การรักษา คลินิค คอหูจมูก

การให้บริการตรวจรักษา แผนก หู คอ จมูก

ให้การบริการตรวจโรคต่างๆดังนี้

1.ตรวจรักษา วินิจฉัยโรค ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับโรคทาง หู จมูก คอ  ทั่วไป

2.ตรวจรักษาโรคทางด้านหู

หูอักเสบ ซีสต์ที่ใบหู ขี้หูอุดตัน สิ่งแปลกปลอมเข้าหู แก้วหูทะลุ ฝีที่หู มะเร็งในหู ประสาทหูเสื่อม เสียงในหู น้ำในหูไม่เท่ากัน เวียนศีรษะบ้านหมุน

หัตถการที่ทำกับผู้ป่วยที่มีปัญหาทางหู

1.การผ่าตัดปะแก้วหู  Tympanoplasty

2.การผ่าตัดฝังท่อที่แก้วหู

3.การเจาะอาหนองที่หูออก เพื่อระบายหนองที่เกิดจากการอักเสบติดเชื้อ

4.การผ่าตัดก้อนซีสต์ที่หู

5.การทำความสะอาดหู แคะหู ผ่านกล้อง Microscope

6.การเขี่ยเอาสิ่งแปลกปลอมออกจากหู

7.เย็บซ่อมแซมใบหู

3.ตรวจรักษาโรคทางคอ

เจ็บคอ ทอนซิลเป็นหนอง แผลร้อนใน  มะเร็งที่ลิ้น  นอนกรน ไทรอยด์ สิ่งแปลกปลอมเข้าคอ

หัตถการที่ทำกับผู้ป่วยที่มีปัญหาทางคอ

1.ผ่าตัดทอนซิล

2.จี้แผลร้อนใน

3.ดึงกรามให้เข้าที่ในรายที่ข้างกรรไกรค้าง

3.ผ่าพังผืดใต้ลิ้น

4.เจาะฝีบริเวณรอบคอด้านนอก

5.ผ่าตัดตกแต่งเพดานอ่อนและลิ้นไก่

6.เจาะคอ เปลี่ยน Tube

7.ผ่าตัดไทรอยด์

8.ผ่าตัดก้อนที่สายเสียง

9.การทำ FNA ที่คอที่ก้อนไทรอยด์ ก้อนที่ต่อมน้ำลาย

10.เอาสิ่งแปลกปลอมออกจากคอ เช่น ก้างปลา กระดูกติดคอ

4.ตรวจรักษาโรคทางจมูก

คัดจมูก ภูมิแพ้  เลือดกำเดาไหล ริดสีดวงจมูก ดั้งจมูกหัก  ไซนัส

หัตถการที่ทำกับผู้ป่วยที่มีปัญหาทางจมูก

1.ผ่าตัดไซนัส

2.ผ่าตัดริดสีดวงจมูก

3.ผ่าตัดแก้ไขผนังจมูกคด

4.จี้ไฟฟ้าห้ามเลือด กรณีเลือดกำเดาไหล

5.แก้ไขดั้งจมูกหัก

6.ห้ามเลือดโดยการPacking ในจมูก

ความสำคัญของการทำผ่าตัดและหัตถการ จะเป็นเป็น 2 กรณี มีดังนี้

1.ผู้ป่วยนอก OPD CASE เป็นการตรวจรักษา การทำผ่าตัดและหัตถการเสร็จแล้วกลับบ้านได้ เช่น การตรวจโรคทั่วไป  ผ่าตัดก้อนที่ใบหู การเจาะFNA  เจาะระบายหนอง

2.ผู้ป่วยใน IPD CASE ผู้ป่วยจะต้องนอนโรงพยาบาล เพื่อทำหัตถการในห้องผ่าตัด เช่นการผ่าตัดทอนซิล ผ่าตัดปะแก้วหูผ่าตัดตกแต่งเพดานอ่อน ผ่าตัดไซนัส

 

โรคภูมิเเพ้

โรคภูมิแพ้

        โรคภูมิแพ้ คือ โรคที่เกิดจากการตอบสนองของร่างกายต่อสารกระตุ้นที่ในภาวะปกติแล้วจะไม่ทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย เช่น ไรฝุ่น ละอองเกสรพืชแต่ในโรคภูมิแพ้ร่างกายจะเกิดการตอบสนองอย่างมากผิดปกติต่อสารเหล่านั้น จึงทำให้เกิดการอักเสบในอวัยวะที่สัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ (Allergen) นั้น เช่น

– ถ้าเป็นโรคภูมิแพ้ทางจมูกเมื่อเราหายใจเข้าไปทางจมูกสารก่อภูมิแพ้จะไปสัมผัสกับเยื่อบุโพรงจมูกแล้วทำให้เกิดการอักเสบในโพรงจมูก    เกิดอาการคัดจมูก จาม มีน้ำมูกใสๆ และคันจมูก

– ถ้าเป็นโรคหืด เมื่อหายใจเอาสารก่อภูมิแพ้เข้าไปถึงหลอดลมก็จะทำให้เกิดการอักเสบของหลอดลม แล้วหลอดลมก็จะตอบสนองด้วยการหดเกร็ง เกิดอาการของหลอดลมตีบขึ้น

ทั้งนี้ อาจใช้เวลาก่อนเกิดอาการเป็นนาที หรือเป็นชั่วโมงก็ได้หลังสัมผัสสารก่อภูมิแพ้

ในคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ ยังมักมีแนวโน้มที่จะเกิดการตอบสนองไวกว่าปกติต่อสิ่งกระตุ้นที่ไม่ ใช่สารก่อภูมิแพ้ได้ เช่น ความเย็น ความร้อน ความกดอากาศต่ำ ฝน และ/หรือความชื้น ซึ่งภาวะนี้อาจอยู่นานเป็นวัน หรือเป็นเดือนก็ได้ และสามารถเกิดอาการได้โดยไม่จำเป็นต้องสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้

สาเหตุ                                                                 

      โรคภูมิแพ้ เกิดจากพันธุกรรม และสิ่งแวดล้อม โดยพบว่าถ้าบิดาหรือมารดาเป็นโรคภูมิแพ้ จะทำให้บุตรมีโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้ประมาณ 30-50% แต่ถ้าทั้งบิดาและมารดาเป็นโรคภูมิแพ้จะมีผลให้บุตรมีโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้มากขึ้นถึงประมาณ 50-70% ในขณะที่เด็กที่มาจากครอบครัวที่ไม่มีประวัติโรคภูมิแพ้เลยมีโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้เพียงประมาณ 10%เนื่องจากในปัจจุบันยังไม่สา มารถแก้ไขปัจจัยทางพันธุกรรมได้ ดังนั้นการกำจัดและหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้และสารระคายเคืองต่างๆ เช่น ควันบุหรี่ ไรฝุ่น ในผู้ป่วยและครอบครัวที่เป็นโรคภูมิแพ้ (ซึ่งมีความเสี่ยงสูง) จะสามารถลดอาการของโรค หรือป้องกันไม่ให้เกิดโรคภูมิแพ้ขึ้นได้แบ่งออกเป็น 5 ชนิด

ชนิดของโรคภูมิแพ้ อาจแบ่งตามระบบของร่างกาย ออกได้เป็น 5 กลุ่มคือ

1.โรคภูมิแพ้ทางเดินหายใจ ได้แก่โรคหืด (Asthma)

2.โรคโพรงจมูกอักเสบจากภูมิแพ้หรือโรคแพ้อากาศ (Allergic rhinitis)

3.โรคภูมิแพ้ทางผิวหนัง(Allergic skin disease)

4.โรคภูมิแพ้ทางตา(Eye allergy)

5.โรคภูมิแพ้ชนิดรุนแรงที่มีอาการหลายระบบ (Anaphylaxis)