ภาพถ่ายรังสีพานอรามิกทางทันตกรรม

ภาพถ่ายรังสีพานอรามิกทางทันตกรรม

DENTAL PANORAMIC FILM
ภาพถ่ายรังสีพานอรามิกทางทันตกรรม ( Orthopantomogram / Dental Panoramic Film / OPG) คือภาพถ่ายรังสีชนิดนอกช่องปากชนิดหนึ่งที่สามารถแสดงให้เห็นภาพรวมของขากรรไกรบนและล่าง ฟันทุกซี่ โพรงไซนัส โพรงจมูก ข้อต่อขากรรไกร และกะโหลกศีรษะบางส่วนในภาพเดียวกัน
ใช้เวลาในการถ่ายภาพรังสีน้อยมาก และไม่จำเป็นต้องใส่อุปกรณ์ใดๆ พิเศษ ทำให้เป็นการถ่ายภาพรังสีที่ไม่เจ็บและได้รายละเอียดที่เป็นประโยชน์หลายประการในการวินิจฉัยและวางแผนการรักษาทางทันตกรรม
ภาพถ่ายรังสีพานอรามิก จึงเป็นภาพถ่ายรังสีที่ทันตแพทย์นิยมใช้เพื่อคัดกรองรอยโรคต่างๆโดยเฉพาะกระดูกขากรรไกร โพรงไซนัส และฟัน รวมถึงมักถูกใช้เป็นส่วนหนึ่งในการวินิจฉัย และวางแผนการรักษาทางทันตกรรมสาขาต่างๆได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะทันตกรรมจัดฟัน
ประโยชน์ของภาพรังสีพานอรามิกที่มักถูกใช้ในทางทันตกรรม มีดังต่อไปนี้
  1. ใช้ในการวางแผนการรักษาทันตกรรมสาขาต่างๆ เช่น การวางแผนการจัดฟัน ใช้เพื่อการเตรียมช่องปากก่อนการทำฟันปลอม หรือการฝังรากฟันเทียม ใช้ประเมินสภาวะของกระดูกและเนื้อเยื่อปริทันต์ที่รองรับฟัน ในการวินิจฉัยโรคเหงือกและการรักษาทางทันตกรรมปริทันตวิทยา ใช้เพื่อระบุตำแหน่งฟันคุดหรือฟันฝัง รวมถึงความสัมพันธ์ของฟันเหล่านั้นกับโครงสร้างสำคัญข้างเคียง เช่นโพรงไซนัส หรือเส้นประสาทเพื่อวางแผนการผ่าตัดฟันคุด ฟันฝัง หรือการผ่าตัดบริเวณขากรรไกรและใบหน้าในงานทันตศัลยกรรม เป็นต้น
  2. ใช้ตรวจคัดกรองความผิดปกติ หรือพยาธิสภาพที่ขากรรไกร ฟันทุกซี่ โพรงไซนัส โพรงจมูก ข้อต่อขากรรไกร และกะโหลกศีรษะบางส่วน เช่น การตรวจคัดกรองมะเร็ง เนื้องอก ถุงน้ำ บริเวณดังกล่าว การตรวจหารอยแตกร้าวของขากรรไกรจากอุบัติเหตุ เป็นต้น
  3. ใช้ร่วมกับการตรวจทางคลินิก หรือภาพรังสีอื่นๆ เพื่อการวินิจฉัยโรคทางทันตกรรมที่แม่นยำ

โรคปริทันต์อักเสบและการรักษา

โรคปริทันต์อักเสบและการรักษา

Periodontitis and treatment
โรคปริทันต์อักเสบและการรักษา
โรคปริทันต์อักเสบ คือ โรคที่เกิดการอักเสบของอวัยวะรอบๆ รากฟันซึ่งมีหน้าที่รองรับฟัน ได้แก่ เหงือก เอ็นยึดปริทันต์ เคลือบรากฟันและกระดูกเบ้าฟัน

null

รูป สาเหตุของโรคปริทันต์อักเสบ
สาเหตุของโรคปริทันต์อักเสบ
เกิดจากการสะสมของคราบจุลินทรีย์ เนื่องจากการทำความสะอาดฟันที่ไม่เหมาะสม โดยเมื่อเวลาผ่านไปจะเกิดการตกตะกอนของแร่ธาตุจากน้ำลาย คราบจุลินทรีย์ที่สะสมนี้ก็จะแข็งเป็นหินน้ำลาย (หินปูน) ซึ่งหินน้ำลายเหล่านี้จะเป็นที่ยึดเกาะของคราบจุลินทรีย์ต่อไป

null

รูป ปัจจัยเพิ่มความเสี่ยง
ปัจจุบันมีการศึกษาพบว่า การสูบบุหรี่และโรคเบาหวานที่ผู้ป่วยไม่สามารถควบคุมน้ำตาลได้ดี เป็นปัจจัยส่งเสริมให้โรคปริทันต์มีความรุนแรงมากขึ้นได้
อาการของโรคปริทันต์อักเสบ
เมื่อเกิดการสะสมของคราบจุลินทรีย์ขึ้น จะทำให้เกิดโรคเหงือกอักเสบซึ่งเหงือกจะมีลักษณะบวมแดง มีเลือดออกง่าย ซึ่งหากปล่อยให้การอักเสบดำเนินต่อไปก็จะทำให้เกิดเป็นโรคปริทันต์อักเสบ โดยเกิดการทำลายอวัยวะรอบรากฟันเริ่มเกิดร่องลึกปริทันต์ อาจมีหนอง ฟันโยกในเวลาต่อมา และอาจเกิดการสูญเสียฟันหลายๆตำแหน่งได้ในอนาคต

null

รูป อาการของโรคปริทันต์อักเสบ
การป้องกันโรคปริทันต์อักเสบ
แปรงฟันและทำความสะอาดซอกฟันอย่างเหมาะสม ด้วยไหมขัดฟันหรือแปรงซอกฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เพื่อกำจัดคราบจุลินทรีย์ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของโรคปริทันต์อักเสบ พบทันตแพทย์เพื่อตรวจและดูแลสุขภาพช่องปากเป็นประจำทุก 6 เดือน
ขั้นตอนในการรักษาโรคปริทันต์อักเสบ
  1. ขั้นตอนการควบคุมปัจจัยที่ส่งผลต่อความรุนแรงของโรคปริทันต์อักเสบ (Systematic Phase) เช่นการควบคุมระดับน้ำตาลในผู้ป่วยเบาหวาน หรืองดการสูบบุหรี่
  2. ขั้นตอนการรักษาขั้นต้น (Initial Phase) ด้วยการขูดหินน้ำลาย การเกลารากฟันและการแปรงฟันให้สะอาด รวมถึงทำความสะอาดซอกฟันอย่างเหมาะสม
    null

    รูป ขั้นตอนการรักษาขั้นต้น
  3. ขั้นตอนการรักษาระยะแก้ไข (Corrective Phase) เพื่อกำจัดพยาธิสภาพที่อาจหลงเหลืออยู่หลังรักษาขั้นต้นสมบูรณ์แล้ว ด้วยการทำศัลยกรรมปริทันต์หรือการบูรณะอื่นๆ
  4. ขั้นตอนการรักษาเพื่อคงสภาพอวัยวะปริทันต์ให้ปราศจากโรค (Maintenance Phase) โดยทันตแพทย์จะนัดเพื่อตรวจสุขภาพช่องปากเป็นประจำทุก 3-6 เดือน
คำแนะนำหลังการรักษาโรคปริทันต์อักเสบ
  1. หลังการทำหัตถการอาจมีเลือดซึมจากขอบเหงือกได้เล็กน้อย แนะนำหลีกเลี่ยงการบ้วนเลือดและน้ำลายตลอดวันที่ทำหัตถการ
  2. หลังขูดหินน้ำลายหรือการเกลารากฟัน อาจเกิดการเสียวฟันขึ้นได้ แต่โดยทั่วไปอาการดังกล่าวจะดีขึ้นได้ในเวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์
  3. อาจมีอาการปวดเหงือกได้บ้างหลังจากการทำหัตถการ สามารถรับประทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการได้
  4. หากมีเลือดออกจากร่องเหงือกมาก เบื้องต้นแนะนำใช้ผ้าก๊อซกดเหงือกครั้งละ 30 นาที และหากพบว่าเลือดยังไม่หยุดให้กลับมาพบทันตแพทย์อีกครั้ง
  5. สามารถทำความสะอาดช่องปากได้ปกติ

null

รูป หลังการรักษาโรคปริทันต์อักเสบ
อัตราค่าบริการทันตกรรม
รายการ
ค่าบริการ
ขูดหินปูน
900 - 1,500.-
เกลารากฟัน
1,500 - 2,000.-
(ต่อครั้ง)
ศัลยกรรมปริทันต์
3,000 - 5,000.-
เอกซเรย์เฉพาะตำแหน่ง
150.-
(ต่อฟิล์ม)
เอกซเรย์พานอรามิก
800.-
(ต่อฟิล์ม)

โปรแกรมและแพ็คเกจ

การใส่ฟันทดแทนชนิดต่างๆ

การใส่ฟันทดแทนชนิดต่างๆ

Tooth Replacement
การใส่ฟันทดแทนชนิดต่างๆ
ฟัน มีหน้าที่หลักในการบดเคี้ยวอาหารเสริมสร้างบุคลิกภาพและความมั่นใจ นอกจากนี้ยังช่วยให้การออกเสียงเป็นไปได้อย่างชัดเจนทั้งยังช่วยรักษาโครงสร้างของใบหน้า ริมฝีปากให้มีความสมดุลได้อีกด้วย หากต้องสูญเสียฟันธรรมชาติไปโดยมิได้ใส่ฟันเทียมทดแทน ย่อมจะทำให้ประสิทธิภาพในการบดเคี้ยวอาหารต่ำลง อาจทำให้ออกเสียงได้ไม่ชัดและความมั่นใจถูกลดทอนลง ซึ่งจะส่งผลต่อเนื่องถึงคุณภาพชีวิตในระยะยาวได้
ถอนฟันไปแล้ว แต่ไม่ใส่ฟันทดแทนได้หรือไม่?
โดยปกติทันตแพทย์จะแนะนำให้ใส่ฟัน ทดแทนในทุกๆตำแหน่ง หลังจากที่ถอนฟันไปแล้ว ประมาณ 1 เดือน เนื่องจากหากไม่ได้รับการใส่ฟันทดแทนอาจทำให้ฟันที่อยู่ข้างเคียงและฟันคู่สบล้มหรือยื่นยาวมายังช่องว่าง ที่เคยได้รับการถอน (ดังรูป)
null

รูป ฟันล้ม
ส่งผลให้เกิดการสบกระแทก เศษอาหารติด และเกิดเป็นโรคปริทันต์อักเสบและอาจจำเป็นต้องถอนฟันซี่ใกล้เคียงในเวลาต่อมา แต่อย่างไรก็ตามในบางกรณีเช่น ฟันที่ถูกถอนนั้นเป็นตำแหน่งของฟันคุด ฟันเกิน ฟันฝัง ฟันที่ถอนเพื่อจัดฟัน ฟันผิดตำแหน่ง หรือเป็นตำแหน่งที่ ฟันซี่นั้นไม่มีคู่สบและยังเหลือฟันมากพอที่จะสามารถเคี้ยวอาหารได้ดี อาจไม่จำเป็นต้องใส่ฟันทดแทน
การเตรียมสภาวะช่องปากให้พร้อมก่อนการใส่ฟันทดแทน
เพื่อให้ฟันเทียมนั้นสามารถใช้งานได้ยาวนานที่สุด และรองรับพอดีกับฟันธรรมชาติที่เหลืออยู่โดยไม่ต้องซ่อมหรือท่าบ่อยใหม่ๆ ในอนาคต ทันตแพทย์จะวางแผนเตรียมช่องปากก่อนเริ่มขั้นตอนฟันเทียม
ขั้นตอนและวิธีการเตรียมช่องปาก
ในแต่ละรายล้วนไม่เหมือนกัน ขึ้นกับสภาวะช่องปากในขณะนั้น ซึ่งจะครอบคลุมตั้งแต่การอุดฟัน รักษาโรคเหงือก รักษารากฟัน ถอนฟันบางซี่ที่ไม่อาจบูรณะได้ ตกแต่งกระดูกที่คมหรือปลูกกระดูกก่อนฝังรากฟันเทียม เป็นต้น
ฟันเทียมทดแทนชนิดต่างๆ
1. ฟันเทียมชนิดถอดได้
null

รูป 1.1 ตัวอย่าง ฟันเทียมชนิดถอดได้(ฐานโลหะ)
1.1 ฟันเทียมชนิดถอดได้ฐานโลหะ
ข้อดี
ข้อควรพิจารณา
  • ฐานบางและแข็งแรงกว่าฟันเทียมถอดได้ฐานอะคริลิก/พลาสติก
  • ฐานบางและแข็งแรงกว่าฟันเทียมถอดได้ฐานอะคริลิก/พลาสติก
  • ขั้นตอน/ค่าใช้จ่ายสูงกว่าฟันเทียมถอดได้ฐานอะคริลิก/พลาสติก
  • การเติมฟัน ในอนาคตทำได้ยากกว่าฟันเทียมถอดได้ฐานอะคริลิก/พลาสติก
  • null

    รูป 1.2 ตัวอย่าง ฟันเทียมชนิดถอดได้(ฐานอะคริลิก/พลาสติก)
    1.2 ฟันเทียมถอดได้ฐานอะคริลิก/พลาสติก
    ข้อดี
    ข้อควรพิจารณา
  • ไม่ต้องผ่าตัด ขั้นตอน/ค่าใช้จ่ายน้อยกว่าฟันเทียมชนิดถอดได้ฐานโลหะ
  • สามารถเติมได้หากต้องถอนฟันในอนาคต
  • ฐานฟันปลอมมีความหนามากกว่าโลหะ
  • อาจมี โอกาสแตกหักได้หากทำตกหล่น
  • 2. ฟันเทียมชนิดติดแน่น
    null

    รูป 2.1 รากฟันเทียม
    2.1 รากฟันเทียม (Dental Implant)
    ข้อดี
    ข้อควรพิจารณา
  • ไม่ต้องกรอแต่งฟันซี่ใดๆ
  • ให้ความรู้สึกใกล้เคียงฟันธรรมชาติมากกว่าฟันเทียมชนิดอื่นๆ
  • สามารถใช้เป็นฐานเพิ่มการยึด ติดของฟันเทียมถอดได้ทั้งปากได้
  • ต้องมีกระดูกรองรับการฝังรากฟันเทียมที่มาก เพียงพอ
  • ค่าใช้จ่ายสูงกว่าฟันเทียมชนิดอื่นๆ
  • การรักษามี 2-3 ขั้นตอนในช่วงเวลาประมาณ 3-6 เดือน
  • null

    รูป 2.2
    2.2 ครอบฟัน (Crown)/สะพานฟัน(Bridge)
    ข้อดี
    ข้อควรพิจารณา
  • วัสดุมีให้เลือกหลากหลายชนิด มีความแข็งแรงทนทาน มักใช้เพิ่มความแข็งแรงให้กับฟันที่ได้รับการรักษารากฟันมาแล้ว หรือฟันที่ไม่สามารถบูรณะด้วยการอุดฟันได้
  • ค่าใช้จ่ายสูงกว่า ฟันเทียมชนิดถอดได้
  • ต้องได้รับการกรอตกแต่งฟันซี่นั้นๆ หรือฟันข้างเคียง
  • การดูแลและท่าความสะอาด ฟันเทียมชนิดต่างๆ
    ฟันเทียมชนิดติดแน่นสามารถแปรงฟันใช้ไหมขัดฟันและแปรงซอกฟันได้ในรายที่ใส่ครอบฟัน (หรือรากฟันเทียม) หากมีสะพานฟันร่วมด้วยแนะนําใช้ Superfloss หรือไหมขัดฟันร่วมกับ Floss Threader ทำความสะอาดใต้สะพานฟันเพราะแม้จะได้รับการครอบฟันแล้ว แต่ฟันก็ยังจะสามารถผุต่อหรือเกิดโรคปริทันต์ต่อได้ในอนาคต
    ฟันเทียมชนิดถอดได้
    • ถอดออกในเวลากลางคืน และแช่ในน้ำสะอาดอุณหภูมิปกติ ไม่ใช้น้ำเย็นจัด/ร้อนจัด
    • แปรงด้วยน้ำสบู่ หรือน้ำยาล้างจาน ไม่ใช้ยาสีฟัน ทำความสะอาด เพราะผงขัดอาจทำให้ฐานฟัน ปลอมถูกขีดข่วนได้
    • ใช้งานอย่างระวังมิให้ตกหล่น เนื่องจากสามารถ แตกหักได้
    • หลังทานอาหารทุกครั้งแนะนำาถอดล้างทำความ สะอาด และบ้วนปาก
    • ตรวจเช็คฟันปลอมเป็นระยะทุกๆ 6 เดือน
    • สามารถใช้เม็ดฟูทำความสะอาดฟันปลอมได้
    • สามารถใช้กับกาวยึดติดฟันปลอมได้ตามคำแนะนำของทันตแพทย์
    อัตราค่าบริการทันตกรรม
    รายการ
    ค่าบริการ
    ฟันปลอมถอดได้ฐานพลาสติกเริ่มต้น
    3,000 บาท (ซี่ต่อไป +500)
    แบ่งชำระเป็นรายครั้ง
    ฟันปลอมถอดได้ฐานโลหะ
    8,000 บาท (ซี่ต่อไป +500)
    แบ่งชำระเป็นรายครั้ง
    ฟันปลอมทั้งปาก (ต่อชิ้น)
    10,000 - 15,000 บาท
    แบ่งชำระเป็นรายครั้ง
    ครอบฟัน (ขึ้นกับชนิดวัสดุ)
    10,000 - 20,000 บาท
    แบ่งชำระเป็นรายครั้ง
    เดือยฟัน
    4,500 - 5,000 บาท
    แบ่งชำระเป็นรายครั้ง
    รากฟันเทียม(ขึ้นกับยี่ห้อวัสดุ)
    55,000-75,000 บาท
    แบ่งชำระเป็นรายครั้ง
    เอกซเรย์ฟิล์มเล็ก (ฟิล์มละ)
    150 บาท
    เอกซเรย์พานอรามิค (ฟิล์มละ)
    800 บาท

    โปรแกรมและแพ็คเกจ

    การดูแลสุขภาพช่องปาก เด็กแรกเกิด – 12 ปี

    การดูแลสุขภาพช่องปาก เด็กแรกเกิด - 12 ปี

    Oral health care for newborns - 12 years old
    การดูแลสุขภาพช่องปาก เด็กแรกเกิด-อายุ 12 ปี
    ฟันน้ำนม นอกจากมีหน้าที่ในการบดเคี้ยวและช่วยเสริมสร้างความมั่นใจแล้วยังช่วยทำให้ออกเสียงได้ชัดเจนและเป็นตัวช่วยให้ฟันแท้ขึ้นมาได้ในตำแหน่งที่ถูกต้อง
    กรณีที่ต้องสูญเสียฟันน้ำนมไปก่อนกำหนดจึงทำให้ฟันแท้ที่จะขึ้นตามมาเกิดปัญหาซ้อนเกหรือหากฟันผุมากจนเกิดอาการปวดฟันทำให้รับประทานอาหารได้น้อยลง ซึ่งจะส่งผลต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการด้านต่างๆของเด็กทางอ้อมได้
    การดูแลสุขภาพช่องปาก ระยะก่อนฟันน้ำนมขึ้น (0-6 เดือน)
    ผู้ปกครองสามารถใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำเช็ดบริเวณ เหงือก ลิ้น และกระพุ่งแก้ม ไม่ควรปล่อยให้ลิ้นเป็นฝ้าขาวเพราะจะเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียได้
    null
    การจัดท่าในการทำความสะอาดฟันน้ำนมของเด็กอ่อน
    การดูแลสุขภาพช่องปากระยะฟันน้ำนมค่าดังขึ้น
    • ฟันน้ำนมซี่แรกขึ้น 3 ปี
      เลือกแปรงสีฟันขนนุ่มหน้าตัดตรงขนาด ที่เหมาะสมกับเด็กร่วมกับที่มีฟลูออไรด์ 1,000 ppm (สามารถใช้ 1,500 ppmได้กรณีเสี่ยงผุสูง) แตะขนแปรงพอเปียก หรือขนาดเท่าเม็ดข้าวสาร โดยให้ผู้ปกครองแปรงให้และเช็ดฟองออก
    null
    ฟันน้ำนมซี่แรกขึ้น 3 ปี : บีบยาสีฟันแตะขนแปรงพอเปียกหรือขนาดเท่าเม็ดข้าวสาร
    • 3-6 ปี
      ผู้ปกครองบีบยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ 1,000 ppm (สามารถใช้ 1,500 ppm ได้กรณีเสี่ยงผุสูง)
      ขนาดเท่าความกว้างของแปรง หรือเท่าเมล็ดข้าวโพด
      และช่วยแปรงฟันให้คอยเตือนให้บ้วนฟองยาสีฟันทิ้ง แต่ไม่ต้องบ้วนน้ำตาม หรืออาจบ้วนน้ำเพียง 1 อุ้งมือเท่านั้น
    null
    3-6 ปี : บีบยาสีฟันขนาดเท่าความกว้างของแปรงหรือเท่าเมล็ดข้าวโพด
    • 6 ปีขึ้นไป
      บีบยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ 1,450-1,500 ppm ขนาดเท่าความยาวแปรงสีฟัน แปรงด้วย ตนเองอย่างน้อย 2-3 นาที หลังแปรงให้บ้วนฟองออก โดยไม่ต้องบ้วนน้ำตาม หรืออาจบ้วนน้ำเพียง 1 อุ้งมือ (10 ml)
    null
    6 ปีขึ้นไป : บีบยาสีฟันขนาดเท่าความยาวแปรงสีฟัน
    ช่วงเวลาที่ฟันน้ำนมขึ้นและหลุดออก
    null
    ช่วงเวลาที่ฟันน้ำนมขึ้นและหลุดออก
    ข้อสงสัยเกี่ยวกับฟันน้ำนม
    null
    Q หากพบฟันแท้ หน้าล่างขึ้นซ้อนหลังฟันน้ำนมดังรูป จำเป็นต้องรีบถอนฟันน้ำนมหรือไม่ ?
    A หากพบว่าฟันแท้ หน้าล่างนั้นขึ้นมาได้เกินครึ่งชีฟันแล้ว แต่ยังไม่พบว่ามีการโยกของฟันน้ำนม อาจจำเป็นต้องได้รับการถอน แต่หากฟันแท้ขึ้นได้เกินครึ่งที่ฟันและพบว่าฟันน้ำนมโยกมาก อาจปล่อยให้ฟันน้ำนมหลุดออกเองได้
    null
    Q หากพบว่าเด็กมีอาการปวดฟันน้ำนม ทานอาหารลำบาก จำเป็นต้องได้รับการถอนฟันหรือไม่ ?
    A ไม่เสมอไป เพราะหากทันตแพทย์ตรวจพบว่าฟันน้ำนมนั้นมีโครงสร้างตัวฟันที่เหลืออยู่มาก ประกอบกับรากฟันยังเหลือความยาวที่เหมาะสม จากภาพถ่ายรังสีฟันไม่โยกหรืออาจเป็นเวลาอีกนานกว่าที่ฟันแท้ที่อยู่ข้างใต้จะชิ้นได้และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กสามารถให้ความร่วมมือในการรักษาได้ดี ทันตแพทย์อาจพิจารณาทำการรักษารากฟันน้ำนมและทำครอบฟันน้ำนมแทนการถอนฟัน เพื่อให้ฟันน้ำนมนั้นยังสามารถใช้บดเคี้ยวได้และเพื่อรอจนกว่าฟันแท้ที่อยู่ข้างใต้จะเริ่มดันขึ้น และรากฟันน้ำนมซี่นั้นก็จะละลายและหลุดไปตามเวลา
    null
    Q ฟันน้ำนมห่าง หรือช้อนเก จะมีผลอย่างไร ต่อฟันแท้หรือไม่ ?
    A ช่วงวัย 2-6 ปี กว่าร้อยละ 60 พบได้ว่าฟันหน้าน้ำนมจะเรียงตัวห่างกัน ซึ่งมีประโยชน์ในการเตรียมที่ไว้ให้ฟันแท้ที่ขนาดใหญ่กว่านั้นขึ้นได้โดยไม่เบียดกัน แต่หากพบว่าชุดฟันน้ำนมมีลักษณะร้อนเก หรือชิดกันมาก อาจเกิดได้จากลักษณะฟันที่ไม่สัมพันธ์กับขากรรไกรซึ่งทำให้มีโอกาสที่ฟันแท้ที่ขึ้นมาอาจซ้อนเกได้ กรณีนี้จึงควรได้รับการติดตามการขึ้นของฟันแท้กับทันตแพทย์อย่างสม่ำเสมอ
    null
    Q หากลูกเลิกขวดนมช้า หรือทานนมแล้วนอนจะมีผล อย่างไรต่อฟันหรือไม่?
    A สมาคมทันตแพทย์สาหรับเด็กประเทศสหรัฐอเมริกา (American Academy of Pediatric Dentistry) แนะนำให้เลิกขวดนมเมื่อเด็กอายุ 1 ปี - 1 ปีครึ่ง เพื่อให้เด็กได้มีโอกาสพัฒนาทักษะต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเคี้ยว/กลืนอาหารในระดับที่เหมาะสมกับวัย การพัฒนาทางกล้ามเนื้อ การพัฒนาทางด้านภาษาและการพัฒนาทางด้านอารมณ์
    อัตราค่าบริการทันตกรรม
    รายการ
    ค่าบริการ
    เคลือบหลุมร่องฟัน
    300 - 500.-
    (ต่อซี่)
    ขัดฟันเคลือบฟลูออไรด์
    600 - 800.-
    รักษารากฟันน้ำนมเด็ก
    2,500 - 3,000.-
    ครอบฟันเด็ก (SSC)
    2,000 - 2,500.-
    ถอนฟันน้ำนม(ต่อซี่)
    500 - 700.-
    (ต่อซี่)
    เอกซเรย์เฉพาะตำแหน่ง
    150.-
    (ต่อฟิล์ม)
    เอกซเรย์พานอรามิก
    800.-
    (ต่อฟิล์ม)
    อุดฟันน้ำนม
    600 - 1,000.-

    โปรแกรมและแพ็คเกจ

    การผ่าฟันคุด

    การผ่าฟันคุด

    Impacted Tooth
    ฟันคุด (Impacted Tooth) หมายถึง ฟันที่ไม่สามารถขึ้นมาในช่องปากได้ตามปกติ เนื่องจากกระดูกหรือเหงือกที่ปกคลุมหนามาก หรือ ถูกขัดขวางจากฟันข้างเคียง ฟันคุดที่พบได้บ่อย ได้แก่ ฟันเขี้ยวบน ฟันกรามน้อยล่างและฟันกรามใหญ่ซี่ที่สาม ซึ่งเป็นตำแหน่งที่พบฟันคุดได้บ่อยที่สุด เนื่องจากเป็นฟันที่จะโผล่ขึ้นในช่องปากเป็นลำดับสุดท้าย
    เมื่อทันตแพทย์ตรวจและวินิจฉัยพบว่าผู้ป่วยมีฟันคุดควรรีบผ่าฟันคุดออก ทั้งนี้ก็เพราะว่า ขณะที่ผู้ป่วยยังมีอายุน้อย (16-21ปี) ร่างกายจะแข็งแรงไม่มีโรคทางระบบใดๆกระดูกที่ปกคลุมตัวฟันยังไม่แข็งมากนักจึงจะง่ายต่อการกรอกระดูกและตัดฟัน (ในรายที่จำเป็น) มีการซ่อมแซมบาดแผลได้ดีกระดูกสร้างตัวได้เร็วแผลผ่าตัดจึงหายได้เร็ว ภาวะแทรกซ้อนน้อยและผลเสียที่จะเกิดกับเนื้อเยื่อปริทันต์ของฟันกรามซี่ที่อยู่ข้างเคียงน้อย
    เหตุใดจึงควรผ่าฟันคุด
    1. เพื่อป้องกันการอักเสบของเหงือกที่ปกคลุมฟัน
    2. เพื่อป้องกันฟันข้างเคียงผุ หรือเกิดโรคปริทันต์
    3. เพื่อป้องกันการเกิดถุงน้ำ และเนื้องอกบริเวณขากรรไกร
    4. เพื่อป้องกันการเกิดฟันซ้อนเกหลังการจัดฟัน
    สิ่งที่ควรทราบก่อนการตัดสินใจผ่าฟันคุด
    ในการผ่าฟันคุดทุกครั้งจำเป็นต้องมีภาพถ่ายรังสี เพื่อประเมินแนวการวางตัวของฟันและรากฟัน พยาธิสภาพและลักษณะของกระดูกที่รองรับฟัน รวมทั้งความสัมพันธ์ระหว่างฟันและเนื้อเยื่อที่สำคัญข้างเคียง เช่น เส้นประสาท เส้นเลือด
    ไซนัส ฟันข้างเคียง เป็นต้น
    ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้จากการผ่าตัด
    • เลือดออกผิดปกติ
    • การเกิดอันตรายต่อเส้นประสาทซึ่งจะส่งผลให้เกิดอาการชาบริเวณคาง/ริมฝีปาก/ลิ้น (1-6เดือน) ขึ้นกับความสัมพันธ์ของรากฟันและเส้นประสาทของแต่ละบุคคล
    • แผลอักเสบติดเชื้อ-บวม
    • อ้าปากได้น้อยกว่าปกติ
    • การเกิดการเชื่อมต่อของช่องปากและไซนัส
    ข้อปฎิบัติหลังการผ่าตัดฟันคุด
    1. กัดผ้าก๊อซให้แน่นบริเวณที่ถูกผ่าตัด ประมาณ 1-2 ชม. ถ้ามีเลือดหรือน้ำลายซึมออกมาให้กลืน
    2. คายผ้าก๊อซออกหลังจากผ่าตัดไปแล้วอย่างน้อย 1ชม. หากยังพบเลือดซึมออกมาให้กัดผ้าก๊อซใหม่ต่ออีกครั้งละ ประมาณ ½ -1 ชม.
    3. หลีกเลี่ยงการบ้วนน้ำลาย บ้วนน้ำ ตลอดวัน ที่ผ่าตัด
    4. ไม่ดูดแผล และ ใช้ลิ้นดุนบริเวณแผล เพราะจะทำให้เลือดซึมออกมาได้อีกครั้ง
    5. รับประทานยาตามคำแนะนำของทันตแพทย์อย่างเคร่งครัด
    6. ช่วงสัปดาห์แรกหลังการผ่าตัด ควรรับประทานอาหารอ่อนหรือเหลว และหลีกเลี่ยงอาหารร้อนจัด/เย็นจัด
    7. มาตามนัดตัดไหมประมาณ 7-10 วัน หลังการผ่าตัด
    8. หากมีอาการผิดปกติใดๆ ควรกลับมาปรึกษาทันตแพทย์

    โปรแกรมและแพ็คเกจ

    การรักษาคลองรากฟัน (Root Canal Treatment)

    การรักษาคลองรากฟัน

    การรักษาคลองรากฟันคืออะไร

    การรักษาคลองรากฟัน คือ กระบวนการกำจัดเนื้อเยื่อในโพรงฟันและครองรากฟันที่มีการอักเสบ ติดเชื้อ รวมทั้งทำความสะอาดโพรงฟันและคลองรากฟันให้ปราศจากเชื้อโรคและอุดคลองรากฟันด้วยวัสดุอุดคลองรากฟัน รวมถึงการบูรณะตัวฟันเพื่อความสวยงาม และเพื่อให้ผู้ป่วยสามารถใช้งานได้ใกล้เคียงปกติมากที่สุด

     

    ฟันลักษณะใดที่ควรรับการรักษาคลองรากฟัน

    • ฟันที่มีอาการปวดหรือเคยมีประวัติปวดมากโดยเฉพาะในเวลากลางคืน
    • ฟันที่ผุ/แตก/สึก/ร้าว/ ลึกถึงชั้นโพรงประสาทฟัน
    • ฟันที่มีประวัติได้รับอุบัติเหตุรุนแรงและ/หรือฟันมีการเปลี่ยนแปลงสีไปจากเดิม
    • ฟันที่มีตุ่มหนองหรือมีการบวมบริเวณเหงือกหรือบริเวณหน้า

    ข้อดีของการรักษารากฟัน

    • สามารถเก็บฟันไว้ใช้งานได้โดยไม่ต้องถอนฟัน ซึ่งหมายถึงผู้ป่วยไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใส่ฟันเทียมดแทนตำแหน่งฟันที่หายไป
    • หลังการบูรณะฟันที่ได้รับการรักษารากแล้วพบว่าประสิทธิภาพในการบดเคี้ยวจะใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติเดิมมากกว่าการใส่ฟันเทียมทดแทน
    • ไม่จำเป็นต้องปรับตัวเพื่อการใช้งานหลังการบูรณะฟันมากเท่ากับการใส่ฟันเทียมทดแทน

    ข้อจำกัดของการรักษาคลองรากฟัน

    ไม่สามารถทำได้ในฟันทุกซี่เหมือนกับการถอนฟันซึ่งฟันที่จะสามารถรักษารากฟันได้และให้ผลดีหลังการรักษานั้น ทันตแพทย์จะต้องพิจารณาจากหลายปัจจัยร่วมกันเช่นตำแหน่งการเข้าทำงาน,ลักษณะของรากฟัน, ความเป็นไปได้ของการบูรณะฟันถาวร หลังการรักษาราก ดังนั้นผู้ป่วยจึงควรเข้ารับคำปรึกษาจากทันตแพทย์ เพื่อรับคำแนะนำในเรื่องวิธีการรักษาที่เหมาะสมและเพื่อวางแผนการรักษาก่อนรับการรักษารากฟัน

    การรักษาคลองรากฟันมีขั้นตอนอย่างไร

    1. ทันตแพทย์จะทำการตรวจในช่องปากและถ่ายภาพรังสีเพื่อช่วยในการวินิจฉัยและวางแผนก่อนรับการรักษา
    2. ผู้ป่วยจะได้รับยาชาเพื่อระงับความเจ็บปวดระหว่างทำหัตถการและใส่แผ่นยางกันความชื้นตลอดเวลาที่ทำหัตถการ
    3. ทันตแพทย์จะทำการเปิดทางเข้าสู่โพรงฟัน
    4. ทำความสะอาดภายในโพรงพันและคลองรากฟันด้วยเครื่องมือขนาดเล็กร่วมกับน้ำยาล้างคลองรากฟัน รวมทั้งจะมีการใส่ยาฆ่าเชื้อในคลองรากฟันร่วมด้วย
      * การทำความสะอาดคลองรากฟัน ปกติจะใช้เวลาประมาณ 1-3 ครั้ง ทั้งนี้ขึ้นกับสภาวะการติดเชื้อของฟัแต่ละซี่ *
    5. ทันตแพทย์จะทำการอุดคลองรากฟันให้เต็มแน่น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการติดเชื้อซ้ำ
    6. บูรณะฟันให้สวยงาม และใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
      * การบูรณะฟันถาวรหลังการรักษารากฟันถือเป็นขั้นตอนที่มีความสำคัญมาก เนื่องจากฟันที่ได้รับการรักษาฟันเสร็จสมบูรณ์แล้วหากไม่ได้รับการบูรณะฟันถาวรด้วยวิธีการและช่วงเวลาที่เหมาะสม ฟันจะมีความเสี่ยงในการแตกร้าวในอนาคต

    อัตราค่าบริการทันตกรรม

    รักษารากฟัน

    รายการ ราคา
    • ฟันหน้า
    5,000 - 6,000  บาท
    • ฟันกรามน้อย
    7,000 - 8,000  บาท
    • ฟันกรามใหญ่
    12,000 - 13,000  บาท
    • รักษารากฟันซ้ำ คิดเพิ่มซี่ละ
    1,000   บาท

    ครอบฟัน

    รายการ ราคา
    • ครอบฟัน
    12,000 - 18,000  บาท
    • เดือยฟัน
    4,000 - 5,000  บาท
    หมายเหตุ

    หากมีข้อสงสัยหรือต้องการนัดปรึกษาทันตแพทย์ กรุณาติดต่อ คลินิกทันตกรรม โทร 02 587 0144  ต่อ 2331

    ทำอย่างไรเมื่อฟันแท้หลุดจากเบ้า

    ทำอย่างไรเมื่อฟันแท้หลุดจากเบ้า

    เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ฟันแท้หลุดออกจากเบ้ามาทั้งซี่  ทำอย่างไร

    ... อย่าทิ้งฟันซี่นั้นเด็ดขาด

    เหตุการณ์นี้อาจเกิดอุบัติเหตุได้กับทุกคน โดยเฉพาะกับเด็กในวัย 7-11 ปี   ซึ่งเกิดจากการเล่นกีฬา  หรือการชกต่อย  ทำให้ฟันแท้หน้าบน หรือล่าง หลุดออกมาจากเบ้าฟัน เก็บฟันที่หลุดออกมา จับที่ตัวฟัน ไม่จับที่รากฟัน เพราะรากฟันมีเนื้อเยื่อที่มีชิวิต  การใส่กลับไปใหม่จะให้ผลสำเร็จที่ดีถ้าไม่จับที่รากฟัน และนำไปผ่านนมจืด 10 วินาที หากใส่กลับเข้าไปได้ด้วยตัวเอง ให้ใส่กลับไปในตำแหน่งเดิม และใช้ผ้าสะอาดกดไว้นิ่งๆ แล้วพบแพทย์ทันที

     

    วิธีการทำความสะอาดช่องปากและซอกฟัน

    วิธีการทำความสะอาดช่องปากและซอกฟัน

    เศษอาหารและคราบจุลินทรีย์ในช่องปาก เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดโรคฟันผุและโรคปริทันต์ การทำความสะอาดช่องปากอย่างถูกวิธีโดยการแปรงฟัน ร่วมกับการทำความสะอาดซอกฟัน ด้วยอุปกรณ์เสริมชนิดต่างๆ ที่เหมาะสมจึงถือเป็นสิ่งที่สำคัญ ในการป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดโรคต่างๆ ในช่องปาก

     

    คลินิกทันตกรรม  02 587 0144  ต่อ 2331