ด้วยเครื่องอัตโนมัติ
Autorefractor
คัดกรองตาบอดสี
Ishihara’s Test
ขยายม่านตา ดูจอประสาทตา
หมายเหตุ : แนะนำให้พาญาติมาด้วยเพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง และไม่แนะนำให้ขับขี่ยานพาหนะกลับด้วยตนเอง
ราคาแพ็คเกจ
900.-
1,299.-
รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาล
เงื่อนไข
  1. ราคารวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาล
  2. เพื่อความสะดวกในการรับบริการโปรดนัดหมายล่วงหน้าอย่างน้อย 1-2 วัน
  3. หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าบริเวณดวงตา เช่น ติดขนตาปลอม ใช้อายไลน์เนอร์เขียนขอบตา
  4. หากท่านสวมแว่นตา มียาหยอดตา หรือยาที่ใช้เป็นประจำ กรุณานำมาด้วย
  5. แจ้งให้แพทย์ทราบถึงโรคประจำตัว ประวัติการรักษาโรคต่างๆ และยารักษาโรคทุกชนิดที่กำลังใช้อยู่ เพราะอาจเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อสายตา หรือสุขภาพตา
  6. หากมีการขยายม่านตา ไม่ควรขับรถมาเอง โดยควรเตรียมแว่นกันแดดหรือหมวกปีกกว้างมาใส่ตอนกลับ เพราะหลังขยายม่านตาจะมีอาการพร่ามัว สู้แสงลำบาก
วันนี้ - 30 มิถุนายน 2568

โปรแกรมและแพ็คเกจ

โปรโมชั่นเลนส์โปรเกรสซีฟ

เลนส์โปรเกรสซีฟ คู่ท […]

โปรแกรมตรวจสุขภาพดวงตา

โปรแกรมตรวจสุขภาพดวง […]

โปรแกรม Office Syndrome ออฟฟิศ ซินโดรม

เลือกโปรแกรมที่เหมาะสมกับคุณ :

โปรแกรม Light Office เริ่มต้นเพียง 4,750.-

โปรแกรม Hard Office เริ่มต้นเพียง 5,750.-


ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ทำงานในออฟฟิศ ต้องนั่งทำงานตลอดเวลาเคลื่อนไหวร่างกายน้อย และอยู่ในสภาพแวดล้อมการทำงาน ที่ไม่เหมาะสม ส่งผลให้เกิดอาการปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อคอ บ่า ไหล่ แขน ข้อมือ หรือ ปวดร้าวขึ้นศีรษะแสดงว่าคุณกำลังประสบปัญหา
“ออฟฟิศซินโดรม”

โปรแกรมลดอาการ ออฟฟิศ ซินโดรม

Office Syndrome   
ออฟฟิศซินโดรม
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ทำงานในออฟฟิศ ต้องนั่งทำงานตลอดเวลาเคลื่อนไหวร่างกายน้อย และอยู่ในสภาพแวดล้อมการทำงาน
ที่ไม่เหมาะสม ส่งผลให้เกิดอาการปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อคอ บ่า ไหล่ แขน ข้อมือ หรือปวดร้าวขึ้นศีรษะแสดงว่าคุณกำลังประสบปัญหา “ออฟฟิศซินโดรม”
โปรแกรม Light Office
เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวดคอ บ่า สะบัก และเวียนศีรษะมาก
  • High power laser 10 นาที
  • Ultrasound 14 นาที
  • Stretching ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ
  • Hotpack ประคบร้อน
โปรแกรม Hard Office
เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการตึงรั้งหนักคอ บ่า สะบักอย่างมาก
  • PMS 15 นาที
  • Ultrasound 14 นาที
  • Stretching ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ
  • Hotpack ประคบร้อน
รายการ
Course 3 ครั้ง
Course 5 ครั้ง
โปรแกรม Light Office
เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวดคอ บ่า สะบัก และเวียนศีรษะมาก
4,750.-
ปกติ 5,100.-
7,650.-
ปกติ 8,500.-
โปรแกรม Hard Office
เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการตึงรั้งหนักคอ บ่า สะบักอย่างมาก
5,750.-
ปกติ 6,150.-
9,250.-
ปกติ 10,250.-
เงื่อนไขการเข้ารับบริการ
  • ราคาแพ็กเกจรวมค่าประเมินอาการโดยนักกายภาพบำบัดและค่าบริการโรงพยาบาล
  • ราคาแพ็กเกจไม่รวมค่าตรวจวินิจฉัยทางการแพทย์ ในการเข้ารับบริการครั้งแรก
  • กรุณาใช้บริการภายใน 90 วัน นับจากวันที่ซื้อ
    แพ็กเกจดังกล่าวไม่สามารถใช้ร่วมกับสิทธิ์และส่วนลดอื่นๆ ได้
  • ขอสงวนสิทธิ์ใช้เฉพาะผู้ที่ชำระเงินเท่านั้น และไม่สามารถคืนเงินได
  • โรงพยาบาลขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
วันนี้ - 31 ธันวาคม 2568

โปรแกรมและแพ็คเกจ

ฝึกกลืนด้วยเครื่องกระตุ้นไฟฟ้า

ฝึกกลืนด้วยเครื่องกร […]

โปรแกรมลดปวดด้วย Shockwave

การรักษาอาการปวดด้วย […]

รักษาโรคภูมิแพ้โพรงจมูกอักเสบด้วยคลื่นความถี่วิทยุ

รักษาโรคภูมิแพ้โพรงจมูกอักเสบด้วยคลื่นความถี่วิทยุ

รักษาโรคภูมิแพ้ด้วยคลื่นวิทยุ : 20,000.-


การรักษาโรคภูมิแพ้ด้วยคลื่นวิทยุ เป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้เป็นโรคภูมิแพ้

รักษาโรคภูมิแพ้โพรงจมูกอักเสบด้วยคลื่นความถี่วิทยุ

โรคภูมิแพ้
โรคภูมิแพ้ หรือโรคจมูกอักเสบเรื้อรัง ถือว่าเป็นโรคที่พบบ่อยโรคหนึ่งเลยทีเดียวสำหรับคนเมือง สาเหตุของโรค เกิดจากเยื่อบุจมูกมีความไวผิดปกติเมื่อสัมผัสกับสิ่งกระตุ้น ทำให้ผู้ป่วยมีอาการของโรคที่สามารถสังเกตได้ เช่น คันจมูก จามติดต่อกันหลายครั้ง มีน้ำมูกใสไหลตลอดเวลา เสมหะไหลลงคอ จมูกไม่ได้กลิ่นหรือได้กลิ่นลดลง หรืออาจมีอาการอื่นๆ เช่น คันตา คันคอ คันหู หรือคันที่เพดานปาก ปวดศีรษะ ปวดหู หูอื้อ เป็นต้น โดยทั่วไปผู้ป่วยมักบรรเทาอาการด้วยการหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น ร่วมกับการใช้ยารับประทาน การใช้ยาพ่นจมูก และการใช้น้ำเกลือล้างจมูก กรณีที่ผู้ป่วยมีอาการเรื้อรังและไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยาอย่างเต็มที่แล้วนั้นปัจจุบันได้มีการนำเทคโนโลยีคลื่นความถี่วิทยุมาใช้ในการผ่าตัด เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการรักษาโรคภูมิแพ้โพรงจมูกอักเสบซึ่งได้ผลลัพธ์ที่ดีหลังการรักษา
วิธีการรักษา
  • แพทย์จะใช้ยาชาเฉพาะที่ ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล
  • ใช้เวลาในการทำการรักษาประมาณ 20 นาที
  • ลดอาการคัน จาม น้ำมูกไหล และเสมหะในคอจะเห็นผลชัดเจนใน 4-6 สัปดาห์
  • ผลนั้นคงอยู่ได้นานถึง 1-2 ปี
เงื่อนไขการเข้ารับบริการ
  • ราคาแพ็กเกจรวมหัตถการรักษาโรคภูมิแพ้ด้วยคลื่นวิทยุ RF ไม่รวมค่าตรวจวินิจฉัยทางการแพทย์และค่ายากลับบ้าน
  • แพ็กเกจดังกล่าวไม่สามารถใช้ร่วมกับสิทธิ์และส่วนลดอื่นๆ ได้ เช่น ผู้ถือหุ้น บริษัทคู่สัญญา บริษัทประกัน
  • กรณีใช้สิทธิประกัน โรงพยาบาลตรวจสอบสิทธิ์ความคุ้มครอง และจัดการเรื่องเอกสารให้ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของบริษัทประกัน
  • ผู้เข้ารับบริการชำระค่าใช้จ่าย ณ โรงพยาบาล ในวันที่เข้ารับบริการ
  • โรงพยาบาลขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
วันนี้ - 30 กันยายน 2568

โปรแกรมและแพ็คเกจ

PACKAGE ฝังยาคุมกำเนิด

PACKAGE ฝังยาคุมกำเนิด

Contraceptive Implant

แพ็กเกจฝังยาคุมกำเนิด ชนิด 3 ปี : 6,990.-

ป้องกันได้ ถ้ายังไม่พร้อม


การตั้งครรภ์ไม่พร้อม การตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร หรือการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น อาจเป็นปัญหาในภายหน้า ทางเลือกป้องกันการตั้งครรภ์ คือการคุมกำเนิด ซึ่งในปัจจุบัน มีมากมายหลายวิธีให้เลือกตามความเหมาะสมของแต่ละบุคคล โดยแต่ละวิธีก็จะให้ผลที่แตกต่างกันออกไป

PACKAGE ฝังยาคุมกำเนิด

Contraceptive Implant
“ป้องกันได้ ถ้ายังไม่พร้อม” การตั้งครรภ์ไม่พร้อม การตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร หรือการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น อาจเป็นปัญหาในภายหน้า ทางเลือกป้องกันการตั้งครรภ์ คือการคุมกำเนิด ซึ่งในปัจจุบัน มีมากมายหลายวิธีให้เลือกตามความเหมาะสมของแต่ละบุคคล โดยแต่ละวิธีก็จะให้ผลที่แตกต่างกันออกไป
การฝังยาคุมกำเนิดคืออะไร
การฝังยาคุมกำเนิดเป็นวิธิการคุมกำเนิดแบบชั่วคราวประเภทหนึ่ง โดยนำหลอดบรรจุฮอร์โมนขนาดเล็ก ยาวประมาณ 3 เซนติเมตร โดยฝังแท่งยาใต้ชั้นผิวหนัง บริเวณใต้ท้องแขนด้านใน ใช้เวลาในการฝังประมาณ 3-10 นาที ซึ่งสามารถคุมกำเนิดนาน 3 ปี ควรเริ่มฝังยาภายใน 7 วันแรกของการมีรอบเดือน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการใช้ยาฝังคุมกำเนิด มีกลไกในการป้องกันการตั้งครรภ์ คือ ตัวยาจะออกฤทธิ์ยับยั้งการตกไข่เพื่อทำให้ปากมดลูกมีมูกเหนียวข้น เชื้ออสุจิเคลื่อนตัวเข้ามาในโพรงมดลูกได้ยาก รวมถึงทำให้โพรงมดลูกบางซึ่งไม่เหมาะต่อการฝังตัวของตัวอ่อน หากต้องการยุติการคุมกำเนิดหรือเปลี่ยนไปใช้การคุมกำเนิดวิธีอื่น สามารถนำแท่งยาคุมออกเมื่อใดก็ได้ และสามารถมีบุตรได้เมื่อร่างกายกลับสู่ภาวะปกติ โดยจะมีการตกไข่กลับมาภายใน 3 สัปดาห์
ข้อดีของยาฝังคุมกำเนิด
  1. ป้องกันการตั้งครรภ์ 99.9%
  2. ฝังยาช่วยลดอาการปวดประจำเดือน ลดภาวะประจำเดือนมามาก
  3. ไม่ต้องกังวล เรื่องการตั้งครรภ์ หรือปัญหาลืมกินยาเม็ดคุมกำเนิด
  4. ใช้ในสตรีให้นมบุตรได้ โดยไม่มีผลต่อปริมาณ และคุณภาพของน้ำนม เมื่อหยุดการใช้ยาฝังคุมกำเนิดจะสามารถกลับสู่ภาวะเจริญพันธุ์ได้เร็ว
หมายเหตุ
  • ราคาแพ็กเกจไม่รวมค่ายากลับบ้านและค่าตรวจการตั้งครรภ์
  • สามารถฝังยาคุมได้ภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน หรือหลังคลอด 4-6 สัปดาห์
  • หลังแท้งบุตรธรรมชาติทันที หรือ 2-3 สัปดาห์
วันนี้ - 30 มิถุนายน 2568

โปรแกรมและแพ็คเกจ

ตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ STD

โปรแกรมตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

Sexually Transmitted Diseases (STDS)

ตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์


กลุ่มโรคที่เกิดจากการติดต่อผ่านทางเพศสัมพันธ์กับคนที่เป็นโรคหรือคนที่ติดเชื้อ ไม่ว่าจะเป็นการร่วมเพศทางช่องคลอด ทางปาก หรือทางทวารหนัก เดิมมีชื่อว่า “กามโรค” (venereal diseases) ในปัจจุบันมีการค้นพบโรคในกลุ่มดังกล่าวเพิ่มขึ้นจึงเปลี่ยนชื่อเป็น “โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์” (sexually transmitted infections, STIs) โรคที่สำคัญคือ ซิฟิลิส หนองในแท้ หนองในเทียม เริม และเอชพีวี ดังนั้นควรตรวจคัดกรองโรคปีละครั้ง สำหรับกลุ่มที่เสี่ยง

โปรแกรมตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

Sexually Transmitted Diseases (STDS)

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ คือกลุ่มโรคที่เกิดจากการติดต่อผ่านทางเพศสัมพันธ์กับคนที่เป็นโรคหรือคนที่ติดเชื้อ ไม่ว่าจะเป็นการร่วมเพศทางช่องคลอด ทางปาก หรือทางทวารหนัก เดิมมีชื่อว่า “กามโรค” (venereal diseases) ในปัจจุบันมีการค้นพบโรคในกลุ่มดังกล่าวเพิ่มขึ้นจึงเปลี่ยนชื่อเป็น “โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์” (sexually transmitted infections, STIs) โรคที่สำคัญคือ ซิฟิลิส หนองในแท้ หนองในเทียม เริม และเอชพีวี

ใครเสี่ยงที่จะติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ 

คนที่มีกิจกรรมทางเพศบ่อย มีคู่นอนหลายคน อายุน้อย ไม่ใส่ถุงยางอนามัยเวลามีเพศสัมพันธ์ เคยมีประวัติเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในอดีต ดื่มสุรา และใช้สารเสพติด

สามารถติดโรคจากคนที่ไม่มีอาการ ภายนอกดูแข็งแรงปกติ ได้หรือไม่
ในบางระยะของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ผู้ติดเชื้อจะไม่แสดงอาการผิดปกติ ทำให้ไม่ทราบว่าตนเองมีเชื้ออยู่ แต่สามารถแพร่กระจายเชื้อไปสู่คู่นอนได้ การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ใส่ถุงยางอนามัยแม้เพียงครั้งเดียว ก็สามารถทำให้ติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ รวมถึงเชื้อเอชไอวีได้

จะปฏิบัติตัวอย่างไร เมื่อสงสัยว่าอาจติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
เมื่อพบว่ามีอาการผิดปกติที่สงสัยว่าเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หรือเพิ่งมีความเสี่ยงในการติดโรค ควรรีบปรึกษาแพทย์ และงดการมีเพศสัมพันธ์ชั่วคราวเพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อไปยังบุคคลอื่นจนกว่าจะทราบผลการตรวจ ถ้าแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นโรคควรงดการมีเพศสัมพันธ์ จนกว่าจะได้รับการรักษาจนหาย และแนะนำให้คู่นอนในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา เข้ารับการตรวจรักษาด้วย 

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ รักษาให้หายขาด
โรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียสามารถรักษาให้หายขาดได้ โดยการกินหรือฉีดยาปฏิชีวนะให้ครบตามแพทย์สั่ง และให้ความสำคัญกับการพาคู่นอนมารับการตรวจรักษา ส่วนโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสบางชนิดจะอยู่ในร่างกายตลอดชีวิต เช่น เริม การรักษาจะช่วยควบคุมอาการโรคได้ แต่การติดเชื้อไวรัสบางชนิด เช่น เอชพีวี ร่างกายอาจกำจัดเชื้อได้เอง หากกำจัดไม่ได้เชื้ออาจก่อให้เกิดโรคมะเร็งในอนาคต 
ข้อมูลอ้างอิง สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย
ตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
Sexually Transmitted Diseases (STDS)
ด้วยเทคนิค REAL-TIME PCR ทราบผลภายใน 5 วัน
รายการตรวจ
STD 1
7 ชนิด
STD 2
14 ชนิด
STD 3
7 ชนิด + HIV
STD 4
14 ชนิด + HIV
Neisseria gonorrhoeae
โรคหนองในแท้
Chlamydia trachomatis
โรคหนองในเทียม
Mycoplasma hominis
โรคหนองในเทียม
Mycoplasma genitalium
โรคหนองในเทียม
Ureaplasma urealyticum
โรคหนองในเทียม
Ureaplasma parvum
โรคหนองในเทียม
Trichomonas vaginalis
พยาธิในช่องคลอด
Herpes simplex virus types 1 (HSV-1)
โรคเริม
Herpes simplex virus types 2 (HSV-2)
โรคเริม
Treponema pallidum
โรคซิฟิลิส
Haemophilus ducreyi
โรคแผลริมอ่อน
Candida albicans
โรคเชื้อราในช่องคลอด
Gardnerella vaginalis
ติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอด
Group B Streptococcus
ติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอด
HIV
การตรวจเลือดหาเชื้อเอชไอวี
ราคาแพ็คเกจ
1,990.-
3,333.-
2,190.-
4,190.-
รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาล
หากตรวจพบความผิดปกติ แพทย์อาจพิจารณาให้รับยา ซึ่งจะมีค่าบริการเพิ่ม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแพทย์ประเมิน
ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจ
ผู้ที่เหมาะกับบริการนี้
  • มีอาการผิดปกติที่อาจติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ เช่น คัน เป็นผื่น ตุ่ม เป็นฝี มีหนองไหล หรือเจ็บป่วยที่อวัยวะเพศ ปัสสาวะแสบขัด มีตกขาวผิดปกติ มีกลิ่นเหม็น
  • มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน เช่น ไม่ได้ใช้ถุงยางอนามัย ถุงยางอนามัยรั่ว แตก หลุด หรือฉีดขาดขณะมีเพศสัมพันธ์
  • มีพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ที่มีความเสี่ยง เช่น เปลี่ยนคู่นอนบ่อย มีคู่นอนหลายคน มีคู่นอนที่เสี่ยงต่อการติดโรค
  • ผู้ที่วางแผนแต่งงาน วางแผนการมีบุตร หรือ ต้องการตรวจ ก่อนมีเพศสัมพันธ์ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อสู่คนรักและทารกในครรภ์
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับบริการ
  • สามารถทานอาหารมาก่อนเข้าตรวจได้ตามปกติ
  • งดดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนตรวจสุขภาพ
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง
  • หลีกเลี่ยงการตรวจช่วงที่มีประจำเดือน ควรรอตรวจหลังจากที่ประจำเดือนหมดไปแล้วอย่างน้อย 7 วัน
  • ห้ามตรวจภายในมาก่อนในช่วง 24 ชั่วโมง เพราะอาจมีสารหรือยาไปปนเปื้อนอยู่
  • ห้ามใช้ผ้าอนามัยชนิดสอด ครีมหรือยา ที่ใช้ทางช่องคลอดอื่น ๆ อย่างน้อย 48 ชั่วโมง
  • ห้ามล้างหรือทำความสะอาดในช่องคลอดภายใน 48 ชั่วโมงก่อนมาตรวจ เพราะอาจไม่มีเซลล์เหลือให้ตรวจ
  • ห้ามมีเพศสัมพันธ์ก่อนมารับการตรวจ 48 ชั่วโมง
วันนี้ - 31 ธันวาคม 2568

โปรแกรมและแพ็คเกจ

วัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบ

วัคซีนป้องกันโรคตับอ […]

โปรแกรมตรวจสุขภาพตับ

โปรแกรมตรวจสุขภาพตับ […]

โปรแกรมตรวจสุขภาพ Healthy Family

โปรแกรมตรวจสุขภาพ He […]

โปรแกรมตรวจสุขภาพเพศชาย

โปรแกรมตรวจสุขภาพเพศชาย

Man Health Check Up

โปรแกรมตรวจสุขภาพเพศชาย : 4,900.-


โปรแกรมตรวจสุขภาพเพศชาย และรักษาภาวะชายวัยทอง ภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศองคชาติไม่แข็งตัว หรือแข็งตัวไม่เต็มที่ สาเหตุจากปัญหาสุขภาพ ขาดการออกกำลังกาย การดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ ความเครียด ความวิตกกังวล มีผลทำให้เกิดการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ได้โดยไม่รู้ตัว

โปรแกรมตรวจสุขภาพเพศชาย

ดูแลสุขภาพคุณผู้ชาย โดยแพทย์เฉพาะทาง
โปรแกรมตรวจสุขภาพเพศชาย ดูแลสุขภาพคุณผู้ชาย โดยแพทย์เฉพาะทาง พร้อมรักษาภาวะชายวัยทอง ภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศองคชาติไม่แข็งตัว หรือแข็งตัวไม่เต็มที่ สาเหตุจากปัญหาสุขภาพ ขาดการออกกำลังกาย การดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ ความเครียด ความวิตกกังวล มีผลทำให้เกิดการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ได้โดยไม่รู้ตัว
โรงพยาบาลบางโพ ร่วมส่งเสริมให้คุณมีสุขภาพดี
ตรวจ 12 รายการ เพียง 4,900.-
รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาลแล้ว
  • ตรวจร่างกายทั่วไปโดยแพทย์ Physical Examination
  • ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด CBC
  • ตรวจหาระดับน้ำตาลในเลือด FBS
  • ตรวจหาระดับไขมันในเลือด Cholesterol
  • ตรวจหาระดับไขมันในเลือด Triglyceride
  • ตรวจหาระดับไขมันชนิดดีในเลือด HDL
  • ตรวจหาระดับไขมันชนิดไม่ดีในเลือด LDL
  • ตรวจสมรรถภาพการทำงานของไต BUN
  • ตรวจสมรรถภาพการทำงานของไต Creatinine
  • ตรวจหาระดับเกลือแร่ในเลือด (Electrolyte)
  • ตรวจหาสารบ่งชี้มะเร็งต่อมลูกหมาก (PSA)
  • ตรวจระดับฮอร์โมนเพศชาย (Testosterone)

การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการตรวจ
  • กรุณางดน้ำและอาหารอย่างน้อย 8 ชั่วโมง ก่อนเข้ารับการตรวจสุขภาพ
  • หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกกอฮอล์ อย่างน้อย 24 ชั่วโมง ก่อนเข้ารับการตรวจ
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

โปรแกรมฟื้นฟูสมรรถภาพสำหรับเพศชาย ด้วยเครื่อง Shock Wave

การรักษาด้วยเครื่อง Shock Wave เป็นการฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศสำหรับคุณผู้ชาย โดยส่งคลื่นกระแทกผ่านชั้นผิวหนังลงไปถึงบริเวณเอ็นและกล้ามเนื้อลึกประมาณ 3-4 เซนติเมตร กระตุ้นให้เกิดการสร้างหลอดเลือดใหม่ และซ่อมแซมเนื้อเยื่อ เส้นเอ็น ไม่ต้องพี่งยา ไม่เจ็บ และไม่มีผลข้างเคียง จำนวนครั้งและความถี่ในการรักษาของแต่ละคนขึ้นอยู่กับแพทย์และความรุนแรงของโรค แล้วความสุขของชีวิตคู่จะกลับมาอีกครั้ง


Shock Wave
แพ็คเกจเสริม
จำนวนครั้ง
ราคา
Shock Wave
1 ครั้ง
8,000.-
รวมค่าแพทย์และค่าบริการ รพ.
Shock Wave
3 ครั้ง
22,000.-
รวมค่าแพทย์และค่าบริการ รพ.
Shock Wave
6 ครั้ง
39,000.-
รวมค่าแพทย์และค่าบริการ รพ.
วันนี้ - 31 ธันวาคม 2568

โปรแกรมและแพ็คเกจ

วัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบ

วัคซีนป้องกันโรคตับอ […]

โปรแกรมตรวจสุขภาพตับ

โปรแกรมตรวจสุขภาพตับ […]

โปรแกรมตรวจสุขภาพ Healthy Family

โปรแกรมตรวจสุขภาพ He […]

คัดกรองมะเร็งเต้านม

คัดกรองมะเร็งเต้านม

ภัยร้ายใกล้ตัว

มะเร็งเต้านม ภัยร้ายใกล้ตัว


รู้ก่อนรักษาก่อน ตรวจได้ตั้งแต่ยังไม่เป็น การตรวจพบมะเร็งเต้านมได้ตั้งแต่ระยะต้นๆ และได้รับการรักษาก่อนที่จะมีการลุกลามหรือกระจายไปยังอวัยวะอื่น
การรักษาอย่างถูกต้องสามารถมีโอกาสหายขาดได้สูง

มะเร็งเต้านม ภัยร้ายใกล้ตัว

มะเร็งเต้านมปัจจุบันพบมากเป็นอันดับหนึ่งในสตีไทยการตรวจพบตั้งแต่ระยะแรกๆ และได้รับการรักษาอย่างถูกต้องสามารถมีโอกาสหายขาดได้สูง มะเร็งเต้านมอาจมีอาการได้หลายแบบแตกต่างกันในผู้ป่วยแต่ละคน  ดังนั้นสตรีทั่วไปจึงควรหมั่นคอยสังเกตอาการและตรวจเต้านมตนเองเป็นประจำ เพื่อที่จะได้ตรวจพบมะเร็งเต้านมได้ตั้งแต่ระยะต้นๆ และได้รับการรักษาก่อนที่จะมีการลุกลามหรือกระจายไปยังอวัยวะอื่นแล้วมักมีผลการรักษาที่ไม่ดี
ใครบ้างที่เสี่ยง

  • ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านม โดยเฉพาะมารดาหรือพี่น้องร่วมอุทรณ์
  • ผู้ที่เคยรับประทานฮอร์โมนเสริมในวัยใกล้หรือหมดประจำเดือนแล้ว
  • ผู้หญิงที่อายุ 40 ปีขึ้นไป ควรได้รับการคัดกรองมะเร็งเต้านม ทุก 1- 2 ปี ผู้มีประวัติเป็นซีสต์หรือเนื้องอกที่เต้านม
  • ผู้ที่มีประจำเดือนก่อนอายุ 12 ปีหรือประจำเดือนหมดช้าหลังอายุ 50 ปี
  • ผู้ที่มีบุตรหลังอายุ 30 ปี หรือไม่เคยมีบุตร
  • ผู้ที่ได้รับยาคุมกำเนิดเป็นเวลานาน
  • ผู้ที่มีประวัติการเป็นมะเร็งรังไข่
หากคุณเข้าเกณฑ์ดังกล่าวคุณมีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดมะเร็งเต้านมในอนาคต ควรได้รับการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม และอัลตราซาวด์อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
รายการ
ตรวจคัดกรองหามะเร็งเต้านมด้วยเครื่องแมมโมแกรมและอัลตราซาวด์
Digital Mammogram and Breast Ultrasound
2,990.-
ปกติ 3,730.-
(รวมค่าแพทย์และค่าบริการ รพ.)
วันนี้ - 31 ธันวาคม 2568

โปรแกรมและแพ็คเกจ