เพราะหัวใจต้องการคนดูแล

เพราะหัวใจ ต้องการคนดูแล

การดูแลหัวใจให้แข็งแรง


ทำได้โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต และตรวจสุขภาพหัวใจสม่ำเสมอ

หัวใจเป็นอวัยวะ ที่มีความสำคัญ ทำหน้าที่สูบฉีดโลหิตเพื่อนำไปเลี้ยงอวัยวะส่วนต่างๆ ของร่างกาย การดูแลหัวใจให้แข็งแรง ทำได้โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต และตรวจสุขภาพหัวใจสม่ำเสมอ อาการโรคหัวใจ เช่น เจ็บหน้าอก แน่นหน้าอก ใจสั่น วูบ หมดสติ เหนื่อย หายใจไม่อิ่ม นอนราบไม่ได้ แขนขาบวม ทำงานได้ลดลง เหนื่อยเร็วขึ้น วิงเวียน ปวดศีรษะ ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อสุขภาพของหัวใจ
เช็คให้ชัวร์หัวใจของคุณแข็งแรงหรือเปล่า ?
คุณมีสัญญานเหล่านี้หรือไม่
  • เหนื่อยง่ายผิดปกติ
  • เจ็บหรือแน่นหน้าอกโดยเฉพาะเวลาออกแรงหรือเครียด
  • ใจสั่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ
  • เป็นลมหมดสติเนื่องจากหัวใจเต้นไม่สม่ำเสมอ
  • หัวใจหยุดเต้นกะทันหัน

รายการตรวจสุขภาพหัวใจ

รายการ
ตรวจสมรรถภาพหัวใจขณะออกกำลังกาย
Exercise Stress Test (EST)
เป็นการตรวจหาภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดจากหลอดเลือดหัวใจตีบ
หรือตรวจหาการเต้นของหัวใจผิดจังหวะที่เกิดขณะออกกำลังกาย
2,499.-
(จาก 3,500.-)
ไม่รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาล
ตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูง
Echocardiogram (Echo)
เป็นการใช้คลื่นเหนือเสียง (อัลตราซาวด์) ความถี่สูง
ส่งไปยังบริเวณหัวใจ และสร้างออกมาเป็นภาพของหัวใจและหลอดเลือด
บันทึกเป็นวิดีโอหรือบันทึกลงกระดาษ เมื่อเคลื่อนหัวอ่านไปตามบริเวณต่างๆ
ก็จะได้ภาพหัวใจและหลอดเลือดสำคัญทั้งหมด
2,499.-
(จาก 3,500.-)
ไม่รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาล
ประเมินความเสี่ยงโรคหัวใจ
Calcium Score (CT)
สามารถตรวจวัดระดับแคลเซียมที่ผนังหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ
และสามารถตรวจวัดได้ก่อนมีอาการของโรคหัวใจนานหลายปี
จะนำไปใช้เพื่อการบอกโอกาสการเกิดหลอดเลือดหัวใจตีบในอนาคต
2,990.-
(จาก 5,000.-)
ไม่รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาล
วันนี้ - 30 มิถุนายน 2568

โปรแกรมและแพ็คเกจ

ปรึกษาปัญหาเกี่ยวกับ “การนอนกรน”

ปรึกษาปัญหาเกี่ยวกับ "การนอนกรน"

การนอนอย่างมีสุขภาพดี

ห้อง เดี่ยว : 10,800.-


นอนกรน คือ ภาวะทางเดินหายใจอุดกั้น หากไม่ได้รับการรักษา อาจทำให้เกิดปัญหาอื่นๆ เช่น ความดันโลหิตสูงเลือดข้น ภาวะความดันในปอดสูง ภาวะหัวใจวาย เส้นเลือดสมองตีบ เส้นเลือดหัวใจตีบ อัมพาต

คุณเคยสังเกตหรือไม่ ?

ส่วนใหญ่เรามักคิดว่าปัญหาการนอนกรนเป็นปัญหาเล็กน้อย ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศ ทุกวัย ปัจจุบันวงการแพทย์ได้ให้การยอมรับว่า การนอนกรนเป็นสาเหตุของการเกิดโรคต่างๆหลายโรค เช่น หลอดเลือดสมอง ความดันโลหิตสูง กล้ามเนื้อหัวใจตาย อัมพฤกษ์ อัมพาต และร้ายแรงที่สุดคือภาวะหัวใจหยุดเต้นขณะนอนหลับ ยังส่งถึงไปยังบุคลิกภาพและเกิดความอาย
อาการเบื้องต้นที่สังเกตได้
  • นอนไม่อิ่ม ไม่สดชื่น
  • ปวดศีรษะ ช่วงเช้า
  • หงุดหงิดง่าย
  • สมาธิสั้น ความจำลดลง
  • ซึมเศร้า
  • หลับขณะขับรถ
  • หยุดหายใจขณะหลับ

ตรวจสุขภาพการนอนหลับ Sleep test

10,800.-

ห้องพักเดี่ยว 1 คืน
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการตรวจการนอนหลับ Sleep Test
  • ต้องสระผมให้สะอาด และห้ามใช้ครีมนวด และห้ามใส่น้ำมัน สเปรย์ หรือเจลใส่ผม ก่อนมารับการตรวจ เพราะมีการติดอุปกรณ์ที่หนังศีรษะ จำเป็นต้องให้บริเวณที่ติดอุปกรณ์ไม่มีไขมัน เพื่อให้สัญญาณกราฟคมชัด และจะสามารถอ่านผลระดับการนอนหลับได้ถูกต้อง
  • ห้ามทาแป้งหรือครีมที่บริเวณใบหน้า ลำคอและขา เพื่อทำให้อุปกรณ์ที่ติดอยู่ได้นานตลอดทั้งคืน เพราะถ้าอุปกรณ์ที่ติดหลุด จะไม่สามารถอ่านผลได้ อาจจะต้องเข้ามารับการตรวจใหม่
  • ห้ามดื่มกาแฟ และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ก่อนมารับการตรวจ เพราะจะทำให้คุณภาพของการนอนหลับผิดปกติไป กรณีที่คนไข้ต้องดื่มเป็นประจำ ต้องแจ้งแพทย์ที่ทำการรักษให้ทราบ ก่อนรับการตรวจ
  • ห้ามรับประทานยาระบาย หรือยาอื่นๆ ที่มีผลทำให้การนอนหลับไม่ต่อเนื่อง ก่อนมารับการตรวจเพราะจะทำให้ผลตรวจการนอนหลับที่ได้มาผิดปกติไป
  • ยาที่ผู้ป่วยรับประทานเป็นประจำ เช่น ยาควบคุมความดันโลหิต และยารักษาโรคอื่นๆ ให้รับประทานได้ตามปกติ และกรุณาแจ้งให้เจ้าหน้าที่รับทราบ เมื่อมารับการตรวจ
  • ห้ามรับประทานยานอนหลับ ก่อนมารับการตรวจ แต่ถ้าคนไข้ประสงค์ว่าจะต้องใช้ยานอนหลับเพื่อช่วยในการนอน ให้แจ้งเจ้าหน้าที่หรือพยาบาล เมื่อมารับการตรวจ
เงื่อนไขการเข้ารับบริการ
  • ผู้เข้ารับบริการสามารถใช้แพ็กเกจได้หลังจากตรวจวินิจฉัยเรียบร้อยแล้ว โดยค่าใช้จ่ายในการวินิจฉัยจัดเป็นค่าใช้จ่ายนอกแพ็กเกจ
  • แพ็กเกจดังกล่าวไม่สามารถใช้ร่วมกับสิทธิ์และส่วนลดอื่นๆ ได้ เช่น ผู้ถือหุ้น บริษัทคู่สัญญา และบริษัทประกัน
  • ผู้เข้ารับบริการชำระค่าใช้จ่าย ณ โรงพยาบาล ในวันที่เข้ารับบริการ
  • โรงพยาบาลขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
วันนี้ - 30 มิถุนายน 2568

โปรแกรมและแพ็คเกจ

ดูแลระบบทางเดินอาหารด้วยโปรแกรม “ส่องกล้อง อุ่นใจ”

ดูแลระบบทางเดินอาหารด้วยโปรแกรม "ส่องกล้อง อุ่นใจ"

โปรแกรมส่องกล้อง หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ลำไส้เล็กส่วนต้น

โปรแกรมส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่

โปรแกรส่องกล้องกระเพาะอาหารและลำไส้ใหญ่


จุกเสียด แน่นท้อง ท้องผูก ท้องเสียเรื้อรัง น้ำหนักลด

โปรแกรมคัดกรอง “ ส่องกล้อง อุ่นใจ ” (ไม่พักค้างคืน)

ส่องกล้อง หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ลำไส้เล็กส่วนต้น
EGD/GASTROSCOPY
11,500.-
18,000.-
ให้ยานอนหลับโดยวิสัญญีแพทย์
ส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่
COLONOSCOPY
16,500.-
24,500.-
ให้ยานอนหลับโดยวิสัญญีแพทย์
ส่องกล้องกระเพาะอาหาร และลำไส้ใหญ่
EGD+COLONOSCOPY
25,500.-
32,500.-
ให้ยานอนหลับโดยวิสัญญีแพทย์
เงื่อนไขการใช้บริการ
  • เป็นโปรแกรมแบบผู้ป่วยนอก รวม ค่าแพทย์ ค่ายา เวชภัณฑ์ อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำหัตถการในห้องผ่าตัด ไม่รวมค่าใช้จ่ายดังต่อไปนี้
    1. การตัดชิ้นเนื้อ
    2. การส่งตรวจชิ้นเนื้อ
    3. การรักษาภาวะเลือดออก
    4. ค่าใช้จ่ายในการเตรียมตัวก่อนทำหัตถการ (ยา/เวชภัณฑ์/Lab/X-ray/ค่าแพทย์และอื่นๆที่นอกเหนือจากการทำหัตถการในห้องผ่าตัด)
    5. ยาที่ไม่เกี่ยวข้องกับหัตถการ
    6. เวชภัณฑ์และยากลับบ้าน
  • โปรแกรมนี้ใช้เพื่อการตรวจวินิจฉัยและการตรวจสุขภาพประจำปีเท่านั้น ไม่สามารถใช้เพื่อการรักษา
  • ปรแกรมนี้ไม่สามารถใช้ร่วมกับผู้ที่มีสิทธิ์เบิกประกันชีวิต/ประกันสุขภาพ
วันนี้ - 30 มิถุนายน 2568

โปรแกรมและแพ็คเกจ

วัคซีนโควิด-19 รุ่นใหม่ล่าสุด

วัคซีน COVID-19 JN.1 ปี 2025 : 2,222.- (ไม่รวมค่าแพทย์และค่าบริการ)


วัคซีน COVID-19 JN.1 ปี 2025 วัคซีนรุ่นล่าสุดที่ WHO แนะนำให้ใช้ป้องกัน COVID-19 เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน

วัคซีนโควิด-19 รุ่นใหม่ล่าสุด

COVID-19
วัคซีน COVID-19 JN.1 ปี 2025 วัคซีนรุ่นล่าสุดที่ (MRNA) WHO แนะนำให้ใช้ป้องกัน COVID-19
ปัจจุบันปี 2568 ประเทศไทยยังควมีจำนวนผู้ป่วย Covid-19 เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากรายงานของกระทรวงสาธารณสุข วันที่ 4-8 พฤษภาคม 2568 พบว่า มีผู้ป่วยรายใหม่ที่รักษาตัวในโรงพยาบาล 7,013 ราย เสียชีวิต 1 ราย (เฉลี่ย 1,001 ราย/วัน) โดยพบอัตราป่วยสูงสุดในกลุ่มอายุ 0-4 ปี รองลงมากลุ่มอายุ 30-39 ปี และกลุ่มอายุ 20-29 ปี ตามลำดับ ส่วนผู้เสียชีวิตมีอายุ 60 ปีขึ้นไป
ซึ่งหมายถึง ผู้ที่อายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป มีโรคร่วม 7 โรค (โรคหลอดเลือดสมองโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง โรคไตรื้อรัง โรคอ้วน โรคมะเร็ง และโรคเบาหวาน) และอีก 1 กลุ่ม คือ หญิงตั้งครรภ์
การป้องกันโควิด-19 ที่ยังแนะนำ คือ การใส่หน้ากากอนามัย การไม่ไปสถานที่แออัดโดยไม่จำเป็น การเว้นระยะห่าง และการล้างมือบ่อย ๆ แต่วิธีการเหล่านี้อาจจะไม่สามารถป้องกันโควิด-19 ได้ ดังนั้น วัคซีนโควิด-19 จึงเป็นอีกเครื่องมือหนึ่งที่เสริมสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันการเป็นโควิด- 19 รวมถึงป้องกันการเป็นโรคที่รุนแรง ดังนั้น สมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทยและราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย จึงแนะนำให้กลุ่ม 608 และบุคลากรทางการแพทย์ที่ให้การดูแลกลุ่ม 608 รับวัคซีนโควิด-19 รุ่นใหม่ 1 เข็ม
ข้อมูล:

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข - สถานการณ์ Covid-19 ปัจจุบัน

 
ทำไมต้องวัคซีน COVID-19 JN.1 2025
    1. ป้องกันการติดเชื้อสายพันธุ์ที่ระบาดในปัจจุบัน
    2. กระตุ้นภูมิคุ้มกันที่มีต่อ สายพันธุ์ JN.1 (สายพันธุ์ปัจจุบัน)
    3. ลดการป่วยหนักที่ต้องนอนโรงพยาบาล
    4. ลดการป่วยรุนแรงในกลุ่ม 608 ได้แก่ โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง โรคอ้วน โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน และสตรีตั้งครรภ์
    5. ลดการป่วยรุนแรงที่ต้องเข้าไอซียู ในผู้สูงอายุ (60 ปีขึ้นไป)

*เทียบกับผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน

รายการ
วัคซีนโควิด-19 รุ่นใหม่ล่าสุด
VACCINE  COVID-19 JN.1  2025
2,222.-
(ไม่รวมค่าแพทย์และค่าบริการ รพ.)

 

วันนี้ - 30 มิถุนายน 2568

โปรแกรมและแพ็คเกจ

โปรแกรมลดปวดด้วย Shockwave

การรักษาอาการปวดด้วยเครื่อง Shockwave Therapy


ทางเลือกสำหรับผู้ที่มีอาการปวดเรื้อรัง สามารถเห็นผลได้ทันทีหลังรักษา (ในกรณีที่เป็นในระดับความรุนแรงเล็กน้อยหรือเพิ่งเริ่มมีอาการ)

การรักษาอาการปวดด้วยเครื่อง Shockwave Therapy

Shockwave Therapy
คลื่นกระแทก (Shockwave) ทางเลือกสำหรับผู้ที่มีอาการปวดเรื้อรัง หลักการทำงานของเครื่อง Shockwave จะส่งคลื่นกระแทกที่ลึกและมีความถี่เข้าไปในบริเวณที่มีอาการปวด เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการซ่อมแซมเนื้อเยื่อและกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารมาลดอาการปวดในบริเวณกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นที่มีปัญหา สามารถเห็นผลได้ทันทีหลังรักษา (ในกรณีที่เป็นในระดับความรุนแรงเล็กน้อยหรือเพิ่งเริ่มมีอาการ)
Shockwave ช่วยรักษาอาการอะไรบ้าง
ประโยชน์ของการรักษาอาการปวดทางการแพทย์ นิยมใช้เทคโนโลยี Shockwave Therapy เพื่อรักษาอาการ 3 อาการหลักคือ
  1. อาการออฟฟิศซินโดรม
    อาการออฟฟิศซินโดรมเกิดจากการนั่งทำงานเป็นเวลานาน ขาดการลุกออกจากที่นั่งเพื่อยืดเส้นยืดสายรวมถึงนั่งในท่าที่ผิดสรีระจะก่อให้เกิดอาการ ปวดหลัง ปวดคอ บ่า ไหล่ ปวดข้อมือปวดหลัง ปวดเอว ปวดแขนขา ปวดกราม ต้นคอ ปวดข้อมือ ฝ่ามือ ไมเกรน อาการเหล่านี้สามารถรักษาได้ด้วย Shockwave ปวดคอ บ่า ไหล่
  2. อาการเส้นเอ็นอักเสบ
    อาการเส้นเอ็นอักเสบเกิดจากการใช้งานซ้ำที่ทำให้เกิดความเครียดต่อเส้นเอ็น อาการเส้นเอ็นอักเสบ เช่น เอ็นข้อมืออักเสบ เอ็นหัวไหล่อักเสบจากหินปูนเกาะ เอ็นเข่าอักเสบ ปลอกหุ้มเส้นเอ็นข้อมืออักเสบ เอ็นร้อยหวายอักเสบ เอ็นฝ่าเท้าอักเสบ
  3. อาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง
    อาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรังเกิดจากการใช้มัดกล้ามเนื้อผิดท่าทางซ้ำๆ เป็นเวลานาน จนเกิดความผิดปกติในการหดตัว อาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง เช่น พังผืดทับเส้นประสาท ปวดสะโพกร้าวลงขา อาการปวดร้าวบริเวณสะบัก อาการเอ็นอักเสบเรื้อรัง อาการปวดข้อเข่าในนักกีฬากระโดดสูง อาการปวดข้อไหล่ อาการปวดส้นเท้า อาการอักเสบของกล้ามเนื้อบริเวณสันหน้าแข้ง อาการปวดข้อศอกด้านนอก
นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด กระตุ้นให้เกิดการสร้างหลอดเลือดใหม่ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ยับยั้งกระบวนการอักเสบ ลดอาการปวดกล้ามเนื้อ จุดเจ็บได้รับการผ่อนคลาย สลายหินปูนในเส้นเอ็น กระตุ้นให้ร่างกายเกิดอาการบาดเจ็บใหม่ จนเกิดกระบวนการซ่อมแซมเนื้อเยื่อของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นใหม่
ผลที่ได้จากการรักษาและระยะในเวลาการรักษา
ผู้ป่วยจะมีอาการปวดลดลงเกือบ 50% หรือบางรายหายปวดหลังทำการรักษาในครั้งแรก (ในกรณีที่เป็นในระดับความรุนแรงเล็กน้อยหรือเพิ่งเริ่มมีอาการ) จากนั้นควรเว้นระยะห่างการรักษาครั้งถัดไป 1- 2 สัปดาห์ เพื่อให้เวลาร่างกายซ่อมแซมการอักเสบเรื้อรังที่เป็นอยู่โดยธรรมชาติ โดยจำนวนครั้งในการรักษาทั้งหมดอยู่ที่ 2-5 ครั้งแล้วแต่ความรุนแรงของอาการ
โปรแกรม Shockwave Therapy ลดปวดเรื้อรัง ด้วย Shockwave
อัตราค่าบริการ Shockwave
รายการ
จำนวน
ราคา
A
1,000 shot
800.-
B
1,500 shot
1,200.-
C
2,000 shot
1,600.-
D
2,500 shot
2,000.-
E
3,000 shot
2,400.-
เงื่อนไขการเข้ารับบริการ
  • ราคาแพ็กเกจรวมค่าประเมินอาการโดยนักกายภาพบำบัด
  • ราคาแพ็กเกจไม่รวมค่าตรวจวินิจฉัยทางการแพทย์ ในการเข้ารับบริการครั้งแรก
  • กรุณาใช้บริการภายใน 90 วัน นับจากวันที่ซื้อ แพ็กเกจดังกล่าวไม่สามารถใช้ร่วมกับสิทธิ์และส่วนลดอื่นๆ ได้
  • ขอสงวนสิทธิ์ใช้เฉพาะผู้ที่ชำระเงินเท่านั้น และไม่สามารถคืนเงินได
  • โรงพยาบาลขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
วันนี้ - 31 ธันวาคม 2568

โปรแกรมและแพ็คเกจ

โปรแกรมตรวจสุขภาพสำหรับเด็ก

โปรแกรมตรวจสุขภาพสำหรับเด็ก


การตรวจสุขภาพเด็กในทุกช่วงวัยเป็นสิ่งสำคัญ เพราะแต่ละช่วงวัยจะมีการพัฒนาการ และความแข็งแรงสมบูรณ์ของร่างกายที่แตกต่างกันออกไป การตรวจสุขภาพจึงเป็นการประเมินการเจริญเติบโตและติดตามเฝ้าระวังด้านพัฒนาการเป็นระยะๆ

โปรแกรมตรวจสุขภาพสำหรับเด็ก

Health check program for children
การตรวจสุขภาพเด็กในทุกช่วงวัยเป็นสิ่งสำคัญ เพราะแต่ละช่วงวัยจะมีการพัฒนาการ และความแข็งแรงสมบูรณ์ของร่างกายที่แตกต่างกันออกไป การตรวจสุขภาพเป็นการประเมินการเจริญเติบโตและติดตามเฝ้าระวังด้านพัฒนาการเป็นระยะๆ ทั้งโภชนาการที่สมกับวัย รวมถึงสุขภาพสายตาและสุขภาพฟัน โดยเฉพาะในส่วนของสมอง ซึ่งหากเกิดความผิดปกติเกิดขึ้นในระยะนี้ จะส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโต และสติปัญญาในระยะยาว หากพบความผิดปกติแพทญ์จะช่วยให้ดูแลรักษาได้ทันท่วงที
รายการตรวจ
Program
1
Program
2
Program
3
Program
4
ตรวจสุขภาพทั่วไปโดยแพทย์
(Physical Examination)
ตรวจวัดระดับการมองเห็น
(Visual acuity หรือ VA)
เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
ตรวจสุขภาพฟัน
เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
ตรวจวัดค่าดัชนีมวลกาย
(BMI)
ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด
(CBC)
ตรวจสมรรถภาพการทำงานของไต
(BUN, Creatinine)
ตรวจสมรรถภาพการทำงานของตับ
(SGOT, SGPT, Alk)
ตรวจปัสสาวะสมบูรณ์แบบ
(UA)
ตรวจหาเชื้อไวรัสตับอับเสบ บี
(HBsAg)
ตรวจหาภูมิคุ้มกันไวรัสตับอักเสบ บี
(HBsAb)
ตรวจไธรอยด์ฮอร์โมน
(TSH, FT4)
ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด
(FBS)
ตรวจวัดระดับไขมันในเลือด - โคเลสเตอรอล
(Cholesterol)
ตรวจวัดระดับไขมันในเลือด -ไตรกลีเซอร์ไรด์
(Triglyceride)
ตรวจหาไขมันโคเลสเตอรอลชนิดดี
(HDL-C)
ตรวจหาไขมันโคเลสเตอรอลชนิดเลว
(LDL-C)
ราคาปกติ
2,388.-
2,988.-
3,480.-
4,560.-
ราคาแพ็กเกจ
1,990.-
2,490.-
2,900.-
3,800.-
รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาล
วันนี้ - 30 มิถุนายน 2568

โปรแกรมและแพ็คเกจ

ปกป้องคุณและคนที่คุณรักด้วยวัคซีนทุกช่วงวัย

ปกป้องคุณและคนที่คุณรัก ด้วยวัคซีน

"ปกป้องคุณและคนที่คุณรัก ด้วยวัคซีนทุกช่วงวัย"


การฉีดวัคซีนเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันโรค ลดความเสี่ยงในการพักรักษาโรงพยาบาล และลดค่าใช้จ่าย ในการรักษา การฉีดวัคซีนไม่ใช่เฉพาะเด็กเท่านั้นที่ควรได้รับ ผู้ใหญ่ก็เช่นกัน วัคซีนอาจไม่ไกลตัวอย่างที่คุณคิด เพราะโรคติดเชื้อหลายชนิดป้องกันได้ถ้าคุณมีภูมิต้านทานที่ดี การได้รับวัคซีนที่ถูกต้องเหมาะสม สามารถปกป้องคุณและคนที่คุณรักได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดัน โรคหัวใจ เป็นต้น

แพ็คเกจวัคซีนทุกช่วงวัย

สำหรับทุกช่วงวัย
แพทย์แนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรค การฉีดวัคซีนป้องกัน ช่วยให้บรรเทาอาการของโรคและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง นอกจากนี้ยังลดโอกาสเสี่ยงการแพร่กระจายเชื้อไปสู่คนอื่น ในวัยผู้ใหญ่ภูมิคุ้มกันจะลดลงตามอายุที่มากขึ้น จึงต้องมีการกระตุ้นด้วยการฉีดวัคซีน หรืออาจจะเป็นเพราะเชื้อโรคนั้นมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง หรือสายพันธุ์ใหม่ เช่น ไข้หวัดใหญ่ ซึ่งเป็นโรคที่ติดต่อได้ง่ายและระบาดเป็นประจำ โดยเฉพาะผู้สูงอายุและเด็กเล็กจะมีความรุนแรง อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ มากกว่าคนในวัยหนุ่มสาว
รายการ
ราคา
วัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์
สำหรับผู้ที่มีอายุ 7 เดือนขึ้นไป
ควรฉีดป้องกันปีละ 1 ครั้ง (กรณียังไม่รับวัคซีนมาก่อนแนะนำให้ฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 1 เดือน)
849.-
รวมค่าแพทย์
และค่าบริการโรงพยาบาล
วัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ High Dose
สำหรับผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป
ควรฉีดป้องกันปีละ 1 ครั้ง
2,500.-
รวมค่าแพทย์
และค่าบริการโรงพยาบาล
วัคซีนไข้เลือดออก
สำหรับผู้ที่มีอายุ 4 ปี - 60 ปี
สามารถฉีดได้ทั้งคนที่เคยเป็น และไม่เคยเป็นโรคไข้เลือดออกฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 3 เดือน
4,777.-
รวมค่าแพทย์
และค่าบริการโรงพยาบาล
วัคซีนสุกใส (1 เข็ม)
สำหรับผู้ที่มีอายุ 1 ปี
ควรฉีดในผู้ที่ไม่เคยได้รับวัคซีนหรือไม่เคยเป็นอีสุกอีใสมาก่อน ห่างกันอย่างน้อย 4-8 สัปดาห์
1,700.-
ไม่รวมค่าแพทย์
และค่าบริการโรงพยาบาล
วัคซีนตับอักเสบ บี - [1 เข็ม]
สำหรับเด็กแรกเกิด และทุกช่วงวัยที่มีความเสี่ยง
โดยแพทย์จะพิจารณาตรวจภูมิคุ้มกันก่อนให้วัคซีน
660.-
ไม่รวมค่าแพทย์
และค่าบริการโรงพยาบาล
วัคซีนตับอักเสบ บี - [3 เข็ม]
สำหรับเด็กแรกเกิด และทุกช่วงวัยที่มีความเสี่ยง
โดยแพทย์จะพิจารณาตรวจภูมิคุ้มกันก่อนให้วัคซีน
1,980.-
ไม่รวมค่าแพทย์
และค่าบริการโรงพยาบาล
วัคซีนตับอักเสบ เอ - [1 เข็ม]
สำหรับผู้ที่มีอายุ 1 ปี 6 เดือนขึ้นไป
ฉีด 1 เข็ม
1,200.-
ไม่รวมค่าแพทย์
และค่าบริการโรงพยาบาล
วัคซีนตับอักเสบ เอ - [1 เข็ม] + บี - [3 เข็ม]
แพทย์จะพิจารณาตรวจภูมิคุ้มกันก่อนให้วัคซีน
3,190.-
ไม่รวมค่าแพทย์
และค่าบริการโรงพยาบาล
วัคซีนบาดทะยัก - [1 เข็ม]
สำหรับผู้ที่มีอายุ 10 ปีขึ้นไป และกระตุ้นทุก 10 ปี
360 - 420.-
ไม่รวมค่าแพทย์
และค่าบริการโรงพยาบาล
วัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบ
ผู้สำหรับผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป
หรือ ในผู้ป่วยอายุ 19 - 59 ปีที่มีโรคดังต่อไปนี้
  • โรคหัวใจ
  • โรคหอบหืด
  • โรคตับแข็ง
  • โรคไตวายเรื้อรัง
  • ผู้ป่วยโรคเบาหวาน
ฉีด 1 เข็มป้องกันตลอดชีวิต
3,250.-
ไม่รวมค่าแพทย์
และค่าบริการโรงพยาบาล
วัคซีนงูสวัด - RZV(ชนิดใหม่)
สำหรับผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป
ฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 2 – 6 เดือน
1 เข็ม - 5,990.-
2 เข็ม - 11,900.-
รวมค่าแพทย์
และค่าบริการโรงพยาบาล
วัคซีนมะเร็งปากมดลูก(HPV vaccine)
แบบ 4 สายพันธ์ุ - [2 เข็ม]
  • สำหรับผู้ที่มีอายุ 9 - 14 ปี
แบบ 4 สายพันธ์ุ - [3 เข็ม]
  • สำหรับผู้ที่มีอายุ 15 - 26 ปี
แบบ 9 สายพันธ์ุ - [2 เข็ม]
  • สำหรับผู้ที่มีอายุ 9 - 14 ปี
แบบ 9 สายพันธ์ุ - [3 เข็ม]
  • สำหรับผู้ที่มีอายุ 15 - 26 ปี
5,900 - 18,500.-
รวมค่าแพทย์
และค่าบริการโรงพยาบาล
ปกป้องคุณและคนที่คุณรัก ด้วยวัคซีนทุกช่วงวัย

รายละเอียดเพิ่มเติม

วัคซีนไข้หวัดใหญ่ (Influenza Vaccine)
ไข้หวัดใหญ่ เป็นโรคที่ติดต่อได้ง่ายและระบาดเป็นประจำ โดยไข้หวัดใหญ่ในผู้สูงอายุจะมีความรุนแรงกว่าคนอายุน้อย และเกิดภาวะแทรกซ้อนได้บ่อย และคนที่มีโรคประจำตัว เช่น ปอดอักเสบ ภาวะหัวใจขาดเลือด และภาวะหัวใจวาย มีอัตราการนอนโรงพยาบาล และอัตราการเสียชีวิตสูง
แนะนำฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ เป็นประจำทุกปี ปีละครั้งในสายพันธุ์ ที่ระบาดในปีนั้น ในช่วงปลายฤดูฝนถึงช่วงฤดูหนาว
วัคซีนมะเร็งปากมดลูก(HPV vaccine)
มะเร็งปากมกลูกมีสาเหตุจากการติดเชื้อ ซึ่งเป็นการติดต่อทางเพศสัมพันธ์ การตรวจแปปสเมียร์ เป็นการตรวจหาความผิดปกติของปากมดลูก ไม่เพียงแต่เพศหญิงแค่นั้นที่ติดโรคเชื้อไวรัสเอชพีวีได้ ผู้ชายก็สามารถติดเชื้อชนิดนี้ได้เช่นกัน ปัจจุบันเราสามารถลดช่องความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งได้อย่างไม่ยากเย็นด้วยการฉีดป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูก (HPV)
แนะนำฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ เป็นประจำทุกปี ปีละครั้งในสายพันธุ์ ที่ระบาดในปีนั้น ในช่วงปลายฤดูฝนถึงช่วงฤดูหนาว
อายุ 9-14 ปี 11 เดือน ฉีด 2 เข็ม
อายุ 15-45 ปี ฉีด 3 เข็ม
สามารถป้องกันการติดเชื้อภายใน 1 เดือน หลังจากได้รับวัคซีนครบ 3 เข็ม
วัคซีนไวรัสตับอักเสบ เอ(Hepatitis A Vaccine)
เป็นโรคตับที่เกิดจากเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดเอ ซึ่งมักจะพบในอุจจาระของคนที่เป็นโรคตับอักเสบเอ และมักจะติดต่อโดยการใกล้ชิดกับคนที่เป็น หรือจากการรับประทานอาหาร หรือดื่มน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัสตับอักเสบเออยู่ ผู้ที่เป็นโรคตับอักเสบเอ สามารถแพร่เชื้อให้กับบุคคลใกล้ชิดได้ง่าย
ฉีดได้ตั้งแต่ 1 ปี 6 เดือนขึ้นไป และในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป
วัคซีนโรคปอดอักเสบ (Pneumococcal Vaccine)
เชื้อแบคทีเรียนิวโมคอคคัส เป็นเชื้อที่มีความรุนแรงสูง และเป็นสาเหตุหลักของโรคปอดอักเสบ รวมถึงเป็นสาเหตุของไซนัสอักเสบ หูชั้นกลางอักเสบ สำหรับผู้สูงอายุ และผู้ทีมีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคปอด โรคหัวใจ โรคตับ โรคไต โรคมะเร็ง ผู้ติดเชื้อ HIV ผู้ที่ได้รับยากดภูมิ และผู้ป่วยที่ไม่มีม้าม อาจติดเชื้อรุนแรงถึงขั้นเยื่อหุ้มสมองอักเสบ และติดเชื้อในกระแสเลือด
ควรฉีดวัคซีนโรคปอดอักเสบ คือ ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป หรือในผู้ป่วยอายุ 19-64 ปีที่มีโรคหัวใจ โรคหอบหืด โรคถุงลมโป่งพอง โรคตับแข็ง โรคไตวายเรื้อรัง ผู้ป่วยโรคเบาหวาน
วัคซีนอีสุกอีใส Varicella (Chicken pox)
โรคอีสุกอีใสเป็นโรคติดเชื้อที่ผู้ป่วยมักมีอาการไม่รุนแรง โดยเฉพาะในเด็กเล็ก แต่บางครั้งอาจมีอาการรุนแรงได้ ทำให้เกิดภาวะปอดอักเสบ และภาวะสมองอักเสบ อาจทำให้ผู้ป่วยมีความพิการหรือเสียชีวิต มีภาวะแทรกซ้อน สำหรับเด็กเล็ก เด็กโต ผู้ใหญ่ ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง และหญิงตั้งครรภ์
แนะนำให้ฉีดในผู้ที่ไม่เคยมีประวัติเป็นโรคอีสุกอีใสมาก่อน ควรแนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใส 2 ครั้ง
วันนี้ - 30 มิถุนายน 2568

โปรแกรมและแพ็คเกจ

โปรแกรมตรวจผู้สัมผัสอาหาร

โปรแกรมตรวจผู้สัมผัสอาหาร

Food Handler's Certificate

ตรวจผู้สัมผัสอาหาร Program 1 : 1,390.-

ตรวจผู้สัมผัสอาหาร Program 2 : 1,690.-


โรงพยาบาลขอเสนอแพ็กเกจตรวจผู้สัมผัสอาหาร สำหรับผู้ที่ต้องการทำธุรกิจเกี่ยวกับอาหาร หรือขนมเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการการันตีความปลอดภัยให้ลูกค้าและป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ และเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้บริโภค

โปรแกรมตรวจผู้สัมผัสอาหาร

Food Handler's Certificate
ใบรับรองแพทย์ 9 โรค หรือ สณ.11 เป็นเอกสารรายงานสภาวะสุขภาพอนามัยสำหรับผู้ที่จะประกอบอาชีพผู้สัมผัสอาหารหรืองานบริการ ซึ่งจำเป็นต้องตรวจสำหรับยื่นให้กับองค์กรหรือเปิดร้านค้า เพื่อยืนยันว่าไม่เป็นโรคติดต่อซึ่งอาจจะแพร่เชื้อให้เพื่อนร่วมงานหรือลูกค้าได้ อาชีพที่ต้องตรวจ เช่น ร้านอาหาร ร้านทำผม ร้านสปา เป็นต้น ออกโดยแพทย์ที่ขึ้นทะเบียนรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรมของแพทย์สภา

โปรแกรมตรวจผู้สัมผัสอาหาร
ผู้สัมผัสอาหาร มีความสำคัญอย่างมาก เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้บริโภค โรงพยาบาลได้จัดทำโปรแกรมตรวจสุขภาพสำหรับผู้ประกอบอาหาร ดังนี้
  • เหมาะสำหรับผู้สัมผัสอาหาร เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อจากผู้ประกอบอาหารสู่ผู้บริโภค
  • โปรแกรมนี้ประกอบด้วยรายละเอียดการตรวจ ดังนี้
รายการตรวจ
Program 1
Program 2
ตรวจร่างกายทั่วไปโดยแพทย์
Physical Examination
ใบรับรองแพทย์ 9 โรค สณ.11
ชั่งน้ำหนัก/วัดส่วนสูง/ตรวจวัดความดันโลหิต/ตรวจหาดัชนีมวลกาย/อัตราการเต้นของหัวใจ
ตรวจเอกเซเรย์ทรวงอกระบบดิจิตอล
(Chest X – Ray digital)
ตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบ เอ
(HAV IGG)
ตรวจอุจจาระ
(Stool Culture)
ตรวจอุจจาระ
(Stool Exam & Occult Blood)
ตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี
(HBs Ag)
ตรวจหาภูมิคุ้มกันไวรัสตับอักเสบ บี
(HBs Ab)
ตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะ
(Amphetamine)
รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาล
1,390
1,690
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับบริการ
  • สามารถทานอาหารมาก่อนเข้าตรวจได้ตามปกติ
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง
  • หลีกเลี่ยงการรับประทานยาระบาย
  • หากมีอาการถ่ายท้อง แนะนำให้เลื่อนการเข้ารับบริการ
หมายเหตุ
  1. ผลการตรวจจะได้รับภายใน 3-5 วัน
  2. กรณีซื้อผ่าน Shop Bangpo กรุณาใช้บริการภายใน 90 วัน นับจากวันที่ซื้อ
  3. เพื่อความสะดวกในการเข้ารับบริการ กรุณานัดหมายล่วงหน้าอย่างน้อย 1-2 วันก่อนเข้ารับบริการที่ ศูนย์ตรวจสุขภาพ โทร. 02-587-0144 ต่อ 2300 หรือ Line @bangpohospital
  4. แพ็กเกจดังกล่าวไม่สามารถใช้ร่วมกับสิทธิ์และส่วนลดอื่นๆ ได้
  5. ขอสงวนสิทธิ์การคืนเงิน ยกเลิกทุกกรณี แต่สามารถเปลี่ยนแปลงวันรับบริการได้
วันนี้ - 30 มิถุนายน 2568

โปรแกรมและแพ็คเกจ

โปรแกรมตรวจสุขภาพดวงตา

โปรแกรมตรวจสุขภาพดวงตา

EYE CHECK PROGRAM

โปรแกรมตรวจสุขภาพดวงตา
ตรวจ 7 รายการ : 900.-
ตรวจ 8 รายการ : 1,299.-


โปรแกรมตรวจสุขภาพดวงตา

EYE CHECK PROGRAM
การตรวจสุขภาพตาเป็นการตรวจวินิจฉัยอย่างครอบคลุมเพื่อประเมินสุขภาพดวงตาของคุณ จักษุแพทย์จะตรวจหาความผิดปกติของดวงตา เช่น ต้อกระจก ต้อหิน จอประสาทตาเสื่อม และความผิดปกติของการหักเหของแสง เป็นต้น

เราควรตรวจสุขภาพตาเป็นประจำ ความถี่ในการตรวจจะขึ้นอยู่กับอายุและความเสี่ยงต่อปัญหาเกี่ยวกับดวงตาของคุณ ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ควรตรวจสุขภาพตาอย่างน้อยปีละครั้ง การตรวจสุขภาพตาเป็นสิ่งสำคัญ สามารถช่วยตรวจจับปัญหาเกี่ยวกับดวงตาได้ตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อการรักษาตั้งแต่
ใครบ้างที่ควรตรวจสุขภาพตา
EYE CHECK PROGRAM
  • ผู้ที่ทำงานใช้สายตามาก เช่น ผู้ที่อยู่หน้าคอมพิวเตอร์ หรือ ใช้มือถือเป็นประจำ
  • ผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป
  • ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคตา
  • ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน,ความดันโลหิตสูง,โรคข้อและโรคระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง
  • ผู้ที่ใช้ยาบางชนิด เช่น วัณโรค,ยากดภูมิ,กลุ่มยาสเตียรอยด์
  • ผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์

รายการตรวจสุขภาพดวงตา
Program 1
7 รายการ
Program 2
8 รายการ
ตรวจตาโดยจักษุแพทย์
Eye Examination
ตรวจวัดความดันโลหิต ชีพจร น้ำหนัก ส่วนสูง
ตรวจสุขภาพสายตา การมองเห็น
Visual Acuity: VA
ตรวจความดันลูกตา
Tonometer
ตรวจตาด้วย Slit Lamp
ตรวจวัดสายตา สั้น ยาว ด้วยเครื่องอัตโนมัติ
Autorefractor
คัดกรองตาบอดสี
Ishihara’s Test
ขยายม่านตา ดูจอประสาทตา
หมายเหตุ : แนะนำให้พาญาติมาด้วยเพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง และไม่แนะนำให้ขับขี่ยานพาหนะกลับด้วยตนเอง
ราคาแพ็คเกจ
900.-
1,299.-
รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาล
เงื่อนไข
  1. ราคารวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาล
  2. เพื่อความสะดวกในการรับบริการโปรดนัดหมายล่วงหน้าอย่างน้อย 1-2 วัน
  3. หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าบริเวณดวงตา เช่น ติดขนตาปลอม ใช้อายไลน์เนอร์เขียนขอบตา
  4. หากท่านสวมแว่นตา มียาหยอดตา หรือยาที่ใช้เป็นประจำ กรุณานำมาด้วย
  5. แจ้งให้แพทย์ทราบถึงโรคประจำตัว ประวัติการรักษาโรคต่างๆ และยารักษาโรคทุกชนิดที่กำลังใช้อยู่ เพราะอาจเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อสายตา หรือสุขภาพตา
  6. หากมีการขยายม่านตา ไม่ควรขับรถมาเอง โดยควรเตรียมแว่นกันแดดหรือหมวกปีกกว้างมาใส่ตอนกลับ เพราะหลังขยายม่านตาจะมีอาการพร่ามัว สู้แสงลำบาก
วันนี้ - 30 มิถุนายน 2568

โปรแกรมและแพ็คเกจ

โปรแกรม Office Syndrome ออฟฟิศ ซินโดรม

เลือกโปรแกรมที่เหมาะสมกับคุณ :

โปรแกรม Light Office เริ่มต้นเพียง 4,750.-

โปรแกรม Hard Office เริ่มต้นเพียง 5,750.-


ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ทำงานในออฟฟิศ ต้องนั่งทำงานตลอดเวลาเคลื่อนไหวร่างกายน้อย และอยู่ในสภาพแวดล้อมการทำงาน ที่ไม่เหมาะสม ส่งผลให้เกิดอาการปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อคอ บ่า ไหล่ แขน ข้อมือ หรือ ปวดร้าวขึ้นศีรษะแสดงว่าคุณกำลังประสบปัญหา
“ออฟฟิศซินโดรม”

โปรแกรมลดอาการ ออฟฟิศ ซินโดรม

Office Syndrome   
ออฟฟิศซินโดรม
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ทำงานในออฟฟิศ ต้องนั่งทำงานตลอดเวลาเคลื่อนไหวร่างกายน้อย และอยู่ในสภาพแวดล้อมการทำงาน
ที่ไม่เหมาะสม ส่งผลให้เกิดอาการปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อคอ บ่า ไหล่ แขน ข้อมือ หรือ
ปวดร้าวขึ้นศีรษะแสดงว่าคุณกำลังประสบปัญหา “ออฟฟิศซินโดรม”
โปรแกรม Light Office
เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวดคอ บ่า สะบัก และเวียนศีรษะมาก
  • High power laser 10 นาที
  • Ultrasound 14 นาที
  • Stretching ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ
  • Hotpack ประคบร้อน
โปรแกรม Hard Office
เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการตึงรั้งหนักคอ บ่า สะบักอย่างมาก
  • PMS 15 นาที
  • Ultrasound 14 นาที
  • Stretching ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ
  • Hotpack ประคบร้อน
รายการ
Course 3 ครั้ง
Course 5 ครั้ง
โปรแกรม Light Office
เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวดคอ บ่า สะบัก และเวียนศีรษะมาก
4,750.-
ปกติ 5,100.-
7,650.-
ปกติ 8,500.-
โปรแกรม Hard Office
เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการตึงรั้งหนักคอ บ่า สะบักอย่างมาก
5,750.-
ปกติ 6,150.-
9,250.-
ปกติ 10,250.-
เงื่อนไขการเข้ารับบริการ
  • ราคาแพ็กเกจรวมค่าประเมินอาการโดยนักกายภาพบำบัดและค่าบริการโรงพยาบาล
  • ราคาแพ็กเกจไม่รวมค่าตรวจวินิจฉัยทางการแพทย์ ในการเข้ารับบริการครั้งแรก
  • กรุณาใช้บริการภายใน 90 วัน นับจากวันที่ซื้อ
    แพ็กเกจดังกล่าวไม่สามารถใช้ร่วมกับสิทธิ์และส่วนลดอื่นๆ ได้
  • ขอสงวนสิทธิ์ใช้เฉพาะผู้ที่ชำระเงินเท่านั้น และไม่สามารถคืนเงินได
  • โรงพยาบาลขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
วันนี้ - 31 ธันวาคม 2568

โปรแกรมและแพ็คเกจ

วัคซีนงูสวัด ชนิดใหม่

วัคซีนงูสวัด (RZV)

Recombinant Zoster Vaccine

วัคซีนงูสวัด (RZV)

2 เข็ม : 11,900.-

1 เข็ม : 5,990.-


  • มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคงูสวัด 97% ในผู้ใหญ่อายุ 50 ปีขึ้นไป
  • ประสิทธิภาพในการป้องกันอาการปวดเส้นประสาท (PHN) 91.2%
  • เมื่อติดตามยาวนานถึง 10 ปี พบว่า มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคงูสวัด 89%

BUY NOW!

วัคซีนงูสวัด (RZV)

Recombinant Zoster Vaccine
โรคงูสวัดใครเสี่ยง
โรคงูสวัดเป็นการติดเชื้อไวรัส Varicella Zoster เชื้อเดียวกับการก่อโรคสุกใส เมื่อหายแล้วเชื้อไวรัสจะไปแฝงตัวอยู่ในปมประสาท เมื่อร่างกายอ่อนแอ หรือมีภาวะภูมิคุ้มกันถดถอยตามวัย เชื้อจะถูกกระตุ้นขึ้นมาก่อให้เกิดโรค “งูสวัด”ดังนั้นผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป มีโอกาสเกิดโรคงูสวัดเพิ่มสูงขึ้น มากกว่า 90% เคยติดเชื้อสุกใสมาแล้ว จะมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดโรคงูสวัดด้วย และผู้ที่เคยเป็นโรคงูสวัด มีโอกาสเป็นซ้ำประมาณ ร้อยละ 6.2 โดยมีปัจจัยเสี่ยง เช่น เครียด พักผ่อนไม่เพียงพอ โรคภูมิคุ้มกันกพร่อง ติดเชื้อ HIV คนไข้มะเร็ง รวมถึงผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน โรคปอด โรคไต รวมถึงผู้ที่เคยติดเชื้อ Covid-19
การป้องกันโรคงูสวัด
  • จัดการความเครียด รักษาสุขอนามัย หลีกเลี่ยงสัมผัสใกล้ชิดกับผู้มีอาการ
  • วัคซีนป้องกันโรคงูสวัด ถือเป็นวิธีการป้องกันโรคงูสวัดที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ปัจจุบัน มี 2 ชนิด
  • วัคซีนชนิดเชื้อเป็นอ่อนแรง (ZVL)
  • วัคซีน protein subunit ร่วมกับสารเสริมฤทธิ์ (Recombinant Zoster Vaccine - RZV)
วัคซีนป้องกันงูสวัด ชนิดใหม่ ไม่ใช่เชื้อเป็น - Recombinant Zoster Vaccine (RZV)
  • มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคงูสวัด 97% ในผู้ใหญ่อายุ 50 ปีขึ้นไป
  • ประสิทธิภาพในการป้องกันอาการปวดเส้นประสาท (PHN = Postherpetic neuralgia) 91.2%
  • เมื่อติดตามยาวนานถึง 10 ปี พบว่า มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคงูสวัด 89%
วัคซีนงูสวัด - Recombinant Zoster Vaccine (RZV)
จำนวน
ราคา
2 เข็ม
ฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 2 - 6 เดือน
11,900 .-
1 เข็ม
ฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 2 - 6 เดือน
5,990 .-
รวมค่าแพทย์และค่าบริการ รพ.
คำแนะนำการฉีดวัคซีน
  • แนะนำในผู้ใหญ่ อายุ 50 ปีขึ้นไป ฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 2-6 เดือน และผู้ที่มีอายุมากกว่า 18 ปีที่มีความเสี่ยงในการเกิดโรคงูสวัดมากกว่าปกติ
    เช่น ผู้ที่ระบบภูมิคุ้มกันมีปัญหา ผู้ใช้ยาสเตียรอยด์และผู้ที่รับการรักษาด้วยรังสีวิทยาหรือเคมีบำบัด ฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 1-2 เดือน
  • ไม่จำเป็นต้องตรวจภูมิคุ้มกันโรค (Varicella IgG) สามารถฉีดในบุคคลที่เคยหรือไม่เคยเป็นโรคอีสุกอีใสมาก่อน
  • ในกรณีที่เคยเป็นงูสวัดมาก่อน สามารถฉีดได้โดยให้เว้นระยะห่างหลังจากเป็นงูสวัดอย่างน้อย 6 เดือน
  • หากอายุยังไม่ถึงเกณฑ์ที่จะต้องได้รับวัคซีนงูสวัด ให้อยู่ในดุลยพินิจของแพทย์
วันนี้ - 30 มิถุนายน 2568

โปรแกรมและแพ็คเกจ

รักษาโรคภูมิแพ้โพรงจมูกอักเสบด้วยคลื่นความถี่วิทยุ

รักษาโรคภูมิแพ้โพรงจมูกอักเสบด้วยคลื่นความถี่วิทยุ

รักษาโรคภูมิแพ้ด้วยคลื่นวิทยุ : 20,000.-


การรักษาโรคภูมิแพ้ด้วยคลื่นวิทยุ เป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้เป็นโรคภูมิแพ้

รักษาโรคภูมิแพ้โพรงจมูกอักเสบด้วยคลื่นความถี่วิทยุ

โรคภูมิแพ้
โรคภูมิแพ้ หรือโรคจมูกอักเสบเรื้อรัง ถือว่าเป็นโรคที่พบบ่อยโรคหนึ่งเลยทีเดียวสำหรับคนเมือง สาเหตุของโรค เกิดจากเยื่อบุจมูกมีความไวผิดปกติเมื่อสัมผัสกับสิ่งกระตุ้น ทำให้ผู้ป่วยมีอาการของโรคที่สามารถสังเกตได้ เช่น คันจมูก จามติดต่อกันหลายครั้ง มีน้ำมูกใสไหลตลอดเวลา เสมหะไหลลงคอ จมูกไม่ได้กลิ่นหรือได้กลิ่นลดลง หรืออาจมีอาการอื่นๆ เช่น คันตา คันคอ คันหู หรือคันที่เพดานปาก ปวดศีรษะ ปวดหู หูอื้อ เป็นต้น โดยทั่วไปผู้ป่วยมักบรรเทาอาการด้วยการหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น ร่วมกับการใช้ยารับประทาน การใช้ยาพ่นจมูก และการใช้น้ำเกลือล้างจมูก กรณีที่ผู้ป่วยมีอาการเรื้อรังและไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยาอย่างเต็มที่แล้วนั้นปัจจุบันได้มีการนำเทคโนโลยีคลื่นความถี่วิทยุมาใช้ในการผ่าตัด เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการรักษาโรคภูมิแพ้โพรงจมูกอักเสบซึ่งได้ผลลัพธ์ที่ดีหลังการรักษา
วิธีการรักษา
  • แพทย์จะใช้ยาชาเฉพาะที่ ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล
  • ใช้เวลาในการทำการรักษาประมาณ 20 นาที
  • ลดอาการคัน จาม น้ำมูกไหล และเสมหะในคอจะเห็นผลชัดเจนใน 4-6 สัปดาห์
  • ผลนั้นคงอยู่ได้นานถึง 1-2 ปี
เงื่อนไขการเข้ารับบริการ
  • ราคาแพ็กเกจรวมหัตถการรักษาโรคภูมิแพ้ด้วยคลื่นวิทยุ RF ไม่รวมค่าตรวจวินิจฉัยทางการแพทย์และค่ายากลับบ้าน
  • แพ็กเกจดังกล่าวไม่สามารถใช้ร่วมกับสิทธิ์และส่วนลดอื่นๆ ได้ เช่น ผู้ถือหุ้น บริษัทคู่สัญญา บริษัทประกัน
  • กรณีใช้สิทธิประกัน โรงพยาบาลตรวจสอบสิทธิ์ความคุ้มครอง และจัดการเรื่องเอกสารให้ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของบริษัทประกัน
  • ผู้เข้ารับบริการชำระค่าใช้จ่าย ณ โรงพยาบาล ในวันที่เข้ารับบริการ
  • โรงพยาบาลขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
วันนี้ - 30 มิถุนายน 2568

โปรแกรมและแพ็คเกจ