วัคซีนงูสวัด ชนิดใหม่

วัคซีนงูสวัด (RZV)

Recombinant Zoster Vaccine

วัคซีนงูสวัด (RZV)

2 เข็ม : 11,900.-

1 เข็ม : 5,990.-


  • มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคงูสวัด 97% ในผู้ใหญ่อายุ 50 ปีขึ้นไป
  • ประสิทธิภาพในการป้องกันอาการปวดเส้นประสาท (PHN) 91.2%
  • เมื่อติดตามยาวนานถึง 10 ปี พบว่า มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคงูสวัด 89%

BUY NOW!

วัคซีนงูสวัด (RZV)

Recombinant Zoster Vaccine
โรคงูสวัดใครเสี่ยง
โรคงูสวัดเป็นการติดเชื้อไวรัส Varicella Zoster เชื้อเดียวกับการก่อโรคสุกใส เมื่อหายแล้วเชื้อไวรัสจะไปแฝงตัวอยู่ในปมประสาท เมื่อร่างกายอ่อนแอ หรือมีภาวะภูมิคุ้มกันถดถอยตามวัย เชื้อจะถูกกระตุ้นขึ้นมาก่อให้เกิดโรค “งูสวัด”ดังนั้นผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป มีโอกาสเกิดโรคงูสวัดเพิ่มสูงขึ้น มากกว่า 90% เคยติดเชื้อสุกใสมาแล้ว จะมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดโรคงูสวัดด้วย และผู้ที่เคยเป็นโรคงูสวัด มีโอกาสเป็นซ้ำประมาณ ร้อยละ 6.2 โดยมีปัจจัยเสี่ยง เช่น เครียด พักผ่อนไม่เพียงพอ โรคภูมิคุ้มกันกพร่อง ติดเชื้อ HIV คนไข้มะเร็ง รวมถึงผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน โรคปอด โรคไต รวมถึงผู้ที่เคยติดเชื้อ Covid-19
การป้องกันโรคงูสวัด
  • จัดการความเครียด รักษาสุขอนามัย หลีกเลี่ยงสัมผัสใกล้ชิดกับผู้มีอาการ
  • วัคซีนป้องกันโรคงูสวัด ถือเป็นวิธีการป้องกันโรคงูสวัดที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ปัจจุบัน มี 2 ชนิด
  • วัคซีนชนิดเชื้อเป็นอ่อนแรง (ZVL)
  • วัคซีน protein subunit ร่วมกับสารเสริมฤทธิ์ (Recombinant Zoster Vaccine - RZV)
วัคซีนป้องกันงูสวัด ชนิดใหม่ ไม่ใช่เชื้อเป็น - Recombinant Zoster Vaccine (RZV)
  • มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคงูสวัด 97% ในผู้ใหญ่อายุ 50 ปีขึ้นไป
  • ประสิทธิภาพในการป้องกันอาการปวดเส้นประสาท (PHN = Postherpetic neuralgia) 91.2%
  • เมื่อติดตามยาวนานถึง 10 ปี พบว่า มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคงูสวัด 89%
วัคซีนงูสวัด - Recombinant Zoster Vaccine (RZV)
จำนวน
ราคา
2 เข็ม
ฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 2 - 6 เดือน
11,900 .-
1 เข็ม
ฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 2 - 6 เดือน
5,990 .-
รวมค่าแพทย์และค่าบริการ รพ.
คำแนะนำการฉีดวัคซีน
  • แนะนำในผู้ใหญ่ อายุ 50 ปีขึ้นไป ฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 2-6 เดือน และผู้ที่มีอายุมากกว่า 18 ปีที่มีความเสี่ยงในการเกิดโรคงูสวัดมากกว่าปกติ
    เช่น ผู้ที่ระบบภูมิคุ้มกันมีปัญหา ผู้ใช้ยาสเตียรอยด์และผู้ที่รับการรักษาด้วยรังสีวิทยาหรือเคมีบำบัด ฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 1-2 เดือน
  • ไม่จำเป็นต้องตรวจภูมิคุ้มกันโรค (Varicella IgG) สามารถฉีดในบุคคลที่เคยหรือไม่เคยเป็นโรคอีสุกอีใสมาก่อน
  • ในกรณีที่เคยเป็นงูสวัดมาก่อน สามารถฉีดได้โดยให้เว้นระยะห่างหลังจากเป็นงูสวัดอย่างน้อย 6 เดือน
  • หากอายุยังไม่ถึงเกณฑ์ที่จะต้องได้รับวัคซีนงูสวัด ให้อยู่ในดุลยพินิจของแพทย์
วันนี้ - 31 ธันวาคม 2568

โปรแกรมและแพ็คเกจ

รักษาโรคภูมิแพ้โพรงจมูกอักเสบด้วยคลื่นความถี่วิทยุ

รักษาโรคภูมิแพ้โพรงจมูกอักเสบด้วยคลื่นความถี่วิทยุ

รักษาโรคภูมิแพ้ด้วยคลื่นวิทยุ : 20,000.-


การรักษาโรคภูมิแพ้ด้วยคลื่นวิทยุ เป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้เป็นโรคภูมิแพ้

รักษาโรคภูมิแพ้โพรงจมูกอักเสบด้วยคลื่นความถี่วิทยุ

โรคภูมิแพ้
โรคภูมิแพ้ หรือโรคจมูกอักเสบเรื้อรัง ถือว่าเป็นโรคที่พบบ่อยโรคหนึ่งเลยทีเดียวสำหรับคนเมือง สาเหตุของโรค เกิดจากเยื่อบุจมูกมีความไวผิดปกติเมื่อสัมผัสกับสิ่งกระตุ้น ทำให้ผู้ป่วยมีอาการของโรคที่สามารถสังเกตได้ เช่น คันจมูก จามติดต่อกันหลายครั้ง มีน้ำมูกใสไหลตลอดเวลา เสมหะไหลลงคอ จมูกไม่ได้กลิ่นหรือได้กลิ่นลดลง หรืออาจมีอาการอื่นๆ เช่น คันตา คันคอ คันหู หรือคันที่เพดานปาก ปวดศีรษะ ปวดหู หูอื้อ เป็นต้น โดยทั่วไปผู้ป่วยมักบรรเทาอาการด้วยการหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น ร่วมกับการใช้ยารับประทาน การใช้ยาพ่นจมูก และการใช้น้ำเกลือล้างจมูก กรณีที่ผู้ป่วยมีอาการเรื้อรังและไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยาอย่างเต็มที่แล้วนั้นปัจจุบันได้มีการนำเทคโนโลยีคลื่นความถี่วิทยุมาใช้ในการผ่าตัด เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการรักษาโรคภูมิแพ้โพรงจมูกอักเสบซึ่งได้ผลลัพธ์ที่ดีหลังการรักษา
วิธีการรักษา
  • แพทย์จะใช้ยาชาเฉพาะที่ ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล
  • ใช้เวลาในการทำการรักษาประมาณ 20 นาที
  • ลดอาการคัน จาม น้ำมูกไหล และเสมหะในคอจะเห็นผลชัดเจนใน 4-6 สัปดาห์
  • ผลนั้นคงอยู่ได้นานถึง 1-2 ปี
เงื่อนไขการเข้ารับบริการ
  • ราคาแพ็กเกจรวมหัตถการรักษาโรคภูมิแพ้ด้วยคลื่นวิทยุ RF ไม่รวมค่าตรวจวินิจฉัยทางการแพทย์และค่ายากลับบ้าน
  • แพ็กเกจดังกล่าวไม่สามารถใช้ร่วมกับสิทธิ์และส่วนลดอื่นๆ ได้ เช่น ผู้ถือหุ้น บริษัทคู่สัญญา บริษัทประกัน
  • กรณีใช้สิทธิประกัน โรงพยาบาลตรวจสอบสิทธิ์ความคุ้มครอง และจัดการเรื่องเอกสารให้ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของบริษัทประกัน
  • ผู้เข้ารับบริการชำระค่าใช้จ่าย ณ โรงพยาบาล ในวันที่เข้ารับบริการ
  • โรงพยาบาลขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
วันนี้ - 30 กันยายน 2568

โปรแกรมและแพ็คเกจ

วัคซีนไข้เลือดออก

วัคซีนไข้เลือดออก

Dengue Vaccine

วัคซีนไข้เลือดออก

1 เข็ม: 3,000.-

2 เข็ม: 4,777.-


โรคไข้เลือดออกเกิดจากการติดเชื้อไวรัสเดงกี (Dengue virus) มียุงลายเป็นพาหะนำโรค พบได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่

โรคไข้เลือดออกเกิดจากการติดเชื้อไวรัสเดงกี (Dengue virus) มียุงลายเป็นพาหะนำโรค พบได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่
1 เข็ม
3,000.-
ฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 3 เดือน
รวมค่าแพทย์และค่าบริการ รพ.
2 เข็ม
4,777.-
ฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 3 เดือน
รวมค่าแพทย์และค่าบริการ รพ.
ประสิทธิภาพของวัคซีน
  • สามารถฉีดได้อายุตั้งแต่ 4 ปี - 60 ปี
  • สามารถฉีดได้ทั้งคนที่เคยเป็น และไม่เคยเป็นโรคไข้เลือดออก
  • ฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 3 เดือน
  • ป้องกันการติดเชื้อไข้เลือดออก 4 สายพันธุ์ 80.2%
  • ลดอัตราการนอนโรงพยาบาลและลดความรุนแรง 90.4%
วันนี้ - 31 ธันวาคม 2568

โปรแกรมและแพ็คเกจ

วัคซีนไข้หวัดใหญ่ HIGH DOSE สำหรับผู้มีอายุ 65 ปีขึ้นไป

วัคซีนไข้หวัดใหญ่ HIGH DOSE สำหรับผู้มีอายุ 65 ปีขึ้นไป

FLU VACCINE HIGH DOSE

วัคซีนไข้หวัดใหญ่ HIGH DOSE

ราคา 1 ท่าน : 2,500.-

ราคา 2 ท่าน : 4,777.-


โรคไข้หวัดใหญ่ป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปี ปีละ 1 ครั้ง โดยแนะนำให้ฉีดตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไป โรคไข้หวัดใหญ่อาจมีอาการรุนแรงมากกว่าคนทั่วไปในผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงต่อภาวะแทรกซ้อนในการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่

วัคซีนไข้หวัดใหญ่ HIGH DOSE สำหรับผู้มีอายุ 65 ปีขึ้นไป

โรคไข้หวัดใหญ่ป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปี ปีละ 1 ครั้ง โดยแนะนำให้ฉีดตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไป โรคไข้หวัดใหญ่อาจมีอาการรุนแรงมากกว่าคนทั่วไปในผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงต่อภาวะแทรกซ้อนในการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ ปัจจุบันวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ มีการพัฒนาเพื่อเฉพาะผู้สูงอายุ เป็นชนิด High Dose วัคซีนเป็นเชื้อตายที่มีปริมาณแอนติเจนเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า เมื่อเทียบกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่แบบปกติ ทำให้มีประสิทธิภาพในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดี เพื่อป้องกันและช่วยลดโอกาสการเกิดภาวะแทรกซ้อนได้
ข้อดีของวัคซีนไข้หวัดใหญ่ High Dose สำหรับผู้สูงอายุ
เมื่อเทียบกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่แบบปกติ
  • ช่วยป้องกันไข้หวัดใหญ่ได้มากกว่าวัคซีนขนาดปกติ 24.2%
  • ลดความรุนแรงถึงขั้นนอนโรงพยาบาลจากไข้หวัดใหญ่หรือปอดอักเสบได้ถึง 64.4%
  • ช่วยลดอัตราการเสียชีวิตในผู้สูงอายุได้ถึง 48.9%
  • มีประสิทธิภาพในการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน เพื่อป้องกันและลดโอกาสการเกิดภาวะแทรกซ้อน สำหรับผู้สูงอายุ
วันนี้ - 31 ธันวาคม 2568

โปรแกรมและแพ็คเกจ

ตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ STD

โปรแกรมตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

Sexually Transmitted Diseases (STDS)

ตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์


กลุ่มโรคที่เกิดจากการติดต่อผ่านทางเพศสัมพันธ์กับคนที่เป็นโรคหรือคนที่ติดเชื้อ ไม่ว่าจะเป็นการร่วมเพศทางช่องคลอด ทางปาก หรือทางทวารหนัก เดิมมีชื่อว่า “กามโรค” (venereal diseases) ในปัจจุบันมีการค้นพบโรคในกลุ่มดังกล่าวเพิ่มขึ้นจึงเปลี่ยนชื่อเป็น “โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์” (sexually transmitted infections, STIs) โรคที่สำคัญคือ ซิฟิลิส หนองในแท้ หนองในเทียม เริม และเอชพีวี ดังนั้นควรตรวจคัดกรองโรคปีละครั้ง สำหรับกลุ่มที่เสี่ยง

โปรแกรมตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

Sexually Transmitted Diseases (STDS)

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ คือกลุ่มโรคที่เกิดจากการติดต่อผ่านทางเพศสัมพันธ์กับคนที่เป็นโรคหรือคนที่ติดเชื้อ ไม่ว่าจะเป็นการร่วมเพศทางช่องคลอด ทางปาก หรือทางทวารหนัก เดิมมีชื่อว่า “กามโรค” (venereal diseases) ในปัจจุบันมีการค้นพบโรคในกลุ่มดังกล่าวเพิ่มขึ้นจึงเปลี่ยนชื่อเป็น “โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์” (sexually transmitted infections, STIs) โรคที่สำคัญคือ ซิฟิลิส หนองในแท้ หนองในเทียม เริม และเอชพีวี

ใครเสี่ยงที่จะติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ 

คนที่มีกิจกรรมทางเพศบ่อย มีคู่นอนหลายคน อายุน้อย ไม่ใส่ถุงยางอนามัยเวลามีเพศสัมพันธ์ เคยมีประวัติเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในอดีต ดื่มสุรา และใช้สารเสพติด

สามารถติดโรคจากคนที่ไม่มีอาการ ภายนอกดูแข็งแรงปกติ ได้หรือไม่
ในบางระยะของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ผู้ติดเชื้อจะไม่แสดงอาการผิดปกติ ทำให้ไม่ทราบว่าตนเองมีเชื้ออยู่ แต่สามารถแพร่กระจายเชื้อไปสู่คู่นอนได้ การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ใส่ถุงยางอนามัยแม้เพียงครั้งเดียว ก็สามารถทำให้ติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ รวมถึงเชื้อเอชไอวีได้

จะปฏิบัติตัวอย่างไร เมื่อสงสัยว่าอาจติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
เมื่อพบว่ามีอาการผิดปกติที่สงสัยว่าเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หรือเพิ่งมีความเสี่ยงในการติดโรค ควรรีบปรึกษาแพทย์ และงดการมีเพศสัมพันธ์ชั่วคราวเพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อไปยังบุคคลอื่นจนกว่าจะทราบผลการตรวจ ถ้าแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นโรคควรงดการมีเพศสัมพันธ์ จนกว่าจะได้รับการรักษาจนหาย และแนะนำให้คู่นอนในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา เข้ารับการตรวจรักษาด้วย 

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ รักษาให้หายขาด
โรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียสามารถรักษาให้หายขาดได้ โดยการกินหรือฉีดยาปฏิชีวนะให้ครบตามแพทย์สั่ง และให้ความสำคัญกับการพาคู่นอนมารับการตรวจรักษา ส่วนโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสบางชนิดจะอยู่ในร่างกายตลอดชีวิต เช่น เริม การรักษาจะช่วยควบคุมอาการโรคได้ แต่การติดเชื้อไวรัสบางชนิด เช่น เอชพีวี ร่างกายอาจกำจัดเชื้อได้เอง หากกำจัดไม่ได้เชื้ออาจก่อให้เกิดโรคมะเร็งในอนาคต 
ข้อมูลอ้างอิง สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย
ตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
Sexually Transmitted Diseases (STDS)
ด้วยเทคนิค REAL-TIME PCR ทราบผลภายใน 5 วัน
รายการตรวจ
STD 1
7 ชนิด
STD 2
14 ชนิด
STD 3
7 ชนิด + HIV
STD 4
14 ชนิด + HIV
Neisseria gonorrhoeae
โรคหนองในแท้
Chlamydia trachomatis
โรคหนองในเทียม
Mycoplasma hominis
โรคหนองในเทียม
Mycoplasma genitalium
โรคหนองในเทียม
Ureaplasma urealyticum
โรคหนองในเทียม
Ureaplasma parvum
โรคหนองในเทียม
Trichomonas vaginalis
พยาธิในช่องคลอด
Herpes simplex virus types 1 (HSV-1)
โรคเริม
Herpes simplex virus types 2 (HSV-2)
โรคเริม
Treponema pallidum
โรคซิฟิลิส
Haemophilus ducreyi
โรคแผลริมอ่อน
Candida albicans
โรคเชื้อราในช่องคลอด
Gardnerella vaginalis
ติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอด
Group B Streptococcus
ติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอด
HIV
การตรวจเลือดหาเชื้อเอชไอวี
ราคาแพ็คเกจ
1,990.-
3,333.-
2,190.-
4,190.-
รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาล
หากตรวจพบความผิดปกติ แพทย์อาจพิจารณาให้รับยา ซึ่งจะมีค่าบริการเพิ่ม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแพทย์ประเมิน
ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจ
ผู้ที่เหมาะกับบริการนี้
  • มีอาการผิดปกติที่อาจติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ เช่น คัน เป็นผื่น ตุ่ม เป็นฝี มีหนองไหล หรือเจ็บป่วยที่อวัยวะเพศ ปัสสาวะแสบขัด มีตกขาวผิดปกติ มีกลิ่นเหม็น
  • มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน เช่น ไม่ได้ใช้ถุงยางอนามัย ถุงยางอนามัยรั่ว แตก หลุด หรือฉีดขาดขณะมีเพศสัมพันธ์
  • มีพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ที่มีความเสี่ยง เช่น เปลี่ยนคู่นอนบ่อย มีคู่นอนหลายคน มีคู่นอนที่เสี่ยงต่อการติดโรค
  • ผู้ที่วางแผนแต่งงาน วางแผนการมีบุตร หรือ ต้องการตรวจ ก่อนมีเพศสัมพันธ์ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อสู่คนรักและทารกในครรภ์
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับบริการ
  • สามารถทานอาหารมาก่อนเข้าตรวจได้ตามปกติ
  • งดดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนตรวจสุขภาพ
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง
  • หลีกเลี่ยงการตรวจช่วงที่มีประจำเดือน ควรรอตรวจหลังจากที่ประจำเดือนหมดไปแล้วอย่างน้อย 7 วัน
  • ห้ามตรวจภายในมาก่อนในช่วง 24 ชั่วโมง เพราะอาจมีสารหรือยาไปปนเปื้อนอยู่
  • ห้ามใช้ผ้าอนามัยชนิดสอด ครีมหรือยา ที่ใช้ทางช่องคลอดอื่น ๆ อย่างน้อย 48 ชั่วโมง
  • ห้ามล้างหรือทำความสะอาดในช่องคลอดภายใน 48 ชั่วโมงก่อนมาตรวจ เพราะอาจไม่มีเซลล์เหลือให้ตรวจ
  • ห้ามมีเพศสัมพันธ์ก่อนมารับการตรวจ 48 ชั่วโมง
วันนี้ - 31 ธันวาคม 2568

โปรแกรมและแพ็คเกจ

ตรวจคัดกรองความผิดปกติของโครโมโซมลูกน้อยในครรภ์

การตรวจคัดกรองความผิดปกติของโครโมโซมลูกน้อยในครรภ์

Noninvasive Prenatal Testing (NIPT)

การตรวจคัดกรองความผิดปกติของโครโมโซมลูกน้อยในครรภ์ Noninvasive Prenatal Testing (NIPT)


“คงไม่มีคุณพ่อคุณแม่คนไหน อยากเห็นลูกที่เกิดมามีความผิดปกติ ทางด้านสมอง พัฒนาการและร่างกาย เช่น เป็นดาวน์ซินโดรม”

รู้ก่อน รับมือได้ทัน ตรวจคัดกรองความผิดปกติของโครโมโซมลูกน้อยในครรภ์

“คงไม่มีคุณพ่อคุณแม่คนไหน อยากเห็นลูกที่เกิดมามีความผิดปกติ ทางด้านสมอง พัฒนาการและร่างกาย เช่น เป็นดาวน์ซินโดรม” การตรวจ NIPT เป็นทางเลือกในการตรวจคัดกรองความผิดปกติของโครโมโซมของทารกในครรภ์ด้วยเทคโนโลยีการวิเคราะห์ลำดับเบสของดีเอ็นเอ (NGS) ตรวจหาความผิดปกติของโครโมโซม เช่น Trisomy 21, 18, 13 และโครโมโซมเพศ ดังนั้นคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ทุกท่านควรตรวจคัดกรองในระยะแรกๆ เพื่อหาแนวทางการวางแผนดูแลครรภ์ในอนาคต เพราะปัจจุบันพบว่า ในเด็กกลุ่มอาการดาวน์ซินโดรม 100 คน เกิดความผิดปกติจากแม่อายุมากกว่า 35 เพียง 25-30 คน อีก 70-75 คน เกิดจากแม่ที่มีอายุน้อย เด็กดาวน์เกือบทั้งหมดเกิดในครอบครัวที่ไม่เคยมีประวัติดาวน์ซินโดรมมาก่อน การตรวจนี้สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย
ข้อดีเมื่อตรวจคัดกรองความผิดปกติของโครโมโซมลูกน้อยในครรภ์
  • ประสิทธิภาพการตรวจพบดาวน์ซินโดรม >99%
  • ตรวจได้ตั้งแต่อายุครรภ์เพียง 10 สัปดาห์ขึ้นไป
  • เพียงเจาะเลือด 8-10 cc. และนำมาตรวจวิเคราะห์ DNA ของทารกที่อยู่ในเลือดแม่
  • ทราบผลภายใน 7-10 วันทำการ
  • ไม่เสี่ยงกับการแท้งเหมือนเจาะน้ำคร่ำ

รายการ

FOCUS

CORE

PRO

TWIN

Trisomy 21, 18, 13
Sex Chromosome Aneuploidies
Trisomy 9, 16, 22
Other Chromosome Aneuploidies
84 Kinds of Delettion / Duplication
Gender Identitcation Y Detection

ราคาแพคเกจ

12,350.-

12,350.-

18,850.-

18,850.-

วันนี้ - 31 ธันวาคม 2568

โปรแกรมและแพ็คเกจ

CYBERDYNE หุ่นยนต์ฟื้นฟู กล้ามเนื้ออ่อนแรง

CYBERDYNE หุ่นยนต์ฟื้นฟู กล้ามเนื้ออ่อนแรง

HAL® หรือ Hybrid Assistive Limb
HAL® หรือ Hybrid Assistive Limb ไซเบอร์ไดน์ หุ่นยนต์ประเภทไซบอร์กตัวแรกของโลกที่ใช้ในทางการแพทย์ สำหรับผู้ที่มีความผิดปกติในช่วงล่างและผู้ที่มีขาอ่อนแรง HAL จะช่วยเป็นผู้นำทางให้ผู้ป่วยไปสู่การเดินได้ ด้วยการผสานการทำงานระหว่างสมองมนุษย์ กับ หุ่นยนต์
การทำงานของ HAL หรือหุ่นยนต์ไซบอร์ก Cyberdyne แตกต่างจากหุ่นยนต์ทั่วไปที่ใช้ระบบสั่งการด้วยปุ่ม หรือรีโมตคอนโทรล หุ่นยนต์ไซบอร์ก Cyberdyne ใช้ระบบปฏิบัติการแบบผสมผสาน ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของหุ่นยนต์ Cyberdyne โดยผู้ป่วยจะสั่งการให้แขนขาขยับ HAL จะดักจับสัญญาณความคิดของผู้ป่วย และให้การช่วยเหลือมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับการตั้งค่าของแพทย์กายภาพ วิธีนี้จะทำให้มีการฟื้นฟูวงจรเคลื่อนไหวตามธรรมชาติให้กลับมาได้เร็วขึ้น ต่างจากหุ่นยนต์กายภาพโดยทั่วไปซึ่งไม่สามารถดักจับสัญญาณความคิดของผู้ป่วย แต่เป็นการทำงานช่วยเหลือในการเคลื่อนไหวเพียงอย่างเดียวทำให้ประสิทธิภาพต่ำกว่าในการฟื้นฟูผู้ป่วย
การทำงานของ CYBERDYNE
01 THINK
First of all, think "I want to walk!"
คิด ให้คิดว่า "ฉันอยากเดิน!"
เริ่มจากให้สมองเราคิดขึ้นมาในสมองว่า "ฉันอยากเดิน" เพราะก่อนที่คนเราจะขยับร่างกาย สมองจะต้องสั่งการก่อนเป็นอันดับแรก เมื่อเริ่มคิดว่า "ฉันอยากเดิน" สมองจะส่งสัญญาณ (Signal) ไปยังกล้ามเนื้อเพื่อให้เกิดการเคลื่อนไหวโดยผ่านไปยังเส้นประสาทต่างๆ (Nerves)
02 SEND
Receiving the signals, muscles move.
ส่ง : เมื่อรับสัญญาณ กล้ามเนื้อจะเคลื่อนไหว
ขั้นตอนต่อไป คือ การส่งสัญญาณจากสมองไปยังกล้ามเนื้อ กรณีคนที่มีสุขภาพเป็นปกติ กล้ามเนื้อแต่ละมัดจะสามารถสนองสัญญาณจากสมองได้อย่างแข็งแรงและรวดเร็วตามที่ใจเราคิด สำหรับการเดินเป็นกระบวนการที่ซับซ้อน เพราะสมองต้องควบคุมกล้ามเนื้อหลายมัด ซึ่ง HAL สามารถตอบสนองสัญญาณจากสมองได้เช่นเดียวกับ กล้ามเนื้อ
03 READ
HAL reads signals.
อ่าน : HAL อ่านสัญญาณ
ขั้นตอนนี้ HAL จะอ่านสัญญาณจากสมอง โดยสัญญาณจากสมองจะถูกส่งไปยังกล้ามเนื้อโดยการแพร่ผ่านไปยังผิวหนัง (Skin Surface) ซึ่งเรียกว่า Bio-electric signals [BES] ซึ่ง HAL นั้นสามารถอ่านสัญญาณ BES ได้ เพียงการแนบตัวจับสัญญาณไปบนผิวของร่างกาย แม้ในขณะที่เรายังสวมเสื้อผ้าอยู่ก็ยังสามารถจับสัญญาณ BES ได้ โดย HAL สามารถจับสัญญาณข้อมูลหลากหลายจากสมองว่าการเคลื่อนไหวอันไหนคือสิ่งที่สมองตั้งใจไว้
04 MOVE
HAL moves as the wearer intends.
เคลื่อนไหว : ตามที่ผู้สวมใส่ต้องการ

ขั้นตอนนี้ HAL จะเคลื่อนไหวได้ตามคำสั่งของสมอง และยังสามารถทำให้ผู้สวมใส่สามารถออกแรงได้มากกว่าตอนก่อนสวม ใส่ HAL ได้

O5 FEEDBACK
The brain learns motions.
ข้อเสนอแนะ : สมองเรียนรู้การเคลื่อนไหว
ขั้นตอนสุดท้ายของกลกนี่ไม่ใช่จบแค่การเคลื่อนไหวร่างกายได้เพียงเท่านั้น แต่สมองจะยืนยันว่าสัญญาณที่ส่งไปนั้นสามารถทำให้ร่างกายเคลื่อนไหวได้จริง ถ้าผู้ป่วยได้รับการช่วยเหลือเรื่องการเดินจาก HAL อย่างเหมาะสมในช่วงระยะเวลาหนึ่งแล้ว ความรู้สึกที่ว่า "ฉันสามารถเดินได้แล้ว" จะถูกส่งกลับไปที่สมอง นั่นคือสมองจะเรียนรู้แนวทางที่จะปล่อยสัญญาณที่เหมาะสมสำหรับการเดินได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการเดินได้เองโดยไม่จำเป็นต้องให้ HAL เข้ามาช่วยเหลืออีกต่อไป และทั้งหมดนี้คือ HAL หุ่นยนต์ที่มอบทางออกให้ผู้ป่วยที่เดินไม่ได้ให้กลับมาเดินได้อีกครั้ง
HAL ได้รับการผลิต CE [CE O197] เป็นครั้งแรกในฐานะอุปกรณ์การแพทย์หุ่นยนต์สำหรับใช้ในทางการแพทย์ ได้รับการรับรองว่าเป็นไปตามข้อกำหนดของ Medical Device Directives ในสหภาพยุโรป และได้รับใบรับรองจาก IS013485 (อุปกรณ์การแพทย์) เป็นครั้งแรกในฐานะผู้ผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้หุ่นยนต์ และยังได้การรับรองจากองค์การอาหารและยาประเทศสหรัฐอเมริกา (US FDA) ตั้งแต่ปี 2560
ไซเบอร์ดายน์ เหมาะกับใคร
กลุ่มผู้ป่วยที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ หรือมีความผิดปกติทางร่างกายในการเคลื่อนไหว ได้แก่

  • ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง
  • ผู้ที่มีอาการบาดเจ็บที่ไขสันหลัง
  • ผู้ที่ศูนย์เสียการทรงตัวและการเคลื่อนไหว
  • ผู้ที่เกิดอุบัติเหตุทางสมอง
  • ผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับระบบประสาทและกล้ามเนื้อ
  • ผู้ป่วยโปลิโอ
การรักษาขึ้นอยู่กันแนวทางการรักษาของแพทย์ระบบประสาทและสมอง และแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู
ครอบครัวของ HAL มีด้วยกันอยู่ 3 รุ่นด้วยกัน ได้แก่
กลุ่มผู้ป่วยที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ หรือมีความผิดปกติทางร่างกายในการเคลื่อนไหว ได้แก่

  • HAL Lower Limb Type ช่วยในการฟื้นฟูผู้ป่วยอัมพาตส่วนล่างตั้งแต่เอวลงไปถึงเท้า
  • HAL Single Joint Type ช่วยคนไข้ที่ไม่สามารถยืดหรือหดข้อได้ไม่ว่าจะเป็นข้อแขน มือ เข่า หรือเท้า
  • HAL Lumbar Type ช่วยคนไข้ที่ไม่สามารถยกตัวขึ้นได้หรือสูญเสียความสามารถในการนั่ง
ด้วยความห่วงใยและปรารถนาดี
พญ.ชุติมา สายเพ็ชร์
อายุรแพทย์ระบบประสาทและสมอง
อัตราค่าบริการ
 
Lower Limb
จำนวนครั้ง
ราคา
หมายเหตุ
1 ครั้ง
8,500
รวมค่าแพทย์และค่าบริการ รพ.
4 ครั้ง
32,000 รวมค่าแพทย์และค่าบริการ รพ
8 ครั้ง
62,000
รวมค่าแพทย์และค่าบริการ รพ.
16 ครั้ง
120,000 รวมค่าแพทย์และค่าบริการ รพ
 
Single Joint
จำนวนครั้ง
ราคา
หมายเหตุ
1 ครั้ง
7,500
รวมค่าแพทย์และค่าบริการ รพ.
4 ครั้ง
28,000 รวมค่าแพทย์และค่าบริการ รพ
8 ครั้ง
54,000
รวมค่าแพทย์และค่าบริการ รพ.
16 ครั้ง
104,000 รวมค่าแพทย์และค่าบริการ รพ

 

โปรแกรมและแพ็คเกจ

โปรแกรม ตรวจสุขภาพ S M L

ชุดตรวจสุขภาพ S, M, L


เพื่อให้คุณและครอบครัว มีสุขภาพดีจะซื้อเป็นของขวัญ หรือ ซื้อเพื่อดูแลตัวเอง ก็คุ้ม
- ลดเพิ่ม เมื่อซื้อโปรแกรมตรวจชุดใดก็ได้ วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 649.- (ปกติ 849.-)

ชุดตรวจสุขภาพ S, M, L

ชุดตรวจสุขภาพที่เหมาะสมในแต่ละช่วงอายุ
ปัจจุบันการดำเนินชีวิตของคนในสังคม ต้องทำงานแข่งกับเวลาอย่างเร่งรีบ และอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีมลภาวะเป็นพิษ จึงมีพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อสุขภาพ เช่น การขาดการออกกำลังกาย การไม่ตระหนักในการรับประทานอาหาร รวมถึงมลภาวะทางจิตใจ ขาดความสมดุลของชีวิต ทำให้เกิดความเคยชิน จนกลายเป็นภัยคุกคามสุขภาพได้
การตรวจสุขภาพประจำปีจึงมีความจำเป็น เพื่อสำรวจว่าระบบต่างๆ ในร่างกายเรามีความผิดปกติ หรือมีความบกพร่องที่อัวยวะใด เพื่อจะได้รักษา ป้องกัน หรือ ผ่อนหนักให้เป็นเบา หากมีการดูแลอย่างดี ตรวจสอบหาข้อบกพร่อง และแก้ไขแต่ระยะต้นๆ ร่างกายก็จะอยู่กับเราได้นานขึ้น และมีคุณภาพชีวิตที่ดี
รายการ
S Care
สำหรับช่วงอายุต่ำกว่า 30 ปี
(20 รายการ)
M Care
สำหรับช่วงอายุ 30 - 40 ปี
L Care
สำหรับช่วงอายุมากกว่า 40 ปี
ชาย
(22 รายการ)
หญิง
(24 รายการ)
ชาย
(33 รายการ)
หญิง
(34 รายการ)
ตรวจร่างกายโดยแพทย์ Physical Examination
ความสมบูรณ์ของเลือด CBC
ตรวจน้ำตาลในเลือด FBS
HbA1C
ตรวจการทำงานของตับ SGPT
SGOT
Alkaline Phosphatase
Bilirubin (Total Bilirubin, Direct Bilirubin)
Total Protein (Albumin, Globulin)
ตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบบี HBsAg
ตรวจหาภูมิคุ้มกันไวรัสตับบี HBsAb
ตรวจการทำงานของไตและกรวยไต BUN
Creatinine
eGFR
ตรวจการทำงานของต่อมธัยรอยด์ TSH and Free T4
ตรวจระดับกรดยูริก (โรคเก๊าท์) Uric Acid
ตรวจไขมันในเลือด Cholesterol
Triglyceride
HDL
LDL
ตรวจสารบ่งชี้มะเร็งตับ AFP for Liver Cancer
ตรวจสารบ่งชี้มะเร็งลำไส้ CEA for GI Cancer
ตรวจมะเร็งต่อมลูกหมาก PSA for Prostate Cancer
ตรวจปัสสวะ Urine Examination
ตรวจอุจจาระ Stool Examination with Occult blood
ตรวจความหนาแน่นของมวลกระดูก Bone Density (lumbar, hip)
ตรวจสมรรถภาพการไหลเวียนของระบบเส้นเลือด Ankle Brachial Index (ABI)
ตรวจเอกซเรย์ปอดและหัวใจ Chest X-ray
ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ Electrocardiogram (EKG)
ตรวจหัวใจด้วยการวิ่งสายพานหรืออัลตราซาวด์ Exercise Stress Test or Echocardiogram
ตรวจอัลตราซาวด์อวัยวะช่องท้อง Ultrasound Whole Abdomen
ตรวจมะเร็งปากมดลูก Liquid Pap Smear
ตรวจแมมโมแกรมมะเร็งเต้านมและอัลตราซาวด์ Mammogram and Breast Ultrasound
การหาดัชนีมวลกาย Body Mass Index
อาหาร/สมุดตรวจสุขภาพ Bangpo Snack Bag / Health Check-Up Report
ราคาปกติ 4,490.- 7,940.- 12,450.- 19,510.- 22,270.-
ราคาแพ็คเกจ 2,900.- 5,500.- 8,200.- 13,300.- 15,800.-
ลดเพิ่ม วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 649.- (ปกติ 849.-)
เมื่อซื้อโปรแกรมตรวจชุดใดก็ได้
กรุณางดน้ำและอาหารอย่างน้อย 8 ชั่วโมง ก่อนเข้ารับการตรวจสุขภาพ
ความเหมาะสมแต่ละช่วงอายุ
โปรแกรมตรวจสุขภาพ
ความเหมาะสม
S Care
สำหรับผู้ที่มีอายุน้อยกว่า  30 ปี หรือวัยทำงาน
M Care
สำหรับผู้ที่มีอายุระหว่าง 30 - 40 ปี  หรือ วัยทำงานและผู้ใหญ่ที่ต้องการตรวจละเอียดมากขึ้น
L Care
สำหรับผู้ที่มีอายุมากกว่า  40  ปีขึ้นไป หรือผู้ที่เตรียมสู่วัยผู้สูงอายุอย่างมีคุณภาพ
วันนี้ - 31 ธันวาคม 2568

โปรแกรมและแพ็คเกจ

โปรแกรมตรวจสุขภาพเพศชาย

โปรแกรมตรวจสุขภาพเพศชาย

Man Health Check Up

โปรแกรมตรวจสุขภาพเพศชาย : 4,900.-


โปรแกรมตรวจสุขภาพเพศชาย และรักษาภาวะชายวัยทอง ภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศองคชาติไม่แข็งตัว หรือแข็งตัวไม่เต็มที่ สาเหตุจากปัญหาสุขภาพ ขาดการออกกำลังกาย การดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ ความเครียด ความวิตกกังวล มีผลทำให้เกิดการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ได้โดยไม่รู้ตัว

โปรแกรมตรวจสุขภาพเพศชาย

ดูแลสุขภาพคุณผู้ชาย โดยแพทย์เฉพาะทาง
โปรแกรมตรวจสุขภาพเพศชาย ดูแลสุขภาพคุณผู้ชาย โดยแพทย์เฉพาะทาง พร้อมรักษาภาวะชายวัยทอง ภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศองคชาติไม่แข็งตัว หรือแข็งตัวไม่เต็มที่ สาเหตุจากปัญหาสุขภาพ ขาดการออกกำลังกาย การดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ ความเครียด ความวิตกกังวล มีผลทำให้เกิดการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ได้โดยไม่รู้ตัว
โรงพยาบาลบางโพ ร่วมส่งเสริมให้คุณมีสุขภาพดี
ตรวจ 12 รายการ เพียง 4,900.-
รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาลแล้ว
  • ตรวจร่างกายทั่วไปโดยแพทย์ Physical Examination
  • ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด CBC
  • ตรวจหาระดับน้ำตาลในเลือด FBS
  • ตรวจหาระดับไขมันในเลือด Cholesterol
  • ตรวจหาระดับไขมันในเลือด Triglyceride
  • ตรวจหาระดับไขมันชนิดดีในเลือด HDL
  • ตรวจหาระดับไขมันชนิดไม่ดีในเลือด LDL
  • ตรวจสมรรถภาพการทำงานของไต BUN
  • ตรวจสมรรถภาพการทำงานของไต Creatinine
  • ตรวจหาระดับเกลือแร่ในเลือด (Electrolyte)
  • ตรวจหาสารบ่งชี้มะเร็งต่อมลูกหมาก (PSA)
  • ตรวจระดับฮอร์โมนเพศชาย (Testosterone)

การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการตรวจ
  • กรุณางดน้ำและอาหารอย่างน้อย 8 ชั่วโมง ก่อนเข้ารับการตรวจสุขภาพ
  • หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกกอฮอล์ อย่างน้อย 24 ชั่วโมง ก่อนเข้ารับการตรวจ
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

โปรแกรมฟื้นฟูสมรรถภาพสำหรับเพศชาย ด้วยเครื่อง Shock Wave

การรักษาด้วยเครื่อง Shock Wave เป็นการฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศสำหรับคุณผู้ชาย โดยส่งคลื่นกระแทกผ่านชั้นผิวหนังลงไปถึงบริเวณเอ็นและกล้ามเนื้อลึกประมาณ 3-4 เซนติเมตร กระตุ้นให้เกิดการสร้างหลอดเลือดใหม่ และซ่อมแซมเนื้อเยื่อ เส้นเอ็น ไม่ต้องพี่งยา ไม่เจ็บ และไม่มีผลข้างเคียง จำนวนครั้งและความถี่ในการรักษาของแต่ละคนขึ้นอยู่กับแพทย์และความรุนแรงของโรค แล้วความสุขของชีวิตคู่จะกลับมาอีกครั้ง


Shock Wave
แพ็คเกจเสริม
จำนวนครั้ง
ราคา
Shock Wave
1 ครั้ง
8,000.-
รวมค่าแพทย์และค่าบริการ รพ.
Shock Wave
3 ครั้ง
22,000.-
รวมค่าแพทย์และค่าบริการ รพ.
Shock Wave
6 ครั้ง
39,000.-
รวมค่าแพทย์และค่าบริการ รพ.
วันนี้ - 31 ธันวาคม 2568

โปรแกรมและแพ็คเกจ

กระตุ้นสมองด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (TMS)

กระตุ้นสมองด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (TMS)

Transcranial Magnetic Stimulation
กระตุ้นสมองด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (TMS)
กระตุ้นสมองด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (Transcranial Magnetic Stimulation) นวัตกรรมในการฟื้นฟูผู้ป่วยที่มีภาวะอ่อนแรง ชา หรือกล้ามเนื้อเกร็งทั้งแบบเฉียบพลันและเรื้อรัง สามารถใช้ในการฟื้นฟูและรักษาโรคหลอดเลือดสมองตีบ โรคซึมเศร้า ปวดศีรษะ โรคสมองเสื่อม โรคพาร์กินสัน และอาการปวดชาจากเส้นประสาท
การรักษาด้วย TMS ปลอดภัยแค่ไหนมีผลข้างเคียงหรือไม่?
เนื่องจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากเทคโนโลยีนี้ มีผลอยู่ในวงจำกัดที่แคบมาก เพียง 1-3 เซนติเมตรจากหัวกระตุ้น จึงไม่มีผลกระทบที่อันตรายต่ออวัยวะของร่างกาย มีเพียงข้อห้ามใช้ผู้ป่วยบางรายดังต่อไปนี้
  • ผู้ป่วยที่มีโลหะที่เหนี่ยวนาแม่เหล็กบริเวณศีรษะหรือพื้นที่รักษาในระยะ 30 เซนติเมตร เช่น Sutures, Clips, coils,Magnetic Dental Implants or Insulin Pumps
  • ผู้ป่วยที่มีเครื่องมือทางการรักษาเป็นระบบดิจิตอลต่างๆ เช่น Pacemakers, Implantable Cardioverter Defibrillators,Vagus Nerve Stimulators [VNS] and Wearable Cardioverter Defibrillators [WCD’s])
  • ผู้ป่วยที่มีประวัติชักหรือภาวะชักที่ไม่สามารถควบคุมได้
  • ผู้ป่วยที่ใส่เครื่องระบายน้ำในโพรงสมอง
  • ผู้ป่วยที่มีอวัยวะเทียมที่เป็นโลหะที่เพิ่งใส่มาไม่นาน
  • สตรีมีครรภ์
ผู้ป่วยส่วนมากจะไม่พบอาการข้างเคียงภายหลังการรักษา ผลข้างเคียงที่สาคัญแต่พบได้น้อยมากคือ อาการชัก ซึ่งพบได้ประมาณ 0.02-0.2% ในผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการอ่อนเพลียหรือง่วงนอนภายหลังการกระตุ้น บางรายพบอาการปวดัีรษะหรือระคายเคืองบริเวณที่ถูกกระตุ้นได้เล็กน้อย แต่อาการเหล่านี้จะอยู่เพียง 1-2 ชั่วโมงหลังทำ หากผู้ป่วยรู้สึกไม่สุขสบาย สามารถทานยาลดปวดพาราเซตามอลได้
การรักษาแต่ละครั้งใช้เวลานานเท่าไหร่?
ระยะเวลาในการรักษาต่อครั้งอยู่ที่ 30-60 นาที ความถี่ในการรักษาประมาณ 1-3 ครั้งต่อสัปดาห์แล้วแต่อาการและโรคของผู้ป่วยแต่ละราย
อัตราการเข้ารับการรักษาโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke)
แพคเกจ Stroke
รายการ
ราคา
1 ครั้ง 2,500.-
5 ครั้ง 12,250.-
10 ครั้ง 24,000.-
รวมค่าแพทย์แล้ว (ยังไม่รวมค่าบริการโรงพยาบาล)
อัตราการเข้ารับการรักษาโรคซึมเศร้า ปวดไมเกรน นอนไม่หลับ ย้ำคิดย้ำทำ และอื่นๆ
แพคเกจ Depression
รายการ
ราคา
1 ครั้ง 1,800.-
5 ครั้ง 8,750.-
10 ครั้ง 17,000.-
รวมค่าแพทย์แล้ว (ยังไม่รวมค่าบริการโรงพยาบาล)
กรุณานัดหมายล่วงหน้า เพื่อวางแผนในการรักษาให้ดีที่สุด โปรดนำประวัติการรักษาและหนังสือส่งตัวจากแพทย์ประจำมาด้วย
ลงเทะเบียนนัดหมาย พยาบาลจะติดต่อกลับเพื่อสอบถามข้อมูล
วันนี้ -31 ธันวาคม 2568

โปรแกรมและแพ็คเกจ

วัคซีนปัองกันโรคมือ เท้า ปาก (EV71)

วัคซีนป้องกันโรคมือ เท้า ปาก จากเชื้อ Enterovirus 71

Hand Foot Mouth Vaccine

วัคซีนป้องกันโรคมือเท้าปาก จากไวรัส EV71

2 เข็ม : 5,990.-


วัคซีนป้องกันโรคมือเท้าปาก จากไวรัส EV71
ซึ่งไวรัสชนิดนี้ทำให้เกินโรคมือเท้าปากรุนแรง ทำให้เกิดสมองอักเสบ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ หรือกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ วัคซีนกันเฉพาะโรคมือเท้าปากชนิดรุนแรง แต่ไม่ได้ป้องกันโรคมือเท้าปากตามฤดูกาล

โรคมือ เท้า ปาก (Hand Foot Mouth Disease) เป็นโรคที่มักพบการติดเชื้อในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ในโรงเรียน สถานรับเลี้ยงเด็ก ศูนย์เด็กเล็กและในที่อยู่รวมกันอย่างแออัดจะมีโอกาสที่เกิดการระบาดได้ มักระบาดในฤดูฝน แต่บางรายจะมีอาการรุนแรงขึ้นอยู่กับชนิดของไวรัสที่มีการติดเชื้อ โรคนี้ติดต่อโดยการสัมผัสน้ำลาย น้ำมูก เสมหะ ตุ่มหรือผื่นที่ผิวหนัง ทั้งสัมผัสโดยตรงและสัมผัสเชื้อทางอ้อม
โรคมือ เท้า ปากเกิดจากเชื้อไวรัสในกลุ่ม Enteroviruses ซึ่งมีหลายสายพันธุ์ โรคมือเท้าปาก ส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสที่ชื่อว่า coxsackie A16 มักไม่รุนแรง เด็กจะหายเป็นปกติภายใน 7-10 วัน ส่วนที่เกิดจาก Enterovirus 71 อาจพบโรครุนแรง เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบ สมองอักเสบ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ เป็นต้น
วัตซีนป้องกันโรคมือ เท้า ปากชนิดนี้ สามารถปัองกันไวรัสในกลุ่ม Enterovirus 71 ซึ่งเป็นชนิดรุนแรงที่ทำให้เกิดโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ โรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หรือภาวะน้ำท่วมปอด ส่วนกลุ่มไวรัส coxsackie A16 ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน ดังนั้นการป้องกันที่สำคัญ คือ หมั่นล้างมือด้วยสบู่ ทำความสะอาดของเล่นและสิ่งแวดล้อมทุกวัน แยกของใช้ส่วนตัว ทั้งที่บ้านและโรงเรียน หากพบผู้ป่วยเด็กควรแยกไม่ให้ไปสัมผัสกับเด็กคนอื่น

วัคซีนมือ เท้า ปาก

2 เข็ม 5,990.-

เหมาะสำหรับเด็กอายุ 6 เดือนถึง 5 ปี 11 เดือน
เงื่อนไขการใช้บริการ
  1. ราคาดังกล่าวไม่รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาล
  2. สำหรับเด็กอายุ 6 เดือน - 5 ปี 11 เดือน
  3. ควรได้รับการฉีด 2 เข็ม ห่างจากเข็มแรก 1 เดือน
  4. เด็กที่เคยเป็นโรคมือ เท้า ปาก สามารถฉีดได้ โดยเว้นระยะห่าง 1 เดือนหลังหายจากโรค
  5. เด็กที่ได้รับวัคซีนอื่นๆ ต้องเว้นระยะห่าง 2 สัปดาห์ ก่อนเริ่มวัคซีนชนิดใหม่
  6. ชอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลง โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
วันนี้ - 31 ธันวาคม 2568

โปรแกรมและแพ็คเกจ

แพคเกจ ทดสอบภูมิแพ้ บนผิวหนัง

รู้และหลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้แพ้ ด้วยการทดสอบภูมิแพ้บนผิวหนัง

Test Skin


การหลีกเลี่ยงต่อสิ่งที่ทำให้แพ้อย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้เป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะท่านต้องอยู่โรค

Test ภูมิแพ้ ด้วยการทดสอบบนผิวหนัง

Allergy test
การหลีกเลี่ยงต่อสิ่งที่ทำให้แพ้ ตามปกติแล้วการหลีกเลี่ยงต่อสิ่งที่ทำให้ท่านแพ้ที่ผ่านระบบหายใจ เป็นสิ่งที่ทำได้ยาก มักจะทำได้ไม่สมบูรณ์เด็ดขาดเหมือนกรณีที่แพ้อาหาร การหลีกเลี่ยงอย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้เป็นสิ่งที่จำเป็น ถ้าท่านสามารถปฏิบัติได้ อาการต่างๆ เกี่ยวกับโรคที่ท่านเป็นอยู่จะดีขึ้น ซึ่งเป็นผลดีกับตัวท่านเอง ในแง่นี้อาจจะไม่ต้องมารักษาเลย ทั้งเป็นการทุ่นเวลาและทรัพย์ของท่านเองด้วย ในบางครั้งท่านหลีกเลี่ยงจากสิ่งที่แพ้แล้วยังมีอาการเป็นครั้งคราว หรือบางฤดูกาลท่านอาจจะต้องรับประทานยาช่วยเป็นครั้งคราว อย่าลืมว่าการหลีกเลี่ยงจากสิ่งที่แพ้เป็นวิธีที่ดีที่สุด

การทดสอบภฺมิแพ้บนผิวหนัง
 
 
เงื่อนไขการใช้บริการ
  • นัดหมายล่วงหน้า โทร. 02 587 0144  ต่อ 2220
  • ไม่รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาล
วันนี้ - 30 มิถุนายน 2568

โปรแกรมและแพ็คเกจ