การเสียชีวิตกะทันหันจากโรคหัวใจในนักกีฬาวัยรุ่น

การเสียชีวิตกะทันหันจากโรคหัวใจในนักกีฬาวัยรุ่น

การเสียชีวิตกะทันหันจากโรคหัวใจในนักกีฬาวัยรุ่น
การเสียชีวิตกะทันหันจากโรคหัวใจเป็นภาวะที่หัวใจหยุดเต้นกะทันหันซึ่งเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและไม่คาดคิด การหายใจและการไหลเวียนของเลือดหยุดลงทันที ภายในไม่กี่วินาที ผู้ป่วยจะหมดสติและเสียชีวิต
การเสียชีวิตกะทันหันจากโรคหัวใจในผู้ที่ดูเหมือนมีสุขภาพดีและมีอายุต่ำกว่า 35 ปีนั้นพบได้น้อย โดยพบได้บ่อยในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ส่วนมากเกิดจากโรคหัวใจที่ไม่ได้รับการวินิจฉัย เช่น โรคกล้ามเนื้อหัวใจห้องล่างซ้ายหนาตัวหรือหัวใจเต้นผิดจังหวะ ทางพันธุกรรม ซึ่งอาจทำให้คนหนุ่มสาวเสียชีวิตกะทันหันระหว่างทำกิจกรรมที่ต้องใช้แรง เช่น การแข่งขันกีฬา แต่การเสียชีวิตกะทันหันก็อาจเกิดขึ้นได้แม้ขณะที่พักหลับ
ภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันพบได้บ่อยเพียงใดในวัยรุ่น
ภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นในผู้สูงอายุ โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคหัวใจ อย่างไรก็ตามภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของนักกีฬาวัยรุ่น ในแต่ละปีมีนักกีฬาวัยรุ่นประมาณ 1 ใน 50,000-100,000 คน เสียชีวิตจากภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน
อะไรเป็นสาเหตุของภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันในวัยรุ่น
การเปลี่ยนแปลงของคลื่นไฟฟ้าหัวใจมักทำให้เกิดภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน การเต้นของหัวใจที่เร็วมากทำให้ห้องหัวใจด้านล่างบีบตัวอย่างรวดเร็วและไม่ประสานกัน หัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกายได้ ภาวะหัวใจห้องล่างเต้นผิดจังหวะเป็นอันตรายถึงชีวิต ภาวะที่หัวใจทำงานหนักเกินไปหรือมีการทำลายเนื้อเยื่อหัวใจอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันได้
โรคที่อาจเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตจากภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันในวัยรุ่น ได้แก่:
  • โรคกล้ามเนื้อหัวใจหนาผิดปกติ ภาวะทางพันธุกรรมนี้เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของการเสียชีวิตจากภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันในวัยรุ่น การหนาขึ้นนี้ทำให้หัวใจสูบฉีดเลือดได้ยาก
  • กลุ่มอาการ QT ยาวแต่กำเนิด ภาวะนี้อาจทำให้หัวใจเต้นเร็วและผิดจังหวะ นำมาซึ่งอาการเป็นลมโดยไม่ทราบสาเหตุและการเสียชีวิตกะทันหัน โดยเฉพาะในคนอายุน้อย
  • ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะอื่นๆ เช่น กลุ่มอาการบรูกาดา และกลุ่มอาการวูล์ฟ-พาร์กินสัน-ไวท์
  • การถูกกระแทกที่หน้าอกอย่างรุนแรง การบาดเจ็บที่หน้าอกจากของแข็งซึ่งทำให้เกิดการเสียชีวิตจากภาวะหัวใจหยุด เต้นเฉียบพลัน เรียกว่า commotio cordis ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะอาจเกิดขึ้นในนักกีฬาที่ถูกอุปกรณ์กีฬา หรือผู้เล่นคนอื่นกระแทกเข้าที่หน้าอกอย่างแรง
การเสียชีวิตกะทันหันในวัยรุ่นสามารถป้องกันได้หรือไม่
  1. ควรเล่นกีฬาในศูนย์กีฬามาตรฐานที่มีเครื่องกระตุ้นหัวใจไฟฟ้าอัตโนมัติ (AED) เผื่อเหตุการณ์ฉุกเฉิน หากมีอาการหรือภาวะดังกล่าวข้างต้น
  2. แนะนำให้เข้ารับการตรวจคัดกรองที่แผนกอายุรกรรมเฉพาะทางโรคหัวใจ เพื่อตรวจหาโรคหัวใจที่อาจทำให้เกิดภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันได้
ใครควรได้รับการตรวจคัดกรอง
ผู้ที่มีอาการหรือภาวะต่างๆดังต่อไปนี้
  1. เป็นลม/หมดสติ โดยเฉพาะเมื่อเกิดขึ้นระหว่างทำกิจกรรมหรือออกกำลังกาย
  2. เจ็บหน้าอก
  3. มีประวัติครอบครัวเกิดภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน

โปรแกรมและแพ็คเกจ

พญ.ภัสสร โชคสมนึก

พญ.ภัคทิพา ภัทรโกศล
อายุรกรรมโรคเลือด

พญ.ภัสสร โชคสมนึก

PHATSORN CHOKSOMNUK, M.D.
Specialty
  • อายุรศาสตร์โลหิตวิทยา

Language Spoken
  • อังกฤษ, ไทย

ปริญญาบัตรและสถาบันการศึกษา
  • แพทยศาสตร์บัณฑิต (พ.บ.) คณะแพทยศาสตร์  มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์
  • วุฒิบัตร อายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
  • วว.อายุรศาสตร์โลหิตวิทยา คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหววิทยาลัยมหิดล

ตารางออกตรวจ
วัน เวลา
SUN 09:00 - 12:00

วัคซีนป้องกันไวรัส RSV

วัคซีนป้องกันไวรัส RSV

สำหรับผู้สูงอายุ 60 ปี ขึ้นไป หรือ 50 – 59 ปี ที่มีโรคร่วม

9,500.-

รวมค่าแพทย์และค่าบริการ
  • ป้องกันการติดเชื้อ RSV 82.6%
  • กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้สร้างแอนติบอดี ที่สามารถป้องกันการติดเชื้อไวรัส
  • ลดความเสี่ยงการรักษาในโรงพยาบาล ลดการเกิดโรคแทรกซ้อนที่รุนแรง
    • โรคหลอดลมอักเสบและโรคปอดบวมจากไวรัส RSV

วัคซีนป้องกันไวรัส RSV

RSV Vaccine
ในอดีต RSV เป็นไวรัสที่ไม่มีวัคซีนในการป้องกัน แต่ในปัจจุบัน มีการวิจัยพัฒนาวัคซีน RSV ขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี ค.ศ.2023 องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (FDA) ได้อนุมัติวัคซีน RSV ตัวแรกสำหรับผู้สูงอายุและสตรีมีครรภ์ นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาวัคซีนเพิ่มเติมและการศึกษาทางคลินิกที่กำลังดำเนินการเพื่อสร้างวัคซีนที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้นสำหรับกลุ่มประชากรที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ RSV
ปัจจุบันในโรงพยาบาลบางโพมีวัคซีนที่เป็น Adjuvanted monovalent RSV vaccine (Arexvy) เป็นทางเลือกสำหรับผู้ต้องการรับวัคซีน RSV โดยข้อมูลในปัจจุบันแนะนำให้ฉีดเข้ากล้าม 1 เข็ม โดยไม่ต้องมีการฉีดกระตุ้น
วัคซีนป้องกันไวรัส RSV
สำหรับผู้สูงอายุ 60 ปี ขึ้นไป หรือ 50 - 59 ปี ที่มีโรคร่วม
  • ป้องกันการติดเชื้อ RSV 82.6%
  • กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้สร้างแอนติบอดี ที่สามารถป้องกันการติดเชื้อไวรัส
  • ลดความเสี่ยงการรักษาในโรงพยาบาล ลดการเกิดโรคแทรกซ้อนที่รุนแรง
    • โรคหลอดลมอักเสบและโรคปอดบวมจากไวรัส RSV
คำแนะนำในการฉีด
ผู้ที่ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเสี่ยงและประโยชน์ของการรับวัคซีน
  • ผู้ที่มีประวัติการแพ้ยาหรือวัคซีนอื่นๆ
  • ผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือได้รับการรักษาด้วยยาที่กดระบบภูมิคุ้มกัน
วันนี้ - 30 มิถุนายน 2568

โปรแกรมและแพ็คเกจ

RSV ไวรัส วายร้าย ในผู้สูงวัย ป้องกันด้วยวัคซีน

RSV ไวรัส วายร้าย ในผู้สูงวัย ป้องกันด้วยวัคซีน

RSV Vaccine
การติดเชื้อไวรัส RSV (Respiratory Syncytial Virus)
RSV เป็นไวรัสที่ทำให้เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจทั้งส่วนบนและส่วนล่าง เป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญของโรคหลอดลมอักเสบ (Bronchiolitis) และปอดบวม (Pneumonia) โดยเฉพาะในเด็กเล็ก, ผู้สูงอายุ, ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง และผู้ที่มีโรคหัวใจหรือปอด โดยสามารถแพร่กระจายได้ง่ายผ่านการสัมผัสโดยตรงกับสารคัดหลั่งจากทางเดินหายใจ เช่น น้ำมูก น้ำลาย และผ่านละอองฝอยที่เกิดจากการไอหรือจาม
โดยอาการจะคล้ายไข้หวัด เช่น ไอ มีไข้ น้ำมูกไหล เจ็บคอ คัดจมูก อาจมีอาการ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ในผู้สูงอายุและผู้ที่มีปัญหาสุขภาพเรื้อรัง อาจเกิดโรคแทรกซ้อนรุนแรง เช่น ปอดบวม ปัจจุบันยังไม่มียาที่สามารถฆ่าไวรัส RSV ได้ การรักษาส่วนใหญ่เป็นการรักษาตามอาการ ถ้ามีอาการรุนแรงอาจด้วยการใช้ยาขยายหลอดลมหรือให้ออกซิเจน รวมถึงเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล
การป้องกันการติดเชื้อ โดยการปฏิบัติเหมือนการป้องกันการติดเชื้อทางเดินหายใจอื่นๆ เช่น การล้างมือบ่อยๆ การสวมหน้ากากอนามัย หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มีอาการหวัด การฉีดวัคซีน RSV สำหรับกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุ
วัคซีน RSV
ในอดีต RSV เป็นไวรัสที่ไม่มีวัคซีนในการป้องกัน แต่ในปัจจุบัน มีการวิจัยพัฒนาวัคซีน RSV ขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี ค.ศ.2023 องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (FDA) ได้อนุมัติวัคซีน RSV ตัวแรกสำหรับผู้สูงอายุและสตรีมีครรภ์ นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาวัคซีนเพิ่มเติมและการศึกษาทางคลินิกที่กำลังดำเนินการเพื่อสร้างวัคซีนที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้นสำหรับกลุ่มประชากรที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ RSV
ปัจจุบันในโรงพยาบาลบางโพมีวัคซีนที่เป็น Adjuvanted monovalent RSV vaccine (Arexvy) เป็นทางเลือกสำหรับผู้ต้องการรับวัคซีน RSV โดยข้อมูลในปัจจุบันแนะนำให้ฉีดเข้ากล้าม 1 เข็ม โดยไม่ต้องมีการฉีดกระตุ้น
ข้อบ่งชี้
  • ผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป
  • ผู้มีอายุ 50-59 ปี แต่มีโรคร่วมที่เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อรุนแรง เช่น โรคหัวใจ โรคปอดเรื้อรัง เบาหวาน โรคหลอดเลือดสมอง
ประสิทธิภาพ
  1. ลดอัตราการติดเชื้อ RSV ที่มีอาการได้ 82.6%
  2. ลดอัตราการเกิดโรคหลอดลมอักเสบและปอดบวมได้ 94.6%
  3. ลดความรุนแรงของอาการในผู้ที่ติดเชื้อ และลดการรักษาในโรงพยาบาล
  4. ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคแทรกซ้อนที่รุนแรง
ผลข้างเคียง
ผลข้างเคียงทั่วไปที่พบได้บ่อยหลังจากการฉีดวัคซีน ได้แก่ ปวดบริเวณที่ฉีด อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ และมีไข้เล็กน้อย โดยส่วนใหญ่เป็นอาการที่ไม่รุนแรงและมักจะหายไปภายในไม่กี่วัน
ข้อห้ามและข้อควรระวัง
ผู้ที่ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเสี่ยงและประโยชน์ของการรับวัคซีน
  1. ผู้ที่มีประวัติการแพ้ยาหรือวัคซีนอื่น ๆ หรืออย่างรุนแรงต่อส่วนประกอบใด ๆ ของวัคซีน
  2. ผู้ที่ป่วยหนักหรือมีไข้สูงควรเลื่อนการรับวัคซีนจนกว่าจะหายดี
  3. ผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือได้รับการรักษาด้วยยาที่กดระบบภูมิคุ้มกัน
  4. หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร
การดูแลหลังการรับวัคซีน
  • ควรติดตามอาการของตัวเอง หากมีอาการแพ้อย่างรุนแรง เช่น หายใจลำบาก บวมที่หน้าและคอ หรือลมพิษ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
  • ควรพักผ่อนและดื่มน้ำมากๆ เพื่อช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้น
สรุป
วัคซีนมีข้อห้ามและข้อควรระวังบางประการที่ผู้รับวัคซีนควรทราบ การปรึกษาแพทย์หรือผู้ให้บริการสุขภาพก่อนการรับวัคซีนเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้แน่ใจว่าการรับวัคซีนเป็นไปอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อไวรัส RSV

โปรแกรมและแพ็คเกจ

Promotion BOTOX

Promotion Botox

BEAUTY BOOM

BOTOX : 12,777.-


 

BOTOX

โบท็อกซ์ (Botox) เป็นชื่อทางการค้าเนื่องจากเจ้าแรกที่ผลิตใช้ชื่อสินค้าว่า Botox แต่จริงๆแล้วคือตัวยาที่ชื่อว่า Botulinum Toxin type A ซึ่งเป็นโปรตีน ชนิดหนึ่ง ที่สร้างจาก แบคทีเรีย ชื่อ คลอสตริเดียม โบทูลินั่ม (Clostridium botulinum) ออกฤทธิ์โดยการไปจับกับส่วนปลายของเซลล์ประสาท ทำให้เซลล์ประสาท ไม่สามารถหลั่งสารสื่อประสาทได้ กล้ามเนื้อจึงคลายตัว โดยจะเริ่มออกฤทธิ์ภายใน 2-3 วัน และเห็นผลสูงสุดในเวลาประมาณ 2 สัปดาห์ ยกเว้นกรามจะเห็นผลได้ชัดสุดในเวลา 1-2 เดือน
วันนี้ - 31 ธันวาคม 2567

โปรแกรมและแพ็คเกจ

ดูแลระบบทางเดินอาหารด้วยโปรแกรม “ส่องกล้อง อุ่นใจ”

ดูแลระบบทางเดินอาหารด้วยโปรแกรม "ส่องกล้อง อุ่นใจ"

โปรแกรมส่องกล้อง หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ลำไส้เล็กส่วนต้น

โปรแกรมส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่

โปรแกรส่องกล้องกระเพาะอาหารและลำไส้ใหญ่


จุกเสียด แน่นท้อง ท้องผูก ท้องเสียเรื้อรัง น้ำหนักลด

โปรแกรมคัดกรอง “ ส่องกล้อง อุ่นใจ ” (ไม่พักค้างคืน)

ส่องกล้อง หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ลำไส้เล็กส่วนต้น
EGD/GASTROSCOPY
11,500.-
18,000.-
ให้ยานอนหลับโดยวิสัญญีแพทย์
ส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่
COLONOSCOPY
16,500.-
24,500.-
ให้ยานอนหลับโดยวิสัญญีแพทย์
ส่องกล้องกระเพาะอาหาร และลำไส้ใหญ่
EGD+COLONOSCOPY
25,500.-
32,500.-
ให้ยานอนหลับโดยวิสัญญีแพทย์
เงื่อนไขการใช้บริการ
  • เป็นโปรแกรมแบบผู้ป่วยนอก รวม ค่าแพทย์ ค่ายา เวชภัณฑ์ อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำหัตถการในห้องผ่าตัด ไม่รวมค่าใช้จ่ายดังต่อไปนี้
    1. การตัดชิ้นเนื้อ
    2. การส่งตรวจชิ้นเนื้อ
    3. การรักษาภาวะเลือดออก
    4. ค่าใช้จ่ายในการเตรียมตัวก่อนทำหัตถการ (ยา/เวชภัณฑ์/Lab/X-ray/ค่าแพทย์และอื่นๆที่นอกเหนือจากการทำหัตถการในห้องผ่าตัด)
    5. ยาที่ไม่เกี่ยวข้องกับหัตถการ
    6. เวชภัณฑ์และยากลับบ้าน
  • โปรแกรมนี้ใช้เพื่อการตรวจวินิจฉัยและการตรวจสุขภาพประจำปีเท่านั้น ไม่สามารถใช้เพื่อการรักษา
  • ปรแกรมนี้ไม่สามารถใช้ร่วมกับผู้ที่มีสิทธิ์เบิกประกันชีวิต/ประกันสุขภาพ
วันนี้ - 31 มกราคม 2568

โปรแกรมและแพ็คเกจ

นพ.ณัฐพล ลู่ชัยชนะ

นพ.ณัฐพล ลู่ชัยชนะ
ศัลยกรรมทางเดินปัสสาวะ

นพ.ณัฐพล ลู่ชัยชนะ

NUTTAPHON LUCHAICHANA, M.D.
Specialty
  • ศัลยศาสตร์ยูโรวิทยา Urology Surgery

Language Spoken
  • อังกฤษ, ไทย

ปริญญาบัตรและสถาบันการศึกษา
  • แพทยศาสตรบัณฑิต (พ.บ.) คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
  • วุฒิบัตรศัลยศาสตร์ทั่วไป คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
  • วุฒิบัตรศัลยศาสตร์ยูโรวิทยา คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล

ตารางออกตรวจ
วัน เวลา หมายเหตุ
SAT 13:00 - 17:00 (เสาร์ที่ 2, 4)

พญ ดารวรรณ ถนอมวงศ์

พญ ดารวรรณ ถนอมวงศ์
แพทย์ผิวหนังและความงาม

พญ ดารวรรณ ถนอมวงศ์

DARAWAN THANOMWONG, M.D.
Specialty
  • ตจวิทยา DERMATOLOGY
  • โรคผิวหนัง botox,fillers,laser.Biostimulator

Language Spoken
  • อังกฤษ, ไทย

ปริญญาบัตรและสถาบันการศึกษา
  • แพทยศาสตรบัณฑิต (พ.บ.) คณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
  • ตจวิทยา (ผิวหนัง) โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
ตารางออกตรวจ
วัน เวลา หมายเหตุ
WED 09:00 - 14:00

โปรแกรมลดปวดด้วย Shockwave

การรักษาอาการปวดด้วยเครื่อง Shockwave Therapy


ทางเลือกสำหรับผู้ที่มีอาการปวดเรื้อรัง สามารถเห็นผลได้ทันทีหลังรักษา (ในกรณีที่เป็นในระดับความรุนแรงเล็กน้อยหรือเพิ่งเริ่มมีอาการ)

การรักษาอาการปวดด้วยเครื่อง Shockwave Therapy

Shockwave Therapy
คลื่นกระแทก (Shockwave) ทางเลือกสำหรับผู้ที่มีอาการปวดเรื้อรัง หลักการทำงานของเครื่อง Shockwave จะส่งคลื่นกระแทกที่ลึกและมีความถี่เข้าไปในบริเวณที่มีอาการปวด เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการซ่อมแซมเนื้อเยื่อและกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารมาลดอาการปวดในบริเวณกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นที่มีปัญหา สามารถเห็นผลได้ทันทีหลังรักษา (ในกรณีที่เป็นในระดับความรุนแรงเล็กน้อยหรือเพิ่งเริ่มมีอาการ)
Shockwave ช่วยรักษาอาการอะไรบ้าง
ประโยชน์ของการรักษาอาการปวดทางการแพทย์ นิยมใช้เทคโนโลยี Shockwave Therapy เพื่อรักษาอาการ 3 อาการหลักคือ
  1. อาการออฟฟิศซินโดรม
    อาการออฟฟิศซินโดรมเกิดจากการนั่งทำงานเป็นเวลานาน ขาดการลุกออกจากที่นั่งเพื่อยืดเส้นยืดสายรวมถึงนั่งในท่าที่ผิดสรีระจะก่อให้เกิดอาการ ปวดหลัง ปวดคอ บ่า ไหล่ ปวดข้อมือปวดหลัง ปวดเอว ปวดแขนขา ปวดกราม ต้นคอ ปวดข้อมือ ฝ่ามือ ไมเกรน อาการเหล่านี้สามารถรักษาได้ด้วย Shockwave ปวดคอ บ่า ไหล่
  2. อาการเส้นเอ็นอักเสบ
    อาการเส้นเอ็นอักเสบเกิดจากการใช้งานซ้ำที่ทำให้เกิดความเครียดต่อเส้นเอ็น อาการเส้นเอ็นอักเสบ เช่น เอ็นข้อมืออักเสบ เอ็นหัวไหล่อักเสบจากหินปูนเกาะ เอ็นเข่าอักเสบ ปลอกหุ้มเส้นเอ็นข้อมืออักเสบ เอ็นร้อยหวายอักเสบ เอ็นฝ่าเท้าอักเสบ
  3. อาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง
    อาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรังเกิดจากการใช้มัดกล้ามเนื้อผิดท่าทางซ้ำๆ เป็นเวลานาน จนเกิดความผิดปกติในการหดตัว อาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง เช่น พังผืดทับเส้นประสาท ปวดสะโพกร้าวลงขา อาการปวดร้าวบริเวณสะบัก อาการเอ็นอักเสบเรื้อรัง อาการปวดข้อเข่าในนักกีฬากระโดดสูง อาการปวดข้อไหล่ อาการปวดส้นเท้า อาการอักเสบของกล้ามเนื้อบริเวณสันหน้าแข้ง อาการปวดข้อศอกด้านนอก
นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด กระตุ้นให้เกิดการสร้างหลอดเลือดใหม่ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ยับยั้งกระบวนการอักเสบ ลดอาการปวดกล้ามเนื้อ จุดเจ็บได้รับการผ่อนคลาย สลายหินปูนในเส้นเอ็น กระตุ้นให้ร่างกายเกิดอาการบาดเจ็บใหม่ จนเกิดกระบวนการซ่อมแซมเนื้อเยื่อของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นใหม่
ผลที่ได้จากการรักษาและระยะในเวลาการรักษา
ผู้ป่วยจะมีอาการปวดลดลงเกือบ 50% หรือบางรายหายปวดหลังทำการรักษาในครั้งแรก (ในกรณีที่เป็นในระดับความรุนแรงเล็กน้อยหรือเพิ่งเริ่มมีอาการ) จากนั้นควรเว้นระยะห่างการรักษาครั้งถัดไป 1- 2 สัปดาห์ เพื่อให้เวลาร่างกายซ่อมแซมการอักเสบเรื้อรังที่เป็นอยู่โดยธรรมชาติ โดยจำนวนครั้งในการรักษาทั้งหมดอยู่ที่ 2-5 ครั้งแล้วแต่ความรุนแรงของอาการ
โปรแกรม Shockwave Therapy ลดปวดเรื้อรัง ด้วย Shockwave
อัตราค่าบริการ Shockwave
รายการ
จำนวน
ราคา
A
1,000 shot
800.-
B
1,500 shot
1,200.-
C
2,000 shot
1,600.-
D
2,500 shot
2,000.-
E
3,000 shot
2,400.-
เงื่อนไขการเข้ารับบริการ
  • ราคาแพ็กเกจรวมค่าประเมินอาการโดยนักกายภาพบำบัด
  • ราคาแพ็กเกจไม่รวมค่าตรวจวินิจฉัยทางการแพทย์ ในการเข้ารับบริการครั้งแรก
  • กรุณาใช้บริการภายใน 90 วัน นับจากวันที่ซื้อ แพ็กเกจดังกล่าวไม่สามารถใช้ร่วมกับสิทธิ์และส่วนลดอื่นๆ ได้
  • ขอสงวนสิทธิ์ใช้เฉพาะผู้ที่ชำระเงินเท่านั้น และไม่สามารถคืนเงินได
  • โรงพยาบาลขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
วันนี้ - 31 พฤษภาคม 2568

โปรแกรมและแพ็คเกจ

รักษาอาการปวดเรื้อรัง Shock Wave Therapy

การรักษาอาการปวดด้วยเครื่อง Shock Wave Therapy

Shock Wave Therapy
Shock Wave Therapy รักษาอาการปวดเรื้อรัง
คลื่นกระแทก (Shock Wave) เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสูงในการใช้รักษาคนไข้ที่มีอาการปวดระยะเรื้อรังที่ผ่านการรักษาต่างๆ มาแล้ว แต่ยังไม่ดีขึ้น โดยจะมีกระบวนการของการรักษาโดยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและลดอาการอักเสบได้ดี เครื่อง Shock Wave จะส่งคลื่นกระแทกได้ลึกและมีความถี่เข้าไปในบริเวณที่มีอาการปวดเพื่อกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการซ่อมแซมเนื้อเยื่อและกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารมาลดอาการปวดในบริเวณกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นที่มีปัญหา จากนั้นร่างกายจะเกิดกระบวนการซ่อมแซมสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ทำให้ช่วยลดปวดได้สามารถเห็นผลได้ทันทีหลังรักษา (ในกรณีที่เป็นในระดับความรุนแรงเล็กน้อยหรือเพิ่งเริ่มมีอาการ) การใช้เครื่อง Shock Wave จึงเป็นทางเลือกในการรักษา
Shock Wave ช่วยรักษาอาการอะไรบ้าง
ประโยชน์ของการรักษาอาการปวดทางการแพทย์ นิยมใช้เทคโนโลยี Shock Wave Therapy เพื่อรักษาอาการ 3 อาการหลักคือ
  1. อาการออฟฟิศซินโดรม
    อาการออฟฟิศซินโดรมเกิดจากการนั่งทำงานเป็นเวลานาน ขาดการลุกออกจากที่นั่งเพื่อยืดเส้นยืดสายรวมถึงนั่งในท่าที่ผิดสรีระจะก่อให้เกิดอาการ ปวดหลัง ปวดคอ บ่า ไหล่ ปวดข้อมือปวดหลัง ปวดเอว ปวดแขนขา ปวดกราม ต้นคอ ปวดข้อมือ ฝ่ามือ ไมเกรน อาการเหล่านี้สามารถรักษาได้ด้วย Shockwave ปวดคอ บ่า ไหล่
  2. อาการเส้นเอ็นอักเสบ
    อาการเส้นเอ็นอักเสบเกิดจากการใช้งานซ้ำที่ทำให้เกิดความเครียดต่อเส้นเอ็น อาการเส้นเอ็นอักเสบ เช่น เอ็นข้อมืออักเสบ เอ็นหัวไหล่อักเสบจากหินปูนเกาะ เอ็นเข่าอักเสบ ปลอกหุ้มเส้นเอ็นข้อมืออักเสบ เอ็นร้อยหวายอักเสบ เอ็นฝ่าเท้าอักเสบ
  3. อาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง
    อาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรังเกิดจากการใช้มัดกล้ามเนื้อผิดท่าทางซ้ำๆ เป็นเวลานาน จนเกิดความผิดปกติในการหดตัว อาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง เช่น พังผืดทับเส้นประสาท ปวดสะโพกร้าวลงขา อาการปวดร้าวบริเวณสะบัก อาการเอ็นอักเสบเรื้อรัง อาการปวดข้อเข่าในนักกีฬากระโดดสูง อาการปวดข้อไหล่ อาการปวดส้นเท้า อาการอักเสบของกล้ามเนื้อบริเวณสันหน้าแข้ง อาการปวดข้อศอกด้านนอก
นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด กระตุ้นให้เกิดการสร้างหลอดเลือดใหม่ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ยับยั้งกระบวนการอักเสบ ลดอาการปวดกล้ามเนื้อ จุดเจ็บได้รับการผ่อนคลาย สลายหินปูนในเส้นเอ็น กระตุ้นให้ร่างกายเกิดอาการบาดเจ็บใหม่ จนเกิดกระบวนการซ่อมแซมเนื้อเยื่อของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นใหม่
ข้อห้ามในการรักษาด้วยคลื่นกระแทก Shock Wave
  • ห้ามรักษาเด็ก
  • ห้ามรักษาหญิงตั้งครรภ์
  • ห้ามรักษาบริเวณที่มีการติดเชื้อ
  • ห้ามรักษาคนไข้ที่ใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจ
  • ห้ามรักษาบริเวณที่มีหลอดเลือดโป่งพอง
  • ห้ามรักษาบริเวณที่เป็นเนื้องอก
  • ห้ามรักษาบริเวณที่มีการอักเสบของเส้นประสาท
ผลที่ได้จากการรักษาและระยะในเวลาการรักษา
ผู้ป่วยจะมีอาการปวดลดลงเกือบ 50% หรือบางรายหายปวดหลังทำการรักษาในครั้งแรก (ในกรณีที่เป็นในระดับความรุนแรงเล็กน้อยหรือเพิ่งเริ่มมีอาการ) จากนั้นควรเว้นระยะห่างการรักษาครั้งถัดไป 1- 2 สัปดาห์ เพื่อให้เวลาร่างกายซ่อมแซมการอักเสบเรื้อรังที่เป็นอยู่โดยธรรมชาติ โดยจำนวนครั้งในการรักษาทั้งหมดอยู่ที่ 2-5 ครั้งแล้วแต่ความรุนแรงของอาการ
ภาวะที่ควรงดโปรแกรมการรักษากายภาพบำบัด ได้แก่
  • หลังการรักษาด้วยการฝังเข็ม ฉีดยา
  • การผ่าตัดต้อหรือเลนส์ตาภายใน 1 เดือน
  • หลังทำเลเซอร์ดวงตา
  • หลังการอุดฟัน ถอนฟัน
  • พักผ่อนไม่เพียงพอ
  • มีอาการท้องเสีย อ่อนเพลีย
  • มีอาการเวียนศีรษะ อาเจียน
  • มีไข้ เป็นหวัด ไอ จาม เจ็บคอ มีน้ำมูก
  • มีสัญญาณชีพผิดปกติ ดังนี้
    • ความดันโลหิต มากกว่า 160/100 mmHg หรือ น้อยกว่า 90/50 mmHg
    • อัตราการเต้นหัวใจ มากกว่า 100 ครั้งต่อนาที หรือน้อยกว่า 50 ครั้งต่อนาที
    • มีไข้หรืออุณหภูมิร่างกาย มากกว่า 37.5 องศา
อ้างอิง:

โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย - ทางเลือกใหม่ ลดปวดเรื้อรัง – ออฟฟิศซินโดรม ด้วย Shock Wave
มหาวิทยาลัยมหิดล คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก - เครื่องมือพิเศษ / การให้บริการพิเศษ
โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ - รู้จัก Shockwave การรักษาด้วยคลื่นกระแทก บรรเทาอาการปวดเรื้อรัง

โปรแกรมและแพ็คเกจ

บุหรี่ไฟฟ้า

บุหรี่ไฟฟ้า

31 พฤษภาคม วันงดสูบบุหรี่โลก
บุหรี่ไฟฟ้า
เป็นอุปกรณ์ที่ประชาชนทั่วโลกรู้จักมากขึ้นและมีการใช้มากในปัจจุบันรวมถึงในประเทศไทย ซึ่งนับวันบุหรี่ไฟฟ้าจะเป็นที่นิยมมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มคนทำงาน เยาวชน และกลุ่มนักเรียน เนื่องจากมีการหาชื้อได้ง่าย ประกอบกับสื่อ Social ในปัจจุบันที่รวดเร็ว ง่ายต่อการเข้าถึง ซึ่งแม้ว่าจะมีผลกระทบต่อสุขภาพ และผิดกฎหมายแล้วก็ตาม
บุหรี่ไฟฟ้า (Electric cigarette) เป็นผลิตภัณฑ์ยาสูบชนิดใหม่ สูบด้วยการใช้อุปกรณ์ที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ สารนิโคตินเหลว ที่สกัดจากใบยาสูบในบุหรี่ไฟฟ้าจะระเหยด้วยความร้อนจากไฟฟ้าเข้าสู่ร่างกาย โดยไม่มีควันจากกระบวนการเผาไหม้เหมือนบุหรี่ทั่วไป เมื่อสูบน้ำยาในบุหรี่ไฟฟ้าจะถูกทำให้สารเคมีกลายเป็นละอองไอ เป็นอันตรายต่อผู้สูบและคนรอบข้าง ซึ่งน้ำยาในบุหรี่ไฟฟ้าประกอบไปด้วย
  • สารนิโคติน ซึ่งเป็นสารเสพติดที่มีผลเสียต่อสุขภาพ หลายระบบ
  • สารประกอบอันตราย นิกเกิล ดีบุก ตะกั่ว สารหนู ฟอร์มัลดีไฮด์ เบนซีน ซึ่งอาจก่อมะเร็ง
  • โพรพิลีนไกลคอล ระคายเคืองตา ทางเดินหายใจ ทำให้ไอ ปวดหัว คลื่นไส้อาเจียน
  • กลีเซอรีน เมื่อผสมกับโพรพิลีนไกลคอล ยิ่งทำให้ไอ หลอดลมตีบ หอบเหนื่อย
  • สารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย
  • สารปรุงแต่งกลิ่น รส และอื่น ๆ บางตัวอาจทำให้ปอดอักเสบรุนแรง อาทิ วิตามินอี อะซิเตท
โทษของบุหรี่ไฟฟ้า มีปริมาณนิโคตินเท่ากับบุหรี่ทั่วไป จำนวน 20 มวน และสารนิโคตินที่ก่อให้เกิดโทษต่อร่างกาย อนุภาคขนาดเล็กกว่า pm 2.5 คือประมาณ 1.0 ไมครอน ไอระเหยจากบุหรี่ไฟฟ้ามีขนาดเล็กกว่าบุหรี่ธรรมดาจึงถูกสูดเข้าไปในปอดได้ลึกกว่า จับเนื้อเยื่อปอดและดูดซึมเข้ากระแสเลือดได้เร็ว ยากที่ร่างกายจะขับออกมาได้หมด
  • ระบบการหายใจ เกิดการระคายเคือง ไอ เหนื่อยง่าย ทำให้โรคหืดและภูมิแพ้กำเริบ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง หลอดลมอักเสบ โรคมะเร็งปอด
  • ระบบหลอดเลือดและหัวใจ ภาวะหลอดเลือดแข็ง โรคหลอดเลือดหัวใจ จังหวะการเต้นของหัวใจผิดปกติ ความดันโลหิตเพิ่มขึ้น ทำให้หยุดหายใจ หัวใจหยุดเต้นและเสียชีวิต
  • ระบบประสาทและสมอง เซลล์สมองถูกทำลาย อาจทำให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะ ปวดศีรษะ นอนไม่หลับ ส่งผลถึงการพัฒนาของระบบประสาทและสมอง ส่งผลต่อการเรียนรู้ สมาธิ ทำให้ความจำ การคิดวิเคราะห์ เรียนหนังสือไม่รู้เรื่อง การควบคุมอารมณ์ และเสี่ยงมีภาวะโรคซึมเศร้า ซึ่งปกติสมองจะพัฒนา เต็มที่ประมาณอายุ 25 ปี เพิ่มความเสี่ยงการติดยาเสพติดอื่น ๆ
  • ระบบทางเดินอาหาร ทำให้เกิดแผลในกระเพาะ คลื่นไส้ อาหารไม่ย่อย กรดไหลย้อนและอาจนำไปสู่โรคมะเร็ง
  • ผู้ที่สัมผัสสารพิษที่ตกค้างจากควันบุหรี่ไฟฟ้า หรือที่เรียกว่า “บุหรี่มือสาม” อาจเกิดอาการผิวหนังอักเสบ
บุหรี่ไฟฟ้ากับอาการที่ควรไปพบแพทย์
  • อาการไข้ หนาวสั่น
  • ไอ เหนื่อยง่าย
  • หายใจลำบาก หายใจสั้น หายใจไม่อิ่ม หายใจไม่สะดวก
  • แน่นหน้าอก
  • ปวดเมื่อยตามตัว
  • อาการทางระบบทางเดินอาหาร เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย
  • หากเกิดอาการเหล่านี้ขึ้น ผู้ที่มีโรคที่เกี่ยวกับปอดอยู่ก่อนแล้ว เช่น โรคหืด หรือปอดอุดกั้นเรื้อรัง
เมื่อวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2566 องค์การอนามัยโลกได้เผยแพร่เอกสารแนวทางใหม่ 2 ฉบับ ได้แก่ “คู่มือสำหรับโรงเรียนปลอดนิโคตินและยาสูบ” และ “ชุดเครื่องมือสำหรับโรงเรียนปลอดนิโคตินและยาสูบ” เพื่อช่วยปกป้องสุขภาพของเด็กนักเรียนก่อนจะเปิดเทอมในหลายประเทศ
4 วิธีในการส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่ปราศจากนิโคตินและยาสูบสำหรับเยาวชน
  • ห้ามใช้ผลิตภัณฑ์นิโคตินและยาสูบในบริเวณโรงเรียน
  • ห้ามขายผลิตภัณฑ์นิโคตินและยาสูบใกล้โรงเรียน
  • ห้ามโฆษณาทั้งทางตรงและทางอ้อมและห้ามส่งเสริมผลิตภัณฑ์นิโคตินและยาสูบใกล้โรงเรียน
  • ปฏิเสธการสนับสนุนหรือการมีส่วนร่วมกับอุตสาหกรรมยาสูบและนิโคติน
ปัจจุบัน “บุหรี่ไฟฟ้ามุ่งเป้าไปที่เด็กผ่านสื่อโซเชียลมีเดียและผู้ที่มีผู้ติดตามจำนวนมากบนสื่อเหล่านั้น บุหรี่ไฟฟ้ามีรสชาติอย่างน้อยกว่า 16,000 รสชาติ บุหรี่ไฟฟ้าบางส่วนใช้ตัวการ์ตูนและมีดีไซน์เก๋ไก๋ดึงดูดใจคนรุ่นใหม่ สถิติการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในเด็กและเยาวชนนั้นเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ โดยพบว่าอัตราการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในเด็กนั้นสูงเกินกว่าผู้ใหญ่ในหลายประเทศ” ดังนั้น ผู้ปกครองและโรงเรียน ควรหมั่นสอดส่องดูแล ควรเฝ้าระวังพฤติกรรมของเด็กอย่างใกล้ชิด พูดคุย เปิดใจรับฟัง รวมถึงเตือนถึงโทษภัยจากบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า สร้างความผูกพันและเป็นตัวอย่างที่ดี สร้างพื้นที่ปลอดบุหรี่ภายในบ้านและไปในสถานที่ปลอดบุหรี่
ที่มา:

กรมการแพทย์ โดยสถาบันโรคทรวงอก - บุหรี่ไฟฟ้า อันตรายพิษร้ายต่อสุขภาพ
มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ - อันตรายจากบุหรี่
กรมประชาสัมพันธ์ - “สูบบุหรี่ไฟฟ้า” อันตราย เสี่ยงเป็นโรคปอดอักเสบรุนแรง
โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ - บุหรี่ไฟฟ้า อันตราย..แม้ไร้ควัน

โปรแกรมและแพ็คเกจ

นพ.ประพันธ์ วงศ์รุ่งโรจน์

นพ.ประพันธ์ วงศ์รุ่งโรจน์
ศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิกส์

นพ.ประพันธ์ วงศ์รุ่งโรจน์

PRAPHAN WONGRUNGROJ, M.D.
Specialty
  • ศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิกส์

Language Spoken
  • อังกฤษ, ไทย

ปริญญาบัตรและสถาบันการศึกษา
  • แพทยศาสตรบัณฑิต (พ.บ.)  คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
  • ออร์โธปิดิกส์ คณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี

ตารางออกตรวจ
วัน เวลา หมายเหตุ
THU 09.00-12.00 น.
17.00-20.00 น.
(สัปดาห์ที่ 2)
(สัปดาห์ที่ 1,3,5)