โรค G6PD คืออะไร
จี-6-พีดี (G6PD) เป็นชื่อย่อของเอมไซม์ กลูโคส-ซี-ฟอสเฟตดีไฮไดรจิเนส ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่มีอยู่ในเม็ดเลือดแดง มีประโยชน์ในการป้องกันการทำลายของเม็ดเลือดแดง จากยาหรือสารเคมีบางชนิด และทำให้เซลล์ต่างๆในร่ายกาย รวมทั้งทำให้เม็ดเลือดแดงแข็งแรง
การขาดเอ็นไซม์ G6PD
G6PD คือโรคขาดเอ็นไซม์ G6PD ในเม็ดเลือดแดง ซึ่งเป็นโรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม โดยตำแหน่งยีนที่ผิดปกติบนโครโมโซม ซึ่งอยู่บนโครโมโซมเพศ ดังนั้น โรคนี้จึงอยู่ติดตัว ไปตลอดชีวิต และอาจถ่ายทอดไปสู่ลูกหลานได้ การขาดเอ็นไซน์นี้ จึงทำให้เกิด “ภาวะเม็ดเลือดแดง” แตกได้ง่ายขึ้นเนื่องจากปัจจัยดังนี้
ปัจจัยเลี่ยง
- การติดเชื้อแบคทีเรีย หรือไวรัส เช่น การเป็น หวัด ไข้ ไอ
 - การได้รับยา และสารเคมีบางชนิด ที่เป็นข้อห้ามในผู้ป่วยขาดเอ็นไซม์ G6PD
 
อาการภาวะเม็ดเลือดแดงแตก
เมื่อได้รับ ยา อาหารและสารเคมีบางอย่างที่เป็นข้อห้าม อาจทำให้เกิดภาวะเม็ดเลือดแดงแตก ที่พบบ่อยคือ
- เม็ดเลือดแดงแตกเฉียบพลัน ซึ่งเกิดใน24-48 ชั่วโมง หลังได้รับปัจจัยเลี่ยง
 - ปวดท้อง อาเจียน ถ่ายเหลว มีไข้ต่ำๆ ปวดหลัง และต่อมาอาจมีมีอาการดีซ่าน ตัวเหลืองตาเหลือง ซีดและปัสสาวะเป็นสีดำหรือสีโค้ก
 - เหนื่อย อ่อนเพลีย
 
ทั้งนี้ ในผู้ป่วยแต่ละราย จะมีอาการรุนแรงมากน้อยแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับภาวการณ์ขาดเอ็มไซม์ G6PD และอาหาร ยา สารเคมีที่ได้รับดังนั้นผู้ป่วยควรทราบรายชื่อยา อาหารและสารเคมีที่ควรหลีกเลี่ยง
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง
- ถั่วปากอ้า
 - พืชตระกูลถั่วที่มีผลเป็นฝัก เช่น ถั่วเหลือง ถั่วเขียว ถั่วฝักยาว
 - ไวน์แดง
 - บลูเบอร์รี่
 - การบูรและพิมเสน
 - โทนิค (Tonic Water) เครื่องดื่มที่มีรสชาติ ค่อนข้างขมที่มีส่วนประกอบของ Quinine (คิวนิน)
 - สารประกอบที่มีฤทธิ์ต้านแบคทีเรีย พบในสมุนไพรรสขม
 
สารเคมี
- ลูกเหม็น
 - สารหนู
 - สาร Toluidine Blue (สารช่วยวินิจฉัย)
 
ยา
- กลุ่มลดความดันโลหิต
 - ยารักษาโรคพาร์กินสัน
 - ยารักษาโรคหัวใจและหลอดเลือด
 - ยารักษาโรคเก๊าท์
 - ยาฮอร์โมน
 - ยารักษาโรคมาลาเรีย
 - ยาเคมีบำบัด
 - ยาแก้ปวดทางเดินปัสสาวะ
 - ยาต้านพิษ
 - ยาปฏิชีวนะ (ยาต้านจุลชีพ)
 - วิตามิน
 
ซึ่งผู้ป่วยที่เป็นโรคขาดเอ็มไซม์ G6PD ทางโรงพยาบาลจะมีสมุดประจำตัวผู้ป่วยให้
การปฏิบัติตัว
- แจ้งให้แพทย์ทราบทุกครั้งที่ป่วยมาโรงพยาบาลว่าเป็นโรคนี้
 - เมื่อเกิดอาการเจ็บป่วยไม่สบาย ควรปรึกษาแพทย์ ไม่ซื้อยารับประทานเอง
 - เมื่อเกิดภาวะเม็ดเลือดแดงแตก ควรรีบมาโรงพยาบาล เพื่อรับการรักษาทันที
 - หลีกเลี่ยงยา อาหาร หรือสารเคมี ที่อาจทำให้เกิดอาการ
 - เมื่อจะมีบุตร ควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ เรื่องการถ่ายทอดไปยังบุตร เพื่อประโยชน์ในการวางแผนครอบครัว
 

		


You must be logged in to post a comment.